ชูวิทย์เผย ทักษิณถอย ยกเลิกกลับไทย สถานการณ์เปลี่ยนสัญญาณอันตรายเกินคาดเดา
วันที่ 29 กรกฎาคม จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยการกลับประเทศของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า 26 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกยังไม่อยากเชื่อตัวเอง ในสิ่งที่ลูกกำลังจะพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ว วันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่สนามบินดอนเมือง
17 วันเกิดที่ต่างประเทศของพ่อ ลูกพลาดไปแค่ 2 ครั้ง ถ้ารวมครั้งปีนี้คือครั้งที่ 3 เพราะต้องเตรียมหลายอย่างที่เมืองไทย ใจของลูกและทุกคนในครอบครัวเราหนักอึ้ง ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง แต่ก็เคารพการตัดสินใจของพ่อเสมอ ลูกขอให้บุญรักษานะคะ ให้พ่อของลูกแข็งแรงปลอดภัย ได้มาส่งหลาน ๆ ไปโรงเรียนบ่อย ๆ เหมือนที่พ่อตั้งใจไว้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใจดีกับพ่อของลูก เหมือนที่พ่อใจดีกับทุกคนเสมอ รักพ่อที่สุดในโลก
สำหรับพี่น้องที่อ่านมาถึงตรงนี้ คุณพ่อเป็นคนไทยคนหนึ่ง เป็นนายกฯ ที่ถูกพูดถึงว่ามีผลงานมากที่สุด และประสบชะตากรรม ถูกกระทำแสนสาหัส การตัดสินใจกลับบ้านครั้งนี้ เป็นสิ่งที่คุณพ่อพูดอย่างจริงจังต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2565 แม้จะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และในฐานะคนไทยคนนึง แต่คำนึงถึงอย่างที่สุดต่อความสบายใจ และกังวลห่วงใยของทุกคน
วานนี้ (28 ก.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “เกมพลิก ทักษิณถอย ยกเลิกกลับไทย สถานการณ์เปลี่ยน” และว่า “สัญญาณอันตราย เกินคาดเดา”


ชูวิทย์ โพสต์ยันอีก ทักษิณยกเลิกกลับไทย
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์อีกครั้งมีเนื้อหาว่า ผิดแผน! ทักษิณยกเลิกกลับไทย
หากใครคิดว่าทักษิณจะกลับมาไทย วันที่ 10 ส.ค. แล้วมี ตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปรับตัว และนำหมายศาลพาตัวเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษ 3 คดี รวม 10 ปี ตามปกติ
ต้องถือว่าคิดผิด ไม่รู้ใจทักษิณ หากจะทำแบบนั้นจริงคงคิดได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องรอถึง 15 – 16 ปี ทักษิณออกจากไทยในสมัยอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช เมื่อปี พ.ศ. 2551 แล้วไม่กลับมาอีกเลย
ยิ่งจะมากลับเอาช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ที่กำลังร้อนแรงเรื่องการโหวตหานายกฯ และจัดตั้งศูนย์อำนาจใหม่บริหารประเทศ กำหนดการวัน 10 สิงหาคม จึงต้องมี “วาระพิเศษ” แน่นอน
ปกติในวันแรกเมื่อก้าวเท้าเข้าคุกทำประวัติ สามารถยื่นขอ “พระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล” ได้เลย ถือเป็นสิทธิของนักโทษทุกคน แต่นี่เป็นเรื่องของ “คนธรรมดาที่กระทำผิดกฎหมาย” ส่วนคนระดับ “นายกรัฐมนตรี” ที่กระทำผิดกฎหมาย หากใครคิดว่าจะเหมือนกันก็บ้าเต็มที
เอาเป็นว่าแม้แต่คนใหญ่คนโตไปทำผิดกฎหมายแล้วสู้ผิด กรมคุกยังต้องดูแลกันเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากความปลอดภัยในคุก จะให้ไปปะปนกับนักโทษคนอื่นๆ ไม่ได้ เกิดมีนักโทษอยากดัง หรือพวกหมั่นไส้อยากทำร้าย กรมคุกก็ต้องรับผิดชอบ เพราะอยู่ในความควบคุมของตนเอง
แต่ “การขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล” เป็นพระราชอำนาจของในหลวง แม้นักโทษเด็ดขาดชายในคุกมีสิทธิ์ยื่นขอ แต่ไม่มีใครได้ ยกเว้นโทษที่เป็นความผิดต่อตัวพระองค์ท่าน คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ ม.112 นั่นเอง เมื่อมีการพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคลให้ มีธงนำเปิดทางไปที่คุก ได้รับอิสรภาพ ถือเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ในหลวงมีให้ต่อผู้ที่กระทำผิดต่อพระองค์ท่านเท่านั้น
คนทำผิดคดีทุจริต ปล้น ฉ้อโกง ทุกคดี แม้ยื่นขอได้ แต่ไม่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล หากมีใครไปบอกทักษิณว่าทำได้ ก็ต้องเป็นแผนหลอกให้ทักษิณเคลิ้ม ในช่วงนี้พรรคเพื่อไทยเป็น “ตัวแปร”
หากเทไปข้างไหน ขั้วเก่า ขั้วใหม่ ก็ย่อมได้อำนาจ คนระดับอดีตนายกฯ จากบ้านไป 16 ปี ย่อมต้องการกลับมาบ้านเกิดเป็นเรื่องปกติ แต่ครั้นจะกลับมาโดยไม่มีอำนาจคงกลับมานานแล้ว ไม่ต้องมากลับเอาช่วงนี้ เกมแห่งอำนาจ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ หากไม่มั่นใจทักษิณไม่กลับแน่นอน จึงบอกได้ว่า 4 สิงหาคมนี้ ต้อง “ยื้อ” ดึงเช็งสุดฤทธิ์
ตอนนี้ขอถอยไปตั้งหลักก่อน ยกเลิกแผนกลับไทยไม่มีกำหนด จนกว่าจะตั้งรัฐบาลลงตัว ส่วนใครว่าผม “เพ้อเจ้อ” ผมไม่โกรธหรอกครับ เข้าใจดีว่าคุณอุ๊