Market-think : ความหวัง-ความฝัน

ป้ายหาเสียง
คอลัมน์ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองเริ่มติด “ดาบปลายปืน”

จ้องเสียบคู่ต่อสู้ทางการเมืองที่เป็น “เป้าหมาย”

อย่างคลิปหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติที่สร้างเสียงฮือฮา

“ถามคนไทย คุณอยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม จริงหรือ”

ชัดเจนว่าดาบปลายปืนนั้นพุ่งเป้าไปที่พรรคก้าวไกล

ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย

คล้าย ๆ กับเพลงแร็ปของกองทัพภาคที่ 2

แสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พรรครวมไทยสร้างชาติมองพรรคก้าวไกลเป็นคู่ต่อสู้โดยตรงมากกว่าพรรคเพื่อไทยที่เคยเป็นคู่ปรับในอดีต

ไม่มีการปลุก “ผีทักษิณ” ขึ้นมา

แต่ปลุก “ผีก้าวไกล” ขึ้นมาแทน

คำถามก็คือ ทำไมถึงโจมตีพรรคก้าวไกล

คำตอบก็คือ เพราะพรรคก้าวไกลได้ยกระดับเป็นที่เกลียดชังของกลุ่มอนุรักษนิยมเหนือกว่าพรรคเพื่อไทยหรือ “ทักษิณ ชินวัตร” เรียบร้อยแล้ว

การโจมตีพรรคที่คนฝั่งนี้เกลียด จะทำให้เสียงของคนกลุ่มนี้เทไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

แทนที่จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือ พรรคพลังประชารัฐ

ในขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติใช้กลยุทธ์ “ไม่เลือกเรา เขามาแน่”

เล่นกับความเกลียดกลัว

พรรคก้าวไกลกลับเล่นเกม “ความฝัน”

ถ้าใครได้เห็น 2 คลิปหลังของพรรคก้าวไกล

“กาก้าวไกล เปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน”

“ได้เวลาประชาชนฝันใหญ่”

ต้องบอกเลยว่า เป็นคลิปที่ทรงพลังมาก

มีคนบอกว่า เหมือนดูโฆษณา “1984” คอมพิวเตอร์แม็คอินทอชของแอปเปิลในอดีต

คลิปของคนบ้าที่อยากเปลี่ยนแปลงโลก

ผมเชื่อว่าคนหนุ่มสาวดู 2 คลิปนี้แล้ว ไฟลุกแน่นอน

คนมีอายุก็รู้สึกว่าตอนที่เรายังหนุ่มยังสาว เราก็เคยคิดแบบนี้

เป็นการต่อไฟฝันให้กับผู้ใหญ่

ส่วนพรรคเพื่อไทย นั้นยังเล่นเกม “ความเชื่อมั่น”

ตอกย้ำเรื่องประสบการณ์ ว่าเขาเคยทำมาก่อน

เคยทำสำเร็จมาแล้ว

เคยผ่านคำปรามาสมาแล้วว่า “ทำไม่ได้” ไม่ว่าโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ

แต่สุดท้ายก็ทำได้จริง

เรื่องนี้เป็นอาวุธที่ทรงพลังมากของพรรคเพื่อไทย

เพราะพรรคอื่นเลียนแบบไม่ได้

จะเห็นได้ว่าตอนแรกของการหาเสียงเลือกตั้ง ทุกพรรคหลงไปเล่นเกมนโยบายตามพรรคเพื่อไทย

สนามนี้ “เพื่อไทย” เหนือกว่าใคร

ทั้งการคิดนโยบายที่โดนใจคน เข้าใจง่าย

ที่สำคัญ “ความเชื่อมั่น” ว่าพรรคนี้ทำได้จริง

แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเจอกับพลังแห่ง “ความฝัน” ที่พรรคก้าวไกลปลุกขึ้น

และมีคนตอบรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ต้องยอมรับว่า ครั้งนี้พรรคก้าวไกลเดินเกมหาเสียงได้ล้ำมาก ๆ

สมเป็น “คนรุ่นใหม่”

ทั้งพลังของการเดินหาเสียงแบบใช้แรงมากกว่าเงิน

การปลุกหัวคะแนนธรรมชาติให้ลุกขึ้นมาช่วยผู้สมัครของพรรค

และการใช้ “โซเชียลมีเดีย” เจาะทะลวงเข้าทุกบ้าน

รวมถึงคาราวานหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย

ถือเป็นกลยุทธ์การหาเสียงรูปแบบใหม่ที่ทุกพรรคต้องศึกษาเพื่อใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

แต่สีสันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะมีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งหรือไม่

14 พฤษภาคม คงได้รู้กัน

อย่าลืมนะครับ วันอาทิตย์นี้ไม่ว่าใครจะมีตำแหน่งสูงส่งแค่ไหน

เมื่อเข้าคูหาเลือกตั้ง ทุกคนเท่าเทียมกัน

มี 1 เสียงที่จะกำหนดอนาคตประเทศไทย

จะเลือกให้เมืองไทยเหมือนเดิม

หรือจะเปลี่ยนประเทศไทย

“อำนาจ” อยู่ในมือของคุณ