ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ส.ส.หนีตาย-นักการเมืองตกเกรด ต่างย้ายพรรค-หาถิ่นพำนักใหม่ “ฝุ่นตลบ” โดยเฉพาะสมรภูมิภาคใต้ ที่มีเก้าอี้ผู้ทรงเกียรติให้ได้ช่วงชิงถึง 58 ที่นั่ง
พรรคพลังประชารัฐ ทุ่มหมดหน้าตัก เปิดตัว “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรองหัวหน้าพรรค-ขุนพลภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคสร้างอนาคตไทย โดยจะขนทีมงานกว่า 30 ชีวิต มาล่มหัวจมท้ายเป็น “พรรคที่สาม” โดยจะทยอยเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่ที่ไม่ทับซ้อนกับ ส.ส.เก่าของพรรคพลังประชารัฐ
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
ยกตัวอย่างเช่น นายเอกภัทร ภัทร์รัศมี อดีตว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 1 ร.ต.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 และนายวัฒนา เรืองแก้ว อดีตว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 3 พรรคสร้างอนาคตไทย
ทว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าในพื้นที่พัทลุงทั้ง 3 เขต พลังประชารัฐ “หืดขึ้นคอ” เพราะต้องแข่งขันกันกับ “บ้านใหญ่ธรรมเพชร” ทั้งนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร บุตรชายของนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ และ “สุพัชรี ธรรมเพชร” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนพัทลุง เขต 3 เจอ “กระดูกชิ้นโต” อย่าง “นริศ ขำนุรักษ์” ส.ส.พัทลุง 5 สมัย จาก “พรรคเก่าแก่”
นอกจากการ “เทกโอเวอร์” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง ทั้ง 3 เขต มาจาก “พรรคสมคิด” แล้ว ยังมีผู้ร่วม “ทีมนิพิฏฐ์” คือ พ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี อดีตรองผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และ “ถาวรวัฒน์ คงแก้ว” อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
ขณะที่ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ยังดึงเวลา-เรียกกระแส “เลื่อนเปิดตัว” แต่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ใจร้อนรบเร้าให้เปิดตัวทันที
“ทีมงานอันวาร์” ที่จะมาสร้างสีสันให้กับพรรคพลังประชารัฐ อาทิ นายอับดุลการิม เด็งระกีนา อดีต ส.ส.ยะลา 3 สมัย นายอิสมาแอล เบญอิบรอฮีม อดีต ส.ส.ปัตตานี 3 สมัย นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)-อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
นอกจากนี้ยังมีออปชั่นพิเศษมาเสริมทัพ “ทีม กทม.” ให้กับพรรคพลังประชารัฐ เช่น นางนาถยา แดงบุหงา อดีต ส.ส.กทม.พรรค ปชป. ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย และนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตำแหน่งล่าสุดคือ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง กทม.พรรคเศรษฐกิจไทย
ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ใช้วิชาก้นหีบดึง ส.ส.เกรดเอ จากพรรคเก่า-พรรคเก่าแก่ อาทิ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช และหากข่าวลือเป็นข่าวจริง พล.อ.ประยุทธ์ รับเทียบเชิญเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะมี ส.ส.ใต้ จากพรรคพลังประชารัฐมาร่วมทีมอีกอย่างน้อย 7 คน
นอกจากนี้ยังรับช่วงต่อ อดีต ส.ส.สอบตก ของประชาธิปัตย์ มาร่วมทัพหลายราย เช่น นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร-นายชวน หลีกภัย อดีต ส.ส.ตรัง 4 สมัย
นายสุชีน เอ่งฉ้วน อดีต ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ – ลูกชายนายอาคม เอ่งฉ้วน อดีต ส.ส.กระบี่ 9 สมัย นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์
รวมถึงกรรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ บางส่วนก็ “อกหัก” จากการเลือกตั้งเมื่อปี’62 อาทิ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เลือดเก่าไหลออก-ผลัดใบใหม่ เชื้อไขบ้านใหญ่ อาทิ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 1 น.ส.ปิยกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2
ภูมิใจไทย พรรคที่ร้อนแรงที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประกาศรื้อเสาไฟฟ้า-ตอกเสาเข็มในพื้นที่ภาคใต้ “ยกจังหวัด” โดยมี “ตระกูลรัชกิจประการ” นางนาที รัชกิจประการ-นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นแม่ทัพใหญ่
การเลือกตั้งปี’62 พรรคภูมิใจไทย กวาดเก้าอี้ ส.ส.ภาคใต้ 8 ที่นั่ง จากทั้งหมด 50 ที่นั่ง การเลือกตั้งครั้งหน้า “นาที-พิพัฒน์” ตั้งเป้า 16 ที่นั่ง จากการแบ่งเขตที่นั่งใหม่ทั้งหมด 58 ที่นั่ง เน้นบุกเบิกพื้นที่ที่เป็น “น่านน้ำใหม่”
พลังประชารัฐ หลังส่อเค้าเสีย พล.อ.ประยุทธ์ไปต้องทุ่มหมดหน้าตัก เหมายกแพ็ก เพื่อกอบกู้กระแสในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนรวมไทยสร้างชาติมุ่งมั่นตกปลาในบ่อเพื่อน-ขายของเก่า “ก้าวกระโดด” จากพรรคใหม่เป็นพรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์ผลัดใบ-ใต้ร่มเงาบ้านใหญ่ ภูมิใจไทยปักหมุดพื้นที่เป้าหมาย-เก็บคะแนนพรรคให้เป็นพรรคตัวแปร-ตัวชี้ขาดรัฐบาลหน้า
