สุเทพ เข้ารับฟังคำพิพากษา คดีทุจริตประมูลโรงพัก 396 แห่ง

สุเทพเข้ารับฟังคำพิพากษาคดีฮั้วประมูลโรงพัก

“สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพัก 396 แห่ง 

วันที่ 20 กันยายน 2565 กรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีประมูลสถานีตำรวจ 396 แห่ง ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1-6

กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ) ในวันที่ 20 กันยายน 2565 เวลา 09.00 น.

ADVERTISMENT

ล่าสุด นายสุเทพได้เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับคดีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ) อัยการสูงสุด เคยสั่งไม่ฟ้อง พร้อมส่งสำนวนคืนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องเอง

ADVERTISMENT

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลฎีกาคดีนักการเมืองได้นัดพิจารณาครั้งแรก และได้อ่านอธิบายคำฟ้องพร้อมสอบคำให้การ จำเลยทั้ง 6 ให้การปฏิเสธข้อต่อสู้คดี โดยนายสุเทพระบุว่า ได้ต่อสู้คดีนี้มากว่า 6 ปี และได้ส่งคำให้การจำนวน 31 หน้า

และศาลจึงได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานโจทก์ 3 นัด ครั้งเเรกวันที่ 2, 30 มิถุนายน เเละวันที่ 7 กรกฎาคม นัดไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 19, 21, 26 กรกฎาคม 2565 จนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจึงนัดคู่ความฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 กันยายน 2565

ADVERTISMENT

ด้าน นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความนายสุเทพ กล่าวว่า ในวันนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา นายสุเทพมีความพร้อมที่จะเดินทางไปรับฟังคำพิพากษา ในส่วนของจำเลยคนอื่นนั้น เมื่อศาลนัดแล้วและเป็นการนัดล่วงหน้าเป็นเดือนทุกคนก็คงต้องมีความพร้อม

ในส่วนเนื้อหาของคดีนั้น นายสุเทพและทีมกฎหมายไม่มีความกังวลใจ เพราะไม่มีอะไรต้องกังวล เนื่องจากได้เสนอข้อเท็จจริงให้ศาลไปทั้งหมดแล้ว มั่นใจในข้อเท็จจริงที่เราให้ศาล ส่วนคำพิพากษาจะออกมาเช่นไร ไม่อาจรู้ได้ เพราะเป็นเรื่องของศาล แต่มั่นใจในความมีอยู่ของข้อเท็จจริงที่ได้นำเสนอไป

ส่วนถ้าหากผลคำพิพากษาออกมาไม่เป็นคุณกับฝ่ายจำเลยนั้น ทนายความทุกคดีมีการเตรียมพร้อมเรื่องหลักประกัน โดยหลักทรัพย์เดิมที่มีอยู่ที่ศาลก็ใช้ได้อยู่เเล้ว ซึ่งก่อนเข้าฟังคำพิพากษา นายสุเทพก็พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนตามที่สื่อมวลชนได้มีการขอมา