พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 7) ที่เสนอโดยกระทรวงแรงงาน ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง องค์กรไตรภาคี เรื่องการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือใน 4 กลุ่มอาชีพอุตสาหกรรม รวม 16 สาชาอาชีพ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำในที่ผ่านมา มีผลตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งอัตราค่าแรงในระดับแรงงานฝีมือหากใครต้องการค่าจ้างที่สูงขึ้น ต้องพัฒนาฝีมือของตัวเอง แล้วไปทดสอบกับกระทรวงแรงงานเพื่อให้ได้ค่าจ้างที่สูงในระดับแรงงานฝีมือตามที่กำหนดไว้
สำหรับการปรับเพิ่มค่าจ้าง ตามมาตรฐานฝีมือ มีดังนี้ 1. กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก แบ่งเป็นพนักงานหลอมเหล็กเตาอาร์กไฟฟ้า ระดับที่ 1 ค่าจ้าง 480 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 580 บาท พนักงานปรุงแต่งน้ำเหล็กในเตาฯ ระดับที่ 1 ค่าจ้าง 500 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 600 บาท/วัน, พนักงานหล่อเหล็ก ระดับที่ 1 ค่าจ้าง 460 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 560 บาท/วัน และ พนักงานควบคุมอบเหล็ก ระดับที่ 1 ค่าจ้าง 440 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 540 บาท/วัน
2.กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก แบ่งเป็น ช่างเทคนิคเครื่องฉีดพลาสติก ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 380 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 450 บาท/วัน, ช่างเทคนิคเครื่องเป่าถุงพลาสติก ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 380 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 450 บาท/วัน, ช่างเทคนิคเครื่องเป่าภาชนะ ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 380 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 450 บาท/วัน และ ช่างเทคนิคซ่อมเครื่องเป่า ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 410 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 480 บาท/วัน
และ 4.กลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า แบ่งเป็นพนักงานตัดวัดรองเท้า ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 370 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 405 บาท/วัน, พนักงานอัดพื้นรองเท้า ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 380 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 420 บาท/, ช่างเย็บรองเท้า ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 380 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 420 บาท/วันและพนักงานประกอบรองเท้า ค่าจ้างระดับที่ 1 ค่าจ้าง 36 บาท/วัน ระดับที่ 2 ค่าจ้าง 390 บาท/วัน
ทั้งนี้ อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือนี้มุ่งที่จะคุ้มครองลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ แต่ละสาขาอาชีพและแต่ละระดับให้ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมและเป็นธรรม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ลูกจ้างมีการพัฒนาฝีมือแรงงานและมีผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการพัฒนาของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงเพิ่มศักยภาพแรงงานไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์