ตื่นแต่ไม่ตระหนก โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร

People wear at the Nanjing Pedestrian Road, a main shopping area, in Shanghai, China January 24, 2020. REUTERS/Aly Song
คอลัมน์ คนเดินตรอก โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร

ข่าวเรื่องโรคระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2519 ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางผ่านมาทางตะวันออกของประเทศจีน เมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองชุมทางการขนส่งทางน้ำเช่นเดียวกับนครสวรรค์ ปากน้ำโพ มาแต่สมัยโบราณ เพราะเป็นเมืองที่แม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮั่นกังสีมาประจบพบกัน ข้างหนึ่งน้ำเป็นสีแดง อีกข้างหนึ่งเป็นน้ำใส การขนส่งทางน้ำเป็นการขนส่งที่มีราคาถูกที่สุด

ในสมัยก่อนการปลดปล่อยในปี ค.ศ. 1947 เมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองท่าสำคัญที่ฝรั่งมาบังคับเช่า 100 ปีจากราชสำนักจีน และได้แบ่งเมืองอู่ฮั่นเป็นเขตเช่าของฝรั่งชาติต่าง ๆ เช่นเดียวกับเมืองกว่างโจว เมืองเซี่ยงไฮ้ เอ้หมึง และเมืองเทียนสิน ทุกวันนี้ตึกรามบ้านช่อง สถานที่ราชการ สำนักงาน บริษัทห้างร้านของฝรั่งชาติต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่ให้เห็น เช่นเดียวกับเมืองที่เป็นเขตเช่าของฝรั่งเมืองอื่น ๆ

ด้วยเหตุนี้ เมืองอู่ฮั่นจึงเป็นเมืองใหญ่ เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรม การค้าการเงิน การคมนาคม ทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ มีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมากหลายล้านคน เมื่อมีข่าวว่าเกิดโรคระบาดไวรัสโคโรน่า ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อถึงกันได้จากคนสู่คน แม้ว่าไม่ร้ายแรงเท่าโรคซาร์ส หรือไข้หวัดนก หรือเมอร์ส ซึ่งเป็นโรคระบาดในสัตว์ที่ไม่ติดต่อกับคนโดยตรง เพราะไข้หวัดโคโรน่าเป็นโรคที่จัดอยู่ในกลุ่มไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดหนึ่ง ซึ่งตัวไวรัสที่เป็นเชื้อโรคอยู่ตามลำพังแทบไม่ได้ ต้องอาศัยอยู่ในของเหลวในตัวมนุษย์ เช่น น้ำลาย น้ำเหลือง และอื่น ๆ จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง

ความรู้ดังกล่าวได้แพร่ขยายอย่างรวดเร็วผ่านทางสื่อมวลชนสาขาต่าง ๆ แม้ไม่อยากอ่าน ไม่อยากฟัง ไม่อยากเห็น ก็ต้องได้อ่าน ได้ฟัง ได้เห็น เพราะการประโคมข่าวทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ รวมทั้งโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เป็นทั้งความตื่นตัวและด้วยเหตุผลทางธุรกิจของสื่อมวลชนที่ต้องแข่งขันกันเสนอข่าว ทั้งในทางกว้าง ทางลึก ความเร็ว ความต่อเนื่อง

ในสมัยสามก๊ก ซุนกวนตั้งมั่นอยู่ที่เมืองกังตั๋ง เมืองกังตั๋งเป็นเมืองหลวงของง่อก๊ก ทางทิศตะวันออก เมืองอู่ฮั่น อู่ซัง ฮั่นหยาง ฮั่นโจว และเมืองเกงจิ๋ว ปัจจุบันภาษาจีนกลางเรียกว่าเมืองจิงโจว อย่างไรก็ตาม เมืองอู่ฮั่น อู่ซัง ก็เป็นเมืองสำคัญมีประชากรเป็นจำนวนมากมาแต่สมัยโบราณ เมื่อฝรั่งแผ่อิทธิพลเข้ามายังประเทศจีน ก็ยึดเมืองอู่ฮั่นไว้เป็นเขตเช่าที่สำคัญ

การประกาศปิดเมืองอู่ฮั่นเพื่อตัดเส้นทางการระบาดของไวรัสโคโรน่า จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบกระเทือนคนจำนวนมาก และยิ่งขยายตัวไปถึงการเดินทางติดต่อระหว่างคนทั้งมณฑลหูเป่ย์ ยิ่งต้องถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกสมัยใหม่เป็นอันมาก

