ชลน่าน ประกาศกระชากหน้ากากคนดี ประยุทธ์ อภิปรายมาตรา 152

ชลน่าน ศรีแก้ว อภิปราย ม152 15022566

ฝ่ายค้านเปิดศึกอภิปรายไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ 152 ลั่นกระชากหน้ากากคนดี ประยุทธ์ไม่หวั่น ด้าน ภูมิใจไทยขู่ ไม่เป็นองค์ประชุม หากเลยเถิดเกินกรอบ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา ตั้งแต่ 09.30 น. โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการเตรียมตัวมาชี้แจงฝ่ายค้านว่า “ไม่มีอะไรหรอก”

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์สภาล่ม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ขอให้ไปถามสมาชิกมา ถามอะไรเรา” ก่อนจะขึ้นลิฟต์เพื่อร่วมประชุมสภาในทันที

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ระบุว่าหากฝ่ายค้านอภิปรายไม่เป็นไปตามกรอบมาตรา 152 อาจไม่เป็นองค์ประชุมว่า คงเป็นไปตามที่คนในพรรคออกมาแถลง ถ้าเราอยากใช้เวลาให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ก็พิจารณาให้ดี การอภิปรายตามมาตรา 152 ต้องปฏิบัติอย่างไร

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวถึงกระแสข่าวว่าฝ่ายรัฐบาลจะไม่เป็นองค์ประชุม ทำให้องค์ประชุมล่มว่า ก็ห่วงทุกพรรคตามที่เป็นข่าว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยังไม่ส่งสัญญาณอะไร พรรคพลังประชารัฐก็บอกไม่มั่นใจ มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงความชัดเจน

Advertisment

ส่วนสาเหตุที่พรรคร่วมรัฐบาลอาจไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมนั้น คิดอื่นไกลไม่ได้นอกจากกลัว หนีการตรวจสอบ เพราะกลัวเสียเครดิตก่อนเลือกตั้ง ส่วนที่บางพรรคไม่กำชับ ส.ส. โดยบอกว่าเป็นเอกสิทธิ์นั้น เห็นว่าเป็นคำแก้ตัวเพื่อหาเหตุผลไม่ร่วมประชุมตามมาตรา 152 ซึ่งทุกพรรคต้องคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น การอ้างเรื่องเอกสิทธิ์จึงไม่มีเหตุผล และเมื่อก่อนก็ไม่เคยพูดกันแบบนี้

ต่อมาเวลา 10.20 ที่ประชุมได้มีการเปิดอภิปราย โดยเริ่มจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่า การบริหารราชการแผ่นดินโดยการนำ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงต่อสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อ

เช่น การแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตประชาชน การยกระดับสินค้าเกษตรไม่บรรลุผล ปัญหายาเสพติดรุนแรงขึ้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำตามที่ประกาศ ใช้จ่ายงบประมาณและก่อหนี้สาธารณะมหาศาล โดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปากท้องของประชาชนล้มเหลว

มุ่งใช้เงินเพื่อมุ่งหวังประโยชน์ทางการเมือง การปฏิรูปการเมืองล้มเหลว บริหารจัดการงบฯไม่เป็นธรรม และพบการทุจริตสูง และพบการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน ต่อพวกพ้อง และตนเองสูง การแก้ไขปัญหาที่ดินและทรัพยากรไม่เป็นรูปธรรม รวมถึงไม่ปราบปรามบ่อนการพนัน ล้มเหลวการป้องกันการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่ทำให้ทุเลาเบาบางได้

Advertisment

ทั้งนี้ การอภิปรายโดย ส.ส.ฝ่ายค้านทั้ง 35 คน จะอภิปรายในประเด็นต่าง ๆ โดยพรรคเพื่อไทยจะอภิปราย เรื่องการไม่ปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน ความรุนแรงจากเหตุที่ จ.หนองบัวลำภู น้ำท่วมปี 2565 การจัดสรรงบประมาณไม่เป็นธรรม, และการทุจริตคอร์รัปชัน

พรรคก้าวไกล จะอภิปรายเรื่องการบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว การกระจายอำนาจ ปัญหาที่ดิน และการเอื้อประโยชน์

พรรคประชาชาติ จะอภิปรายในเรื่อง การทุจริตในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัมปทานที่ดินป่าไม้ให้นายทุน ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ พรรคเพื่อชาติ จะอภิปรายเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ล้มเหลว และฝ่ายค้านอิสระที่อภิปรายเรื่องยาเสพติด บ่อนการพนัน การให้ต่างชาติซื้อที่ดิน และการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว

“คนดีที่ใส่หน้ากาก กระชากแล้วเป็นอย่างไร พี่น้องประชาชนโปรดติดตาม ลงคะแนนไม่ได้ อยากให้พี่น้องไปลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง ว่าท่านอยากจะให้คนดีนี้อยู่ต่อไหม หรืออยากให้ประเทศชาติบ้านเมืองไปต่อเหมือนท่านบอก ประเทศต้องไปต่อ ประเทศต้องไปต่อครับ ไปต่ออย่างมีศักดิ์ศรี อย่างมีอนาคต และอย่างมีความหมาย ไม่ใช่ไปต่อสำหรับใครบางคนให้ไปต่อ เพียงเพื่อจะสืบทอดอำนาจ” นพ.ชลน่านกล่าว