จุดยืนประยุทธ์ นิรโทษกรรมทักษิณ ทำผิดกฎหมายต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประยุทธ์โชว์จุดยืน กฎหมายนิรโทษกรรม ไฟเขียวมหาดไทยใช้งบฯตัวเอง-ล้วงเงินสะสม อปท.เพิ่มค่าตอบแทนใกล้เลือกตั้ง ลั่นยุทธศาสตร์ชาติแก้ไขได้ แต่ห้ามยกเลิก

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ว่า

เป็นการประชุมเพื่อหารือถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติอยู่ในระยะที่สอง ในปี 2566 จนถึงปี 2570 ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปีแรก ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปี 2565 มีความก้าวหน้าไปตามลำดับและหลายมิติด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้างในแผนรายละเอียด เพื่อให้ผ่านการประเมินตามแผนที่ตั้งเป้าหมายไว้

“ถ้าจะบอกว่ายุทธศาสตร์ชาติมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ ท่านก็ดูแล้วกัน 5 ปีที่ผ่านมาทำอะไรไปแล้วบ้างในหลายมิติด้วยกัน เช่น โครงการพื้นฐาน การดูแลประชาชนในทุกกลุ่มตามที่กำหนดไว้ ตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ต้องสมดุลกันหมดนะ ไม่ใช่ทำตรงนี้ให้มากกว่าตรงนี้ แล้วงบประมาณก็มีปัญหาหมด ก็ต้องเฉพาะแบ่งปันกันไปให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลใหม่สามารถแก้ไขยุทธศาสตร์ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติสามารถแก้ไขได้ตลอด แต่ไม่ใช่ยกเลิก เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้วว่าต้องมียุทธศาสตร์ชาติ แต่การเปลี่ยนแปลงแผนแม่บท หรือการประเมินต่าง ๆ ถ้าไม่ดีก็สามารถปรับแก้ไขได้ แผนแม่บทปรับได้ แต่อยู่ในกรอบใหญ่ ภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ เพราะเป็นยุทธศาสตร์หลัก ซึ่งทุกประเทศก็มีแบบนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมยุทธศาสตร์ชาติวันนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาเข้าร่วมประชุมด้วย ได้หารือเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่มีอะไรนี่ ก็คุยเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนเรื่ององค์ประชุมสภาไม่ครบองค์ประชุม (สภาล่ม) ท่าน (นายชวน) ก็บอกผม ผมก็รับทราบ ขอบคุณครับ ก็พยายามเต็มที่ให้แล้ว”

เมื่อถามว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้รายงานเรื่องการขึ้นค่าตอบแทนองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้รับทราบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า

ยังไม่ได้รับรายงาน เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา งานบางงานเป็นเรื่องของหน่วยงานนั้น ๆ เสนอขึ้นมา บางเรื่องขึ้นมาขออนุมัติก็เป็นการใช้งบประมาณของตัวเอง เพราะงบประมาณ งบกลางเราใช้ในกรณีฉุกเฉินพิเศษอะไรทำนองนี้ เร่งด่วนหรือจำเป็น ไม่ใช่ตรงไหนก็ได้ ต้องดูว่างบประมาณมีพอหรือไม่ เงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทำได้หรือไม่

เมื่อถามว่าจะถูกครหาหรือไม่ว่า เพราะใกล้เลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “งั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลยมั้ง ถ้าเขาทำได้แล้วมันผ่านหลักเกณฑ์ ผ่านกติกาถูกต้อง เขาก็ทำได้ เนอะ งั้นก็กลายเป็นว่า ทุกอย่างไม่ต้องทำอะไรเลยดิ เลือกตั้งพฤษภาฯเลยล่ะมั้ง รักษาการ กว่าจะได้รัฐบาลอีกเท่าไหร่ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งเฉย ๆ เอาไหมล่ะ ก็ทำเท่าที่ทำได้”

เมื่อถามว่า ป.ย.ป.เตรียมสรุปข้อมูลเพื่อให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อสภาในญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติระหว่างวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ต้องเตรียมไว้ พูดมาก็ตอบไป หลักการมีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เรื่องการสร้างความปรองดองมีการพูดถึงกฎหมายการนิรโทษกรรม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่พูดอ่ะ ไม่เกี่ยวข้อง เรื่องการปรองดองไม่ได้เกี่ยวกับตรงโน้น เป็นเรื่องของกฎหมายก็ไปว่ากันในสภาโน่น

“การปรองดองของเราคือ การสร้างความรักความสามัคคีใช่ไหม แล้วก็เคารพต่อกระบวนการยุติธรรม มันมีหลักการอยู่เท่านั้นแหละ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ตามก็อย่าทำให้กระทบกับคนอื่นเขาด้วย ทุกคนมีสิทธิ์ เสรีภาพ หน้าที่เหมือนกันหมด เท่ากัน กฎหมายเดียวกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า คนที่มีคดีต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมดใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อันนี้ไม่ต้องถาม ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ถามทำไม”
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐเตรียมเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมหากได้เป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ลองเสนอขึ้นมาแล้วกัน ผ่านได้หรือไม่ได้ ผมก็ไม่ทราบ

“ถ้านิรโทษคนบางกลุ่มแล้วคนอื่นอ่ะ ก็ต้องนิรโทษฯ หมดเลยมั้ง ทั้งคุกเลยมั้ง กฎหมายเดียวกันนี่ ใครทำผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมายนั้น จะมาเลือกปฏิบัติก็ไม่ถูก ผมว่าไม่ควร ผมไม่ได้ไม่ชอบใคร หรือเกลียดใคร ก็ทำผิดกฎหมายเอง ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม ไม่งั้นก็อยู่กันไม่ได้หรอก ก็แค่รับกระบวนการยุติธรรม เข้ามาร่วมสอบสวน สู้คดีตามพยานหลักฐานที่มีอยู่แต่ละฝ่าย มีทนาย มีศาล จะเอาอะไรกันอีกล่ะ ทั้งโลกเขาก็อยู่แบบนี้หมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าอาจถูกมองว่าเป็นการจับมือทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “นี่ก็ถามแต่เฉพาะเรื่องการเมือง นะเธอนะ ฉันไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น ฉันพูดถึงหลักการการเป็นนายกรัฐมนตรี”

เมื่อถามว่า มีการโยงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนจะเลิกให้สัมภาษณ์และเดินขึ้นตึกคู่ฟ้าว่า “ก็คุณโยงเองอ่ะ คุณเป็นคนโยงเองไม่ใช่เหรอ ผมไม่ได้พูดกับคุณเลยนะเนี่ย ไม่ได้พูดว่า ไม่ตอบ ไม่พูดกับคุณเรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมไม่ตอบอ่ะ เพราะคุณไม่ควรจะถามผมเรื่องแบบนี้”

เมื่อถามตามหลังไปว่า รัฐบาลใกล้ครบวาระแล้ว นายกรัฐมนตรีมีภูมิต้านทานทางการเมืองเข้มแข็งพอใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบ แต่หันมาฉีกยิ้มและชูกำปั้นขึ้นมาแทน