หากมิใช่เป็นประเทศที่ยังคงปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ก็คงจะทำไม่ได้ การปิดเมืองอู่ฮั่นทั้งเมืองไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้โดยง่าย เพราะย่อมจะกระทบกระเทือนคนจำนวนหลายล้านคน จากตัวเลขคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ประมาณ 15,000 คน จากตัวเลขในต้นสัปดาห์นี้ และมีคนตายประมาณ 350 คน ซึ่งต้องถือว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ

สำหรับประเทศไทย แม้จะมีตัวเลขที่รายงานกันว่าเป็นประเทศที่มีคนติดเชื้อโรคนี้มากเป็นที่ 2 รองจากประเทศจีน และเป็นประเทศที่มีคนติดเชื้อโรคนี้มากที่สุดนอกประเทศจีน แต่ก็มีจำนวนน้อย มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้ติดมาจากนักท่องเที่ยวจีนเพียง 19 คน และยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ในประเทศไทยเลย และออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว 8 ราย ระบบการคัดกรองตามจุดผ่านแดนต่าง ๆ ก็ได้รับรายงานว่าทำได้ดี ในการที่สามารถคัดกรองผู้เดินทางจากจีนเข้าสู่ประเทศไทย

มีผู้เสนอว่าควรจะยกเลิกการให้วีซ่า ณ จุดผ่านแดนสำหรับนักท่องเที่ยวจีนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอย่างไรเสียการปิดเมืองอู่ฮั่น และการคัดกรองคนจีนออกนอกประเทศจีนก็ทำอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว การออกประกาศงดการทำวีซ่าเข้าประเทศในจุดผ่านแดน หรือ visa on arrival หรือ VOA น่าจะเป็นการซ้ำเติมทางด้านจิตใจให้กับคนจีนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้วีซ่า ณ จุดผ่านแดน ซึ่งเป็นการเดินทางที่สะดวกกว่าการทำวีซ่าที่สถานทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง หรือสถานกงสุลไทยในเมืองต่าง ๆ เป็นอันมาก

เมื่อมีข่าวว่าเรารังเกียจ หรือกลัวนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศไทย จะเป็นพาหะนำเชื้อโรคไวรัสโคโรน่ามาด้วย ก็จะยิ่งกระทบกระเทือนจิตใจนักเดินทางชาวจีนที่แข็งแรง ซึ่งเป็นชาวจีนส่วนมาก และมาจากมณฑลหูเป่ย์ด้วยก็ตาม

การตัดสินใจไม่ระงับการให้วีซ่า ณ จุดเข้าเมือง สำหรับนักท่องเที่ยวจีนของไทย จึงน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เป็นการตัดสินใจที่ “ตื่นแต่ไม่ตระหนก” ไปตามฝรั่งมังค่า เพราะประเทศไทยก็มีอะไรหลายอย่างที่ไม่เหมือนยุโรป

ไม่เหมือนอเมริกา ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ของแพทย์ไทย ระบบการรักษา ระบบการป้องกันโรคระบาดในเขตร้อนก็ไม่เหมือนใคร ไข้หวัดเล็ก ไข้หวัดกลาง ไข้หวัดใหญ่ ก็เป็นโรคที่ระบาดอยู่ในประเทศไทยเป็นประจำอยู่แล้ว

คนไทยจำนวนมากที่ “ตื่นรู้” ก็จะฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่โดยไม่ตระหนกเป็นประจำในเดือนธันวาคม-มกราคมทุกปีอยู่แล้ว ถ้ามีเพื่อนเป็นแพทย์ก็มักจะรวมกลุ่มกันไปฉีด สามารถไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ที่สถานเสาวภา หรือที่โรงพยาบาลของรัฐได้ทุกแห่ง หรือถ้าโชคร้ายไม่ได้ฉีดวัคซีน เกิดป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือเป็นไข้หวัดโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ก็ไม่ใช่จะหมดหวัง เพราะผู้ที่ติดโรคนี้ก็ยังสามารถรักษาให้หายได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นการติดเชื้อโรคมาจากประเทศจีน หรือได้สัมผัสผู้ได้รับเชื้อมาจากเมืองจีนก็ตาม

