ที่ประชุม ครม. ขยายระยะเวลาอายุมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจออกไปอีก 1 ปี
วันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติ ขยายระยะเวลาอายุมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ วงเงิน 250,000 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือแก่ภาคธุรกิจภายใต้ 1.มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูเพื่อให้ความช่วยเหลือและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังประกอบธุรกิจและมีศักยภาพในการแข่งขัน แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูธุรกิจ
และ 2.มาตรการสินเชื่อเพื่อการปรับตัว เพื่อเป็นแหล่งทุนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ที่มีความพร้อมและต้องการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อรองรับบริบทใหม่และการเปิดประเทศหลังสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบรับโอนวงเงินคงเหลือของมาตรการรับโอนทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ (วงเงิน 100,000 ล้านบาท) หลังสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 9 เมษายน 2566 นี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ จึงไม่มีความจำเป็นต้องนำหลักประกันมาเข้าโครงการ ฯ โดยคาดว่าจะมีวงเงินคงเหลือสูงสุดจำนวน 29,000 ล้านบาท มารวมไว้เป็นวงเงินภายใต้มาตรการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ จากที่คาดว่าจะคงเหลือ 32,500 ล้านบาท
มีวงเงินคงเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 61,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้มาตรการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ ยืดหยุ่น ช่วยฟื้นตัวของภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุน หรือที่มีหนี้เดิมค้างชำระ อยู่ในการปรับโครงสร้างหนี้ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน