เปิดประวัติ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. คนสำคัญในการเลือกตั้ง 2566 วาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี
วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ยังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง สำหรับการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่วันเลือกตั้งล่วงหน้า จนกระทั่งวันนี้เกิดประเด็นใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ปม พรรครวมไทยสร้างชาติยิงแสงเลเซอร์หาเสียงบนสะพาน พระราม 8 ล่าสุดนายแสวง บุญมี เลขา กกต. ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ตอนนี้ได้ฟังจากข่าว เพราะเป็นเรื่องของเจ้าของพื้นที่ ซึ่งทุกการหาเสียงนั้นป้ายติดอยู่ในพื้นที่ของรัฐทั้งนั้น ทั้งตามถนน เสาไฟฟ้า แต่ต้องมีการขออนุญาตทั้งหมด ไม่ใช่ว่าอยู่เฉย ๆ จะไปติดได้เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ต้องได้รับอนุญาตและมีหลักการในการติด โดยสถานที่ราชการต้องทำโดยให้ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน”
ส่วนกรณีนี้ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นป้ายหาเสียง แต่เมื่อดูแล้วมันเป็นการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ 7 (7) เป็นการหาเสียงกึ่งอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการหาเสียงลักษณะดังกล่าวเราได้มีหนังสือแจ้งไปยังทุกพรรคการเมืองแล้วว่า ไม่อยู่ภายในการบังคับเลือกตั้ง เพียงแต่ว่าขอให้เจ้าของสถานที่เขาอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน กระทรวง กรมไหน
เรื่องนี้ที่ทาง กทม. ได้ตรวจสอบแล้วและอาจจะให้ กกต.กทม.วินิจฉัยนั้น ต้องบอกว่าเมื่อมีคนร้องก็ต้องวินิจฉัย แต่จะให้ตนวินิจฉัยตอนนี้คงยังไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริง มีแต่เพียงการฟังมาว่าอะไรเป็นอะไรเท่านั้น
ต้องติดตามว่าหลังจากนี้ว่าเรื่องจะจบเช่นไร รวมถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ว่ากกต.จะถูกประชาชนวิพากษ์วิจารย์ในการทำงานอีกหรือเปล่า หลังจากผิดพลาดในวันเลือกตั้งล่วงหน้านี้มาแล้ว
ประวัติ แสวง บุญมี
แสวง บุญมี อายุ 59 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) รวมถึงยังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิลปศาสตรบัณฑิต (รํฐศาสตร์) เกียรตินิยมอันดับ 2 และนิติศาสตรบัณฑิตอีกด้วย
ด้านประวัติการทำงาน ก่อนหน้านี้ เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 และอดีตผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 5 สำนักงาน กกต., อดีตอนุกรรมาธิการการปฏิรูปกลไกและระบบการเลือกตั้งในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปประเทศ (สปท.)
ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการสำนักงาน กกต. ภายหลังพิจารณาความเห็นที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเป็นเอกฉันท์ และรายงานสรุปผลการรับฟังวิสัยทัศน์ผู้สมัคร ที่คณะอนุกรรมการดำเนินการสรรหาและตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการเสนอมา
สำหรับการคัดเลือกเลขาธิการ กกต.ครั้งที่ผ่านมา สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ลาออกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เพื่อไปรับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา และ กกต.ได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต.เมื่อวันที่ 1-28 มกราคม 2565 ซึ่งมีผู้สมัครเพียง 2 ราย คือ นายแสวง บุญมี และ พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงสมัคร เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี
ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน รวย 47 ล้าน พระเครื่อง 530 องค์
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมคู่สมรส กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อ วันที่ 1 เมษายน 2565 มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 47,222,952 บาท มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 704,222 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 46,518,730 บาท ดังนี้
นายแสวง รวมมีทรัพย์สิน 20,032,356 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 651,869 บาท เงินลงทุน 4,297,632 บาท ที่ดิน 107,200 บาท สิทธิและสัมปทาน 4,556,504 บาท
ทรัพย์สินอื่น 10,419,150 บาท ได้แก่ พระเครื่อง 530 องค์ มูลค่า 8,636,450 บาท พระพุทธรูป 73 องค์ เครื่องเสียง+ลำโพง มูลค่า 1,070,300 บาท แผ่นเสียง+แผ่นซีดี 800 แผ่น มูลค่า 520,000 บาท ภาพศิลปะ รูปละประมาณ 2,000 บาท 6 รูป กระเป๋าหนัง เข็มขัด แหวน 2 วง
นางรุ่งทิวา บุญมี (ชื่อสกุลเดิม รักพาณิชย์) คู่สมรส (ตำแหน่งปัจจุบัน หัวหน้าส่วนผู้ช่วยผู้จัดการที่ปรึกษาธุรกิจ) รวมมีทรัพย์สิน 27,190,568 บาท เงินสด 473,520 บาท เงินฝาก 650,048 บาท เงินลงทุน 1,208,775 บาท
เงินกู้ยืม 3,508,150 บาทให้แก่ นางกัญณภัทร หรือ อรกัญญา ปักษี จำนวนเงินกู้ตามสัญญา 163,150 บาท นางปัญชลีย์ พุฒิพงศ์โกสิน 150,000 บาท น.ส.ธาริดา จูปรางค์ 1,020,000 บาท นายสุทธาชัย รักพาณิชย์ 2,300,000 บาท
ที่ดิน 6,486,875 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4 หลัง 4,800,000 บาท ยานพาหนะ 595,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 6,683,825 บาท
ทรัพย์สินอื่น 2,784,373 บาท ได้แก่ ทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 57.25 บาท จี้เพชร 2 ชิ้น ชุดเครื่องเพชร 2 ชุด อัญมณี (กำไลหยก ปี่เซี๊ยหยก สร้อยมุก) กระเป๋าแบรนด์เนม 12 ใบ
รายได้ต่อปีของนายแสวง รวม 2,134,800 บาท แบ่งออกเป็น รายได้ประจำ เงินเดือน 1,174,800 บาท เงินเพิ่ม+เงินประจำตำแหน่ง 840,000 บาท เงินบำนาญ 120,000 บาท
รายได้ต่อปีของคู่สมรส รวม 1,854,171 บาท แบ่งออกเป็น เงินเดือน 1,710,171 บาท รายได้จากทรัพย์สิน ค่าเช่าบ้าน 144,000 บาท
รายจ่ายต่อปีของนายแสวง รวม 770,000 บาท แบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 500,000 บาท ค่าเบี้ยประกัน 120,000 บาท รายจ่ายอื่น ๆ ค่าเล่าเรียนบุตร 100,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 50,000 บาท
รายจ่ายต่อปีของคู่สมรส รวม 1,163,600บาท แบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 500,000 บาท ค่าเบี้ยประกัน 120,000 บาท ค่าผ่อนที่อยู่อาศัย 393,600 บาท รายจ่ายอื่น ๆ ค่าเล่าเรียนบุตร 100,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 50,000 บาท
ข้อมูลเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่ามา นายแสวง 1,806,969 บาท คู่สมรส 1,854,171 บาท
