การเมือง

เพื่อไทย ผวาถูกจับแพ้ฟาวล์ สั่ง ส.ส.ตั้งการ์ดสูง ป้องกันเกมยุบพรรค

เพื่อไทย
คอลัมน์ : รายงานพิเศษ

ผลโพลหลายสำนักยกให้พรรคเพื่อไทย เต็งหนึ่งที่จะได้ ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้มากที่สุด มีเปอร์เซ็นต์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมากที่สุด

พรรคเพื่อไทยปั่นเรตติ้งเรียกกระแสต่อเนื่องด้วยการประกาศนโยบาย คิกออฟสู่การเลือกตั้งครั้งที่ 3 ไฮไลต์อยู่ที่การขึ้นค่าแรง 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 2.5 หมื่นบาท ในเวลา 5 ปี ถึง 2570

ชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง มากกว่าแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างการเมือง ขับเน้นภาพลักษณ์ของ “แพทองธาร ชินวัตร” ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เบอร์ 1 หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นจุดขายรากหญ้าภูธร แค่ชาวบ้านเห็นหน้าก็พะยี่ห้อ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีบารมีนอกพรรคเพื่อไทย เป็นเครื่องการันตี

ส่วนการชิงคะแนนในเมืองหลวง ก็จะใช้ชื่อซีอีโอธุรกิจอสังหาฯ หมื่นล้านมาเป็นตัวเลือกในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ในอีกไม่นานนี้

เจ้าตัวบอกคนในพรรคว่า “ไม่เป็นเรื่องการเมือง” แต่ก็แสดง “ความเห็นการเมือง” แบบไม่เว้นวรรค

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยระวังขั้นสุด ตั้งการ์ดทุกการโจมตี เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ถูกยุบพรรคเพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่หยุมหยิม

จึงระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ อีกทั้งมีการกำชับภายในพรรคว่า เรื่องเสี่ยง ๆ ที่พรรคอื่นทำได้ แต่พรรคเพื่อไทยไม่ควรทำ

มีมือกฎหมายระดับช่ำชองกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง มาช่วยเป็นติวเตอร์ให้กับ ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คือ “กฤช เอื้อวงศ์” อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) “ผมมาช่วยทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยปีกว่าแล้ว ไม่ได้ต้องการตำแหน่งอะไรภายในพรรค”

ดาบสองคม “ครอบครัวเพื่อไทย”

ในภาพของการเดินสาย “ครอบครัวเพื่อไทย” ไปทั่วทุกภาค เปิดการแสดงโดย “แพทองธาร” ที่รับบทเป็นตัวเอกของเรื่องในตำแหน่ง “หัวหน้าครอบครัว” มีพระรองคือ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และมีแกนนำพรรคเพื่อไทยตัวประกอบฉาก เดินสายไปทุกภาค สั่ง ส.ส.พรรคให้หา “สมาชิก” ครอบครัวเพื่อไทย ไม่ต่ำกว่าเขตละ 2-3 หมื่นคน

มีสิ่งหนึ่งที่ “สมาชิกครอบครัวเพื่อไทย” ต้องพึงระวัง ถึงขั้นมีการเตือนในที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยว่า ในกรณีได้รับของที่ระลึก หรือของรางวัลต่าง ๆ ต้องระมัดระวัง ในห้วงเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน “สมาชิกครอบครัวเพื่อไทย” อย่าเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

เพราะ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 30 ระบุว่า การสมัครสมาชิกพรรคห้ามสร้างแรงจูงใจ ด้วยการให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้ โทษถึงขั้น “ยุบพรรค” ตาม มาตรา 92 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน

ครอบครัวเพื่อไทยจึงเป็นดาบ 2 คม มีทั้งคุณและโทษ ถ้าไม่ระมัดระวัง

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังกำชับให้ ส.ส.ตั้งการ์ดสูงในหลาย ๆ เรื่อง

ห้ามจัดทํา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคํานวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เช่น การไปร่วมงานศพ ตามประเพณี ซึ่งการให้ “พวงหรีดดอกไม้สด” กกต.อนุญาต แต่ถ้า “พวงหรีดดอกไม้แห้ง” ถือว่าเป็น “ของต้องห้าม”

เพราะ “พวงหรีดดอกไม้สด” กกต.ตีความว่า ให้ครั้งนั้นเพียงครั้งเดียว เพราะเอาไปใช้ต่อไม่ได้ แต่ถ้าเป็นหรีดอื่น เช่น หรีดพัดลม ถือเป็น “ทรัพย์สิน” ที่นำไปใช้ต่อได้

ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ต้องระมัดระวังเรื่อง “สัญญาว่าจะให้” ไม่ว่าจะโดยเจตนา หรือไม่เจตนา ไม่ว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด ก็ต้องพึงระวัง

