“ดูคาติ” ทุ่มขยายตลาดส่งบิ๊กไบก์กลุ่มออฟโรดเสริมทัพ ไตรมาส 3

โมโตเรอิตาเลียนเทงบฯ 170 ล้าน ชูบริการนำการขายฟื้นความเชื่อมั่นลูกค้า ปรับลดราคาอะไหล่ค่าแรงลง 20% ส่งอีก 2 รุ่น กระตุ้นตลาดไตรมาส 3 

วันที่ 2 สิงหาคม 2565 นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมโตเรอิตาเลียน จำกัด เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในช่วงเวลา 5 ปี (2564-2568) ของดูคาติในประเทศไทย ว่า ยังให้ความสำคัญการสร้างแบรนด์และฟื้นความเชื่อมั่น โดยเตรียมงบประมาณราว ๆ 170 ล้านบาท เพื่อใช้ในกิจกรรมการขายและการตลาดโดย 2 ปีแรก 40 ล้านบาท และ 3 ปีสุดท้ายอีก 30 ล้านบาท 

“2 ปีแรกเราตั้งเป้า 1,200 คัน และในปี 2556 จะโตเพิ่มอีก 50%”

และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดูคาติจะใช้กลยุทธ์หลักสำคัญโดยเฉพาะบริการนำการขายเพื่อฟื้นความมั่นใจให้กับลูกค้า และล่าสุดยังได้ปรับลดราคาอะไหล่ลงให้สมเหตุสมผลและปรับลดค่าแรง 15-20%

สำหรับยอดขายหลักของดูคาติ ประกอบด้วย 3  รุ่น แบ่งเป็น รุ่นมอนเตอร์ 26% สแกรมเบอร์ 22% พานิกาเร่ 17% จากรถที่มีขายอยู่ในปัจจุบันมากถึง 34 รุ่น 

มล.กมลชาติ ประวิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า จากนี้จะมุ่งเน้นทำตลาดในกลุ่ม ทัวริ่งเพื่อเพิ่มสัดสว่นยอดขาย ให้สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาด รวมทั้งเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ตลาดรถบิ๊กไบก์ พรีเมี่ยม ในกลุ่มรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ 400 ซีซีขึ้นไป โดยรวมน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คือ 5,000 คัน และดูคาติมียอดขาย ติด 1 ใน 4 ที่มียอดขายสูงสุดจากปัจจุบันมีจำนวนรถดูคาติในประเทศไทย อยู่ประมาณ 13,000 คัน 

โดยในปีนี้มีแผนเตรียมเปิดรุ่นใหม่อีก 2  รุ่น ในกลุ่มออฟโรด และรุ่นพิเศษ เพื่อมากระตุ้นตลาดและในช่วงไตรมาส 3

ส่วนแผนการขยายเครือข่ายนั้น ปีนี้คาดว่าจะเปิดโชว์รูมอีก 2 แห่ง ในเขตพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก จากปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนยบริการอยู่ 7 แห่ง ได้แก่ สาขาสุวรรณภูมิ, ราชพฤกษ์, ประดิษฐ์มนูญธรรม, ขอนแก่น,พิษณุโลก, ลพบุรี และภูเก็ต

“ไทยยังคงเป็นบ้านหลังที่สองของดูคาติเนื่องมีโรงงานเพียง 2 แห่งในโลก คือ โบโลญญา สเปน และระยอง ประเทศไทย”

ส่วนแผนการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หากบริษัทแม่มีแผน ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่ได้นำเข้ามาทำตลาด แต่ในเร็วนี้จะได้สัมผัสกับรถ MotoE ที่ใช้ในการแข่งขันก่อน