การเกิดโรคระบาดขึ้นจนกลายเป็นข่าวในสื่อมวลชนหลัก วัตถุประสงค์ในการเสนอข่าวจากแหล่งข่าวที่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ตาม ผู้เสพข่าวก็ต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณา การมีวิจารณญาณในการพิจารณาก็ต้องมี “สติ” การจะมี “สติ” ในการพิจารณาก็ต้องไม่ตระหนกไปตามข่าวที่ปรากฏเป็นกระแส เมื่อพิจารณาแล้วก็จะพบว่าโรคระบาดทุกโรคก็มีที่มาที่ไป ติดต่อกันได้หรือไม่ได้ ถ้าติดต่อกันได้ ติดต่อทางใดได้บ้าง ทางน้ำดื่มที่ไม่สะอาด ทางอาหารที่ไม่สดสะอาด ปราศจากแมลงวันตอม หรือทางการให้เลือด ทางเข็มฉีดยา หรือทางน้ำลาย ทางน้ำเหลือง ทางลมหายใจในที่อับหรือการสัมผัสทางกาย

เมื่อมีสติพิจารณาการเสพข่าว ข่าวที่ได้จากสื่อแหล่งต่าง ๆ ก็น่าจะมีความหลากหลายมากพอ เพราะทุกครั้งก็เห็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาอธิบายให้ข่าว แม้ว่าจะมีภาษาอังกฤษ หรือภาษาแพทย์ติดอยู่บ้าง โดยแพทย์ผู้ให้ข่าวไม่รู้ตัว ก็พอจะเข้าใจได้ เพราะศัพท์เหล่านั้นถึงรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเราที่เดินดินกินข้าวแกง ข่าวสารที่ได้ก็เพียงพอในการปฏิบัติตน ในการป้องกันตนจากภัยพิบัติ จากโรคระบาดแล้ว สำหรับชาวบ้านอย่างเรา ๆ แล้ว โดยไม่ต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด

สำหรับเจ้าหน้าที่ทั้งที่เป็นแพทย์ หรือนักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ถ้าจะลดการใช้ศัพท์ยาก ๆ ทางการแพทย์ลงเสียบ้าง เวลาให้ข่าวกับสื่อมวลชน หรือเวลาออกวิทยุหรือโทรทัศน์ ก็น่าจะเป็นการดี เพราะความตื่นตระหนกบางทีก็เกิดขึ้นจากการฟังศัพท์ยาก ๆ ที่เป็นภาษาละตินบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง ใช้ศัพท์ภาษาไทย หรือภาษาลาวง่าย ๆ บางทีก็จะลดความหวาดกลัว ความตื่นตระหนกได้ระดับหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้ข่าว หรือไม่ให้คำอธิบาย หรือปิดข่าว เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยมากยิ่งขึ้นก็เป็นอย่างที่คาด ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาดก็จะเป็นกระแสอยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 1-2 อาทิตย์ แม้ว่าโรคจะยังคงระบาดอยู่ต่อไป ข่าวก็กลายเป็นข่าวเก่าที่ผู้คนหายจากการตื่นเต้นไปแล้ว กลายเป็นของธรรมดา เมื่อกระแสกลับข้างเช่นนี้

บางทีก็เป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องพยายามกระตุ้นให้คนตระหนักรู้อยู่ว่าโรคร้ายยังไม่หายไป ยังเป็นอันตรายอยู่ ผู้คนก็ยังคงต้องปฏิบัติและระมัดระวังต่อไป จนกว่าทางการจะแน่ใจ และส่งสัญญาณให้ทราบ

ในบรรดา 4 กระทรวงหลักที่มีภาระหน้าที่ตามแผนพัฒนาในเขตชนบทยากจน ตามแผนพัฒนาฯฉบับที่ 5 กระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก ในเกือบจะทุกโครงการ เช่น โครงการอาสาสมัครสาธารณสุข โครงการโภชนาการสำหรับแม่และเด็ก โครงการสิ่งจำเป็นพื้นฐาน หรือ จ.ป.ฐ. และโครงการอื่น ๆ ทุกวันนี้

เราจะไม่เห็นเด็กเป็นโรคขาดอาหารพุงโรก้นปอด เป็นแผลพุพอง ตาแดง ตาแฉะ คางทูม อีสุกอีใส โรคหัดเยอรมันและอื่น ๆ เหมือนสมัยก่อน ถือว่าเป็นความสำเร็จของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นที่ยอมรับยกย่องไปทั่วโลก

เมื่อมีข่าวไวรัสโคโรน่าระบาดที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน แม้จะตื่นเต้นไปตามสื่อมวลชนที่เสนอข่าว ก็ไม่ต้อง “ตื่นตระหนก” ไปตามข่าว เพราะกระทรวงสาธารณสุขของเรามีความสามารถเกินพอที่จะรับมืองานเข้าประเภทนี้ได้ไม่เคยผิดหวัง