ยิ่งขณะนี้ใกล้ฤดูหาเสียงเลือกตั้งเต็มทน ส.ส.บางรายไอเดียกระฉูด มีนโยบายเฉพาะเขตเลือกตั้งของตัวเอง นอกเหนือจากนโยบายของพรรค พรรคเพื่อไทยจึงมีการกำชับว่า ถ้าเป็นนโยบายที่ไม่ได้ใช้ “เงินส่วนตัว” เป็นนโยบายเฉพาะพื้นที่นั้น สามารถพูดได้ เพราะไม่ได้เป็นสัญญาว่าจะให้

แต่ย้ำว่าถ้าจะมีนโยบายใหม่ ๆ ของตนเองต้องปรึกษากับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานนโยบายพรรคเพื่อไทยเสียก่อน ถ้าเป็นนโยบาย “เกินความเป็นจริง” จะเข้าข่ายผิดมาตรา 73(5) ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ฐาน “หลอกลวง”

ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี และถ้าหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ ต้องถูกลงโทษฐานเดียวกัน และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไปถึง “ยุบพรรค”

ห้ามโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่าง ๆ โดย ส.ส.ไปร่วมงานนั้นเพื่อกล่าวเปิดงาน ได้ แต่ถ้ามีดนตรีอยู่ในงาน “อย่าไปหาเสียง”

นอกจากนี้ ยังห้ามเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด ตามกฎหมายให้ ส.ส.จัดเลี้ยงได้เฉพาะผู้ช่วยหาเสียง 20 คน ส่วนคนที่มาช่วยหาเสียงนอกจากนี้ต้องใจดำ ให้เขาจ่ายตังค์เอง

การจัดงานบวช งานแต่ง งานศพ โดยผู้จัดเป็น ส.ส. หรือผู้สมัคร ส.ส. ข้อแนะนำของ กกต.จัดได้เท่าที่จำเป็น แต่ให้พึงระวังว่ามีขนาดใหญ่เกินไป ที่สำคัญต้อง “ไม่โฆษณาหาเสียง”

เช่น ในงานแต่งงานห้ามใส่เสื้อพรรคและแจกใบปลิวหาเสียงในงาน เพราะเท่ากับเป็นการจัดเลี้ยง ส่วนการเชิญคนเท่าใดนั้น ตามข้อแนะนำของ กกต.ไม่ได้ระบุว่า ห้ามเชิญแขกไม่เกิน 500 หรือ 1,000 คน ดังนั้น จัดเท่าที่จำเป็น

ไม่แปลกที่การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย รอบล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้สับเปลี่ยนกำลังคณะกรรมการบริหารพรรค ให้ ส.ส.เขตที่เป็นกรรมการบริหารพรรค เตรียมตัวลาออกแทบจะยกชุด ป้องกันอุบัติเหตุโดนจับแพ้ฟาวล์

คดีเตะตัดขาเพื่อไทย

หนึ่งในข้อกังวลของพรรคเพื่อไทยคือ องค์กรอิสระที่อาจจะแผลงฤทธิ์ได้ทุกเมื่อ เพราะเพียงแค่พรรคเพื่อไทยชูนโยบายประเด็นค่าแรง 600 บาท อาจจะนำมาซึ่งปัญหา เพราะ “สนธิญา สวัสดี” อดีตที่ปรึกษาประธาน กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นักร้องการเมืองได้ยื่นให้ กกต. นโยบายค่าแรงขั้นต่ำพรรคเพื่อไทย 600 บาท และ เงินเดือนปริญญาตรี 2.5 หมื่น ไว้เป็น “ตัวประกัน”

หากพรรคเพื่อไทยไม่เตรียมตัวชี้แจง กกต.ให้ดี อาจย้อนกลับมาแผลงฤทธิ์ เพราะมาตรา 57 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนดเงื่อนไขการขายนโยบายพรรคการเมืองว่า

1.วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดําเนินการ 2.ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดําเนินนโยบาย 3.ผลกระทบและความเสี่ยงในการดําเนินนโยบาย

จะต้องแจ้งให้ กกต.ทราบ ถ้าไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท และปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

อีกทั้ง มี “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยังร้อง กกต.กรณี “ทักษิณ” พูดในคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE ชี้แจงนโยบายขึ้นค่าแรง 600 บาท เป็นการครอบงำ-ชี้นำพรรคเพื่อไทย

เช่นเดียวกับคำร้องอื่น ๆ ที่ “ศรีสุวรรณ-สนธิญา” ร้อง กกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทยกรณี “ทักษิณ” ครอบงำ ชี้นำพรรคเพื่อไทย อาทิ กรณีที่ “เกรียง กัลป์ตินันท์” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิดีโอคอลพูดคุยกับนายทักษิณ พูดถึง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

คำร้องกรณี ส.ส.เพื่อไทยบินไปพบ “ทักษิณ” ที่สิงคโปร์ พร้อมกับนักธุรกิจเจ้าของโรงสีใหญ่ในอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เพื่อขอลง ส.ส.

รวมถึงคดีพรรคเพื่อไทยสนับสนุนม็อบราษฎร

พรรคเพื่อไทยจึงตั้งการ์ดสูง เพื่อไม่ให้สิ้นชีพก่อนถึงวันเลือกตั้ง