
มิตซูบิชิ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ส่ง รถยนต์ B-SUV ‘เอ็กซ์ฟอร์ส ไฮบริด’ จากโรงงานแหลมฉบัง ลุยตลาด หวังชิงพื้นที่ขาย แย้มตั้งเป้ายอดจอง ลอตแรก 3,000 คัน ก่อนเริ่มก่อนส่งกลางเดือนพฤษภาคมนี้
นายเรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในกลุ่ม รถคอมแพ็กต์เอสยูวีบี มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี (MITSUBISHI XFORCE HEV) ที่ผลิตจากโรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ จ.ชลบุรี พร้อมตั้งเป้าจะมียอดจองหลังเปิดตัวไว้ที่ 3,000 คัน ก่อนเริ่มส่งมอบรถได้ในช่วงกลางเดือน พฤษภาคม 2568
มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนาจากระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ที่ได้รับการออกแบบภายนอก ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Silky and Solid’ เน้นความเรียบหรู แต่ทรงพลัง สะท้อนผ่านรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่น เปรียบสมือนไอคอนนิกแห่งยุค
มีไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoked จัดเรียงเป็นรูปตัวที, ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว เสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุ และสีที่ตัดกับสี
ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบโดยใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ประณีตในทุกรายละเอียด คอนเซ็ปต์ตามแนวคิด “Horizontal Axis” ห้องโดยสารสีทูโทน ตกแต่งด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ และคราบสิ่งสกปรก มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน
มีไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่า พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System) เครื่องเสียงและระบบเสียงคุณภาพ มลำโพง 8 ตำแหน่ง ที่พัฒนาร่วมกับ ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น, ระบบฟอกอากาศ nanoeTM X ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย, ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านหน้า
มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี พร้อมกับ MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสานสามเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของมิตซูบิชิ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC)
สำหรับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ ทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฮบริด
ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว MIVEC เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรก ระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตามการขับขี่และสภาพถนน ให้อัตราเร่งที่ดี และนุ่มนวล
มิตซูบิชิได้เพิ่มกลไกตัดการเชื่อมต่อของมอเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน ส่งผลให้รถมีอัตราประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด 24.4 กิโลเมตร/ลิตร และยังมากับ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ได้แก่
- Normal (ถนนทั่วไป)
- Wet (ถนนเปียก)
- Gravel (ถนนลูกรัง)
- Tarmac (ถนนลาดยาง)
- Mud (ถนนโคลน)
- และอีก 2 ทางเลือกพลังงานทั้ง
- Charge (โหมดการชาร์จ)
- EV Priority (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%)
รวมทั้งมีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง หรือ AYC (Active Yaw Control) ที่ทำงานโดยคำนวณการส่งกำลังลงที่ล้อซ้าย-ล้อขวา ให้หมุนสัมพันธ์กัน ขณะที่รถเข้าโค้ง เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้สามารถขับผ่านทางโค้งได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และมั่นใจในทุกสถานการณ์
ขณะที่ระบบความปลอดภัย Diamond Sense จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำงานอย่างแม่นยำผ่านการทำงานของกล้อง เรดาห์ และเซ็นเซอร์ มีมาครบครัน
เบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น Ignite ราคา 899,000 บาท
รุ่น Ultimate ราคา 1,039,000 บาท - รุ่น Ultimate X ราคา 1,089,000 บาท