พลังประชารัฐ เปิดตัว ดร.คณิศ อดีตเลขาฯอีอีซี ร่วมทีมเศรษฐกิจ

คณิศ แสงสุพรรณ
คณิศ แสงสุพรรณ

พลังประชารัฐ เปิดตัว ดร.คณิศ แสงสุพรรณ อดีตเลขาฯอีอีซี ร่วมทีมเศรษฐกิจ สานต่อรถไฟความเร็วสูงสามสนามบิน-ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก

วันที่ 25 เมษายน 2566 รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมแถลงข่าวเปิดตัวนายคณิศ แสงสุพรรณ อดีตเลขาธิการอีอีซี เป็นสมาชิกใหม่ทีมนโยบายเศรษฐกิจ นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยผู้บริหารพรรค ในวันอังคารที่ 25 เมษายน 2566 ณ สำนักงานพรรคพลังประชารัฐ อาคารรัชดาวัน 547 ถ.รัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

เวลา 15.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เปิดตัว “ดร.คณิศ แสงสุพรรณ” อดีตประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมทีมนโยบายพรรคพลังประชารัฐในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในนามพรรคพลังประชารัฐ ขอต้อนรับ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ อดีตประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC เข้าสู่พรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นความยินดีอีกครั้งหนึ่ง ที่พรรคพลังประชารัฐได้ต้อนรับคนเก่ง คนมีความสามารถโดดเด่น เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนและการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่าง ดร.คณิศ เข้ามาช่วยงานพรรคพลังประชารัฐ

หลังจากที่ได้ขับเคลื่อน EEC จนประสบความสำเร็จแล้ว วันนี้ ดร.คณิศ ได้รับเป็นหัวเรือหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย “เขตพัฒนาพิเศษชายแดนใต้” เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความมั่งคั่ง ให้กับพี่น้องทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้

ดร.คณิศ เปิดตัวร่วมทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ มีความเชี่ยวชาญในด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน การพัฒนาเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ผ่านมา มีประสบการณ์และได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายการเงิน, กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการธนาคารพาณิชย์ และกรรมการการบินไทย เป็นเลขาธิการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC เป็นเวลากว่า 4 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจที่พรรคพลังประชารัฐให้การสนับสนุน

ดร.คณิศกล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตนเองเรียกติดปากว่าพี่ป้อม และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ตนได้ลาออกจากทุกตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะตำแหน่งประธานที่ปรึกษา EEC เพื่อมาช่วยงานพี่ป้อม ขอเรียนว่า EEC เป็นเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลที่ดำเนินไปอย่างประสบความสำเร็จ ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี คาดว่า เศรษฐกิจ EEC จะขยายตัวปีนี้ไม่ต่ำกว่า 7% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปข้างหน้า

“ที่ผ่านมา ได้ร่วมงานกับพี่ป้อมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องโครงการน้ำใน EEC พี่ป้อมและทีมของท่านได้ช่วยทำแผนภาพรวมโครงการที่เกี่ยวกับน้ำ และผลักดันจนสำเร็จกว่า 20 โครงการ โดยโครงการทั้งหลายนั้น สำเร็จได้ เพราะความเป็นผู้นำ กล้าซักถามตรงไปตรงมา การจดจำที่แม่นยำ รวมทั้งความกล้าตัดสินใจของพี่ป้อม ถือเป็นส่วนที่ประทับใจในการทำงานร่วมกัน”

ดร.คณิศกล่าวต่อไปอีกว่า หลายเดือนก่อน พล.อ.ประวิตร ได้พบปะกับ นายอันวาร์ อิมราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่กรุงเทพฯ ได้มีการหารือกันเรื่องชายแดนภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซีย พี่ป้อมได้ให้โจทย์กับผมว่า จะสามารถนำเศรษฐกิจเข้าไปพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้อย่างไรบ้าง เป็นที่มาของโครงการเขตพัฒนาพิเศษชายแดนภาคใต้ที่ได้นำเสนอกับพี่ป้อม

“ท่านเห็นดีด้วยและรับเป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจเข้าสู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องการอาศัยความเป็นผู้นำที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งของพี่ป้อม ช่วยก้าวความขัดแย้งทั้งเรื่องการระหว่างประเทศ สร้างความปรองดอง และความเข้าใจระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนโครงการนี้ให้สำเร็จ”

ดร.คณิศกล่าวว่า “ได้ลาออกจากประธานที่ปรึกษาอีอีซีมาเป็นสมาชิกพรรค พปชร.เมื่อวาน ที่มาช่วยพี่ป้อม พล.อ.ประวิตร เพื่อช่วยผลักดันความฝันของพี่ป้อมที่จะสร้างประเทศไทยให้ยิ่งใหญ่ ให้เป็นจริง ผมทำงานอีอีซีมา 5 ปี เชื่อว่าอีอีซีไปได้แล้ว ไม่ต้องห่วง เงินที่ลงทุน 2 ล้านล้านบาท ขณะนี้ลงทุนไปแล้ว 60% เชื่อว่าจะเป็นพลังผลักดันเศรษฐกิจไทยในวันข้างหน้า ผมเป็นห่วงขอให้คนที่มาทำอีอีซีซื่อสัตย์และไม่คดโกง แผนจะสามารถเดินได้”

“พี่ป้อมเป็นคนนำทำเรื่องน้ำในอีอีซี ผมได้ทำงานกับท่านมาตลอด 4 ปี ท่านได้ช่วยทำภาพรวมเรื่องน้ำ โดยมีโครงการทั้งหมดประมาณ 30 โครงการ ทำไปแล้ว 20 โครงการ ตอนนี้การันตีได้ว่าปัญหาน้ำในอีอีซีจบแล้ว ผมได้ทำงานกับท่านมา ท่านเป็นคนรับฟังข้อมูล ท่านเป็นคนกล้าตัดสินใจ ที่พูดว่า ไม่รู้ ไม่รู้ ความจริงเวลาถามผมเครียดมาก ถามผมว่า งานเสร็จหรือยัง ๆ ประการสุดท้ายท่านกล้าตัดสินใจ โครงการที่มาไม่ใช่โครงการง่าย ๆ ทำให้ปัญหาน้ำในอีอีซีพ้นไปได้ก็เป็นประโยชน์มาก ผมจึงเข้ามาช่วยทำงาน” ดร.คณิศเล่าเหตุผลการเข้ามาช่วยงาน พล.อ.ประวิตร

ดร.คณิศกล่าวอีกว่า พี่ป้อมได้ขอให้ผมมาช่วยว่าจะเอาเศรษฐกิจมาแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เพราะมาเลเซียเอาจริงแน่ สอง โอกาสจำเป็นต้องให้พี่ป้อมช่วยก้าวข้ามความขัดแย้งในภาคใต้ให้ได้ ถ้าพี่ป้อมไม่ช่วย ก้าวข้ามไม่ได้ เศรษฐกิจทำไม่ได้ เราทำเศรษฐกิจได้ ถ้าพี่ป้อมมาช่วย ผมจึงตัดสินใจมาทำงานที่นี่ เพราะเชื่อว่าผมจะได้ทำงานกับพี่ป้อม

“ผมขอเล่าเบื้องหลังนิดหนึ่ง พี่ป้อมเป็นคนพบกับรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ประมาณ 2 เดือนที่แล้วในกรุงเทพฯ ปรึกษาถึงปัญหาชายแดนภาคใต้ และปัญหาภาคเหนือของมาเลเซียจึงตกลงกันว่าจะทำงานร่วมกัน” นายคณิศกล่าวและว่า

“ผมจึงเสนอพี่ป้อมว่า โครงการที่เรียกว่าเขตพัฒนาพิเศษชายแดนภาคใต้ในฝั่งไทยทำได้และมาเลเซียก็ทำเขตของตัวเองและช่วยกันบริหาร” นายคณิศกล่าว

นายคณิศกล่าวว่า ได้คิดไว้แล้วอย่างน้อย 6 โครงการ เรียกว่า “สะพานเศรษฐกิจ” มุ่งหวังให้เป็นความร่วมมือของทั้งสองประเทศ จะมีการจัดทำแผนเพื่อเชื่อมโยงเขตพิเศษทางเศรษฐกิจเข้าไว้ด้วยกัน ในฝั่งไทย โครงการดังกล่าว จะเชื่อมต่อ 5 จังหวัด คือ สงขลา ยะลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส รวมเป็นเขตพัฒนาพิเศษแบบ EEC โดยมีอย่างน้อย 6 โครงการเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ ดังนี้

(1) ยกระดับรายได้เกษตรกร ด้วยการแปรรูปพืชเกษตรให้มีคุณภาพ อาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่มุ่งสู่ตลาดโลก

(2) พัฒนาการท่องเที่ยว ทั้งฝั่งอ่าวไทย ทำตากใบโมเดล ฝั่งอันดามัน ทำสตูลโมเดล ผ่านโครงข่ายเรือและเครื่องบินท่องเที่ยว เพื่อนำรายได้สู่พื้นที่

(3) มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลัก เช่น Motorway และ Landbridge เชื่อมทั้ง 2 ฝั่งทะเล

(4) สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตลอดข้างทางของ Motorway เช่น ศูนย์กลางอาหารระดับนานาชาติ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน ยา โลจิสติกส์

(5) ขยายความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศ

(6) ใช้ธนาคารอิสลามเป็นธนาคารหลักของเขตพัฒนาพิเศษ

“โครงการเขตพัฒนาพิเศษชายแดนภาคใต้มุ่งหวังจะทำให้พี่น้อง 8 ล้านคน ใน 14 จังหวัดชายแดนใต้กลับมามั่งคั่ง หากเลือกพรรคพลังประชารัฐ นอกจากจะก้าวข้ามความขัดแย้งแล้ว จะก้าวพ้นความยากจน เขตพัฒนาพิเศษชายแดนภาคใต้ที่พรรคพลังประชารัฐนำเสนอ จะช่วยทำให้ลูกหลานชาวใต้เติบโตในพื้นที่ มีงาน มีรายได้สูง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ได้ให้การสนับสนุน และร่วมผลักดันนโยบายนี้” ดร.คณิศกล่าวเน้นย้ำในช่วงท้าย