เปิดใจ เศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ “อยากเห็นสังคมเท่าเทียม”

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรค กลายเป็น 1 ใน 3 ชื่อเคียงข้าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย

“เศรษฐา” เปิดใจครั้งแรกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความรู้สึกที่ประกาศชื่อแคนดิเดตนายกฯชัดเจนว่า สบายใจ พูดได้ง่ายขึ้น เต็มที่เลย “ผมง่าย ๆ ขึ้นเวที 3 คน ใครพูดเรื่องไหนขอให้บอกมา ผมว่าง่ายที่สุด อย่างเรื่องการลงพื้นที่มีแต่ไม่พอขอเติมอีกได้ไหม ทำงานกับผมน่าจะสบายใจ”

“วันนี้เดินหน้าเต็มที่ นโยบายไหนที่ยังไม่โดนใจปรับปรุงแก้ไข อะไรที่ทำได้ทำไปเลย ลุย แต่ที่จะไปจับมือกับใคร (ตั้งรัฐบาล) ผมไม่รู้ ไม่สนด้วย ไม่ใช่หน้าที่ผม ผมเป็นแค่ 1 ใน 10 เสียง ผมไม่มีปัญหากับได้น้อยได้มาก ประชาชนเป็นคนตัดสินเพราะตัวผมเอง อาสามาทำงานก็มาคนเดียว และในระหว่างนี้ผมเต็มที่ มีแต่บอกถ้าตารางลงพื้นที่ไม่เพียงพอ น้อยเกินไป ให้ลงอีกก็ได้”

อีก 40 วันที่เหลือในการลุยหาเสียงเลือกตั้ง “เศรษฐา” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ไม่หยุดช่วงสงกรานต์ เขาบอกว่า ชอบลงพื้นที่ไปตั้งวงสนทนาคุยกับ 10-20 คน

เช่น สระบุรี เจอเรื่องโคนมที่ถูกนมผงตีตลาด เพราะรายใหญ่ไปซื้อนมผงจากต่างประเทศแล้วตีกับนมสดหรือ สสส.ที่เก็บภาษีบาป ห้ามไม่ให้คนดื่มเหล้า แต่ทำไมไม่โฆษณาให้เด็กไทยดื่มนม อย่างน้อยเรามีโซลูชั่น

จัดลำดับกระทรวงสำคัญ

เศรษฐากล่าวถึงนโยบาย-ไม้เด็ดของพรรคเพื่อไทย ที่เตรียมเปิดตัวในวันที่ 5 เมษายน ที่เมืองทองธานี จะบอกจำนวนเงิน ข้อดีของเรื่องนี้คือกำหนดเขตไว้ 4 กิโลเมตร ถ้ามีบ้านหนองบัวลำพู ไม่สามารถมาใช้ที่พารากอนได้ และไม่ได้ห้ามว่าใช้ที่ไหน สามารถใช้ตามร้านสะดวกซื้อก็ได้ มีเวลาใช้ 6 เดือน นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการกระจายความเจริญ

เหรียญดิจิทัลที่จะจ่ายไปใน digital wallet ร้านค้าที่จะร่วมโครงการได้ต้องจดทะเบียน เข้าระบบฐานภาษี ถ้าเราขยายฐานภาษีจาก 4 ล้านคน เป็น 8 ล้านคน ในแง่รัฐบาลเท่านี้ก็โอเคแล้ว อยู่ดี ๆ ไม่ใช่ให้เหรียญในกระเป๋าตังค์แล้วไปขึ้นเงินกลับมาเป็นเงิน 100 บาท ไม่ใช่นะ ต้องใช้ต่อไป ถ้าใช้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะปั่นเศรษฐกิจให้โตขึ้น จะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 6 เดือน

ส่วนนโยบายที่เติมครอบครัวละ 2 หมื่นบาท อาจจะใช้ในปีที่ 2.5 ก็ได้ ไปสำรวจจริง ๆ อาจจะมีไม่กี่แสนครัวเรือนก็ได้ เพราะรายได้โตหมดแล้ว เราต้องพยายามให้โตได้เร็ว ๆ

อย่างไรก็ตาม “เศรษฐา” มองว่า ในอดีตบางกระทรวงรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญเลย แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะมองว่าสำคัญมาก เช่น กระทรวงการต่างประเทศ ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมไม่ควบกระทรวงกลาโหมอยู่แล้ว แต่มองว่ากระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงสำคัญ

และว่า กระทรวงที่จะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ

ส.ว.ต้องยอมรับฉันทามติ

แม้ว่าจะมี 250 ส.ว.ขัดขวางพรรคเพื่อไทยไม่ให้ตั้งรัฐบาล แต่เศรษฐามองอีกมุมว่า “ผมพูดชัดเจนว่า ควรจะเลิกพูดปิดสวิตช์ ส.ว. เหมือนเขามีอำนาจแล้วเราไปบอกให้ไม่มีอำนาจ สู้เราบอกให้เขาทำตามฉันทามติของประชาชนดีกว่าว่าถ้าเรามี 310 เสียง หรือ 251 เสียง เขาควรจะทำอย่างไร ไม่เคยบอกว่า ส.ว.เป็นคนไม่ดี เพียงแต่ที่มาที่ไปมันผิด”

“ส.ว.ถูกแต่งตั้งมาทำเพื่อประชาชน ถ้าประชาชนโหวตจาก 500 ให้พรรคเพื่อไทย 251 เสียง ประชาชนต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลใช่ไหม ถ้าตอบใช่ คุณต้องโหวตให้พรรคเพื่อไทย มันชัดเจน แล้วจะพูดกับประชาชนได้อย่างไรถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 310 เสียง แล้วไม่โหวตให้”

ไม่ได้อยากเป็นนายกฯตั้งแต่เดย์ 1

จุดที่ทำให้เศรษฐาอยากเล่นการเมือง ผมเกิดมาไม่ได้อยากเป็นนายกฯตั้งแต่ day 1 นะ แน่นอนเรื่องปากท้องเรื่องสำคัญ แต่ที่ไม่ชอบมากคือ ความไม่เสมอภาค ไม่เท่าเทียม ถ้าไม่ลงมือทำอะไรเลยจะไม่มีทางเปลี่ยนได้

สิ่งที่ห่วงมากกว่าทุกพรรคพูดเรื่องเศรษฐกิจคือ เรื่อง “ความเท่าเทียม” เขามองว่า สมรสเท่าเทียมไม่ยอมให้เขา ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ขนาดผมอายุ 60 กว่า ผมยังเข้าใจ ก็เขารักกัน ชายกับชาย หญิงกับหญิง ก็คนเขารักกัน ยอมรับตามตรงว่าทำไมไม่ทำให้พวกเขา เพราะไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นคนไม่ดี หรือไม่สมควรที่ได้รับฐานะยกย่องเท่าเทียมกับคนอื่นในสังคมไทย

จุดที่ต้องคิดหนัก ๆ ที่จะมาเล่นการเมืองคือ ช่วงโควิด-19 จังหวะลูกโตหมดแล้ว มีเงินเดือนดีแล้ว บริษัทแสนสิริกำไรเป็นประวัติศาสตร์ ที่บอกว่าเศรษฐกิจไม่ดีแต่แสนสิริยังกำไร ก็อยากให้เห็นว่าขนาดเศรษฐกิจไม่ดีขนาดนี้ แสนสิริยังมีกำไร ก็เพราะเราบริหารจัดการดี ลองให้ผมบริหารประเทศบ้างสิ ผมว่าเรามีพร้อม เราไม่ได้มี KPI ที่ต้องหาเงินให้พรรค หรือพรรคต้องมาให้เงินเรา

ลูก-ภรรยา กังวลหรือไม่กับการเล่นการเมือง “เศรษฐา” กล่าวว่า ก็มีบ้างลูกสาวผมก็ปิด Instagram เป็นส่วนตัวไปเลย ส่วนการพูดคุยในครอบครัว ก็ไม่ได้คุยเพราะทุกคนโต ๆ กันแล้ว เคารพซึ่งกันและกัน เป็นผู้ใหญ่หมดแล้ว แต่ที่ห้ามคือคุณแม่ผม ซึ่งอายุ 95 แล้ว ตอนนี้ท่านอาจจะไม่รู้ว่าผมมาเล่นการเมือง หรือรู้แล้วแต่ท่านเข้าใจผมดีพอก็เลยไม่พูด

เมื่อถามว่า เผื่อใจกับความผิดหวังหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า สเต็ปแรกถ้าได้ 310 เสียงก็โอเค แต่ถ้าไม่ได้ ก็ต้องบริหารความคาดหวัง ธุรกิจ บริษัทก็ไม่เหมือนกับที่เราคาดหวังไปทั้งหมด เราต้องอยู่กับความเป็นจริง อายุ 60 กว่าแล้ว ก็เจอความผิดหวังมาตั้งเยอะ อย่าท้อแล้วกัน ความตั้งใจสำคัญ วันนี้ถามว่าเหนื่อยไหมที่มาทำตรงนี้ ก็ผมอยากเดินเข้ามาเอง