สุเทพ พร้อมรับผิด ก้มหน้ารับกรรม ปิดฉากการเมือง หากโชคร้ายศาลพิพากษาให้ผิดจริง
วันที่ 20 กันยายน 2565 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำพิพากษา ในคดีทุจริตโรงพัก 396 แห่งว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับชีวิตตน ตนถูกกล่าวหากระทำความผิดในกรณีการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง
การกล่าวหาตนเริ่มตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในประเด็นที่คู่แข่งทางการเมืองยกขึ้นมาโจมตี เพราะขณะนั้น สถานีตำรวจที่ประมูลไปแล้วสร้างไม่เสร็จจึงเอาตนเป็นแพะ คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีอีกคนหนึ่งคือนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ออกมาแถลงดำเนินคดี กล่าวหาว่าตนฮั้วประมูล ซึ่งตนได้ดำเนินคดีกับนายธาริตไปแล้ว และศาลจำคุกนายธาริต 1 ปี
หลังจากนั้น ป.ป.ช.รับเรื่องต่อจากดีเอสไอมาดำเนินการ เฉพาะการสอบสวนของ ป.ป.ช. ใช้เวลา 7 ปี ส่งให้อัยการสั่งฟ้อง แต่อัยการไม่เห็นด้วยกับสำนวน ป.ป.ช. โดยความเห็นของอัยการเห็นว่าตนไม่มีความผิด และตั้งคณะกรรมการร่วมมีการประชุมกันใช้เวลาอีก 1 ปี ในที่สุดสำนักอัยการสูงสุดส่งสำนวนคืนให้ ป.ป.ช. ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช.จึงฟ้องเอง
“ผมได้ต่อสู้คดีด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล ตัวบทกฎหมายเพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหา ส่วนศาลจะพิพากษาอย่างไร ผมก็เคารพศาล ในบรรดาอำนาจอธิปไตยทั้ง 3 ด้าน อำนาจตุลาการยังเป็นหลักของบ้านเมือง ยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้เสมอ ไม่ว่าผลการพิพากษาการตัดสินคดีวันนี้จะเป็นอย่างไร ผมน้อมรับทั้งนั้น และถือว่าผมได้ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่แล้ว” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า ที่บอกว่าเป็นวันสำคัญ เพราะมั่นใจว่าตนได้ทำคุณงามความดีให้กับบ้านเมือง ด้วยความสุจริตมาโดยตลอด ข้อกล่าวหาที่ว่าตนทุจริตเป็นตราบาปอยู่ในชีวิตมาร่วม 10 ปีแล้ว ถ้าวันนี้ศาลพิพากษาไม่ลงโทษตน ตนก็ได้เกียรติยศ ศักดิ์ศรี กลับคืนมา ถ้าโชคร้ายศาลลงโทษก็ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมไป ก็มีเท่านั้น ส่วนลึกลงไปในเนื้อหาของคดีตนพูดไม่ได้
“เราได้พยายามอธิบาย ชี้แจงมาโดยตลอด ทางเฟซบุ๊กส่วนตัวก็ทำตั้งแต่ตอนที่ ป.ป.ช.กล่าวหาแต่การที่ ป.ป.ช.กล่าวหามาย้ำแล้วย้ำอีกติดต่อกันมาร่วม 10 ปี ผมก็ตกเป็นจำเลยสังคม ประชาชนบางท่านอาจจะเชื่อไปแล้วก็ได้ แต่เมื่อมาถึงวันที่เรื่องยุติทั้งหมด ผมสบายใจขึ้นไม่ว่าผลเป็นอย่างไรก็ตาม”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจในพยานหลักฐานแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า คดีนี้ตนซักพยาน ว่าความเอง เชื่อมั่นในความจริง เชื่อมั่นในพยานหลักฐาน แต่เรื่องการพิจารณาของศาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า ถ้าศาลตัดสินในทางลบ จะเป็นการปิดฉากทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพตอบทันทีว่า “ผมปิดฉากอยู่แล้วครับ ถ้าทำตัวโดยผ่านกระบวนการของศาลยุติธรรมแล้ว ถือว่ายุติทุกอย่าง”
เมื่อถามว่า จะมีหลักฐานใหม่ในการยื่นอุทธรณ์ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานอะไรที่ใหม่กว่านี้อีกแล้ว อะไรที่เป็นพยานหลักฐาน เป็นข้อเท็จจริง ได้นำเสนออย่างครบถ้วนแล้ว คิดว่าจะจบภายในวันนี้
เมื่อถามว่า จะหักล้างข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช.ได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า พูดแบบนั้นหมิ่นเหม่อำนาจศาลนิดหน่อย แต่ผมมั่นใจว่าข้อเท็จจริงที่นำเสนอศาล ยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐานเหล่านั้น
สำหรับการเดินทางมาให้กำลังใจต่อนายสุเทพในวันนี้ มีบรรดาแกนนำ กปปส. อาทิ นายถาวร เสนเนียม, นายสกลธี ภัททิยกุล, นายณัฐพล ทีปสุวรรณ, นางทยา ทีปสุวรรณ, นายชุมพล จุลใส, นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.พรรคประชารัฐ
ด้าน ส.ส.พรรครวมพลัง ประกอบด้วย นางสาวจุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์, นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์, นางสาวสุเนตตา แซ่โก๊ะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
นอกจากนี้ ยังมี นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานรัฐสภา และนายเชน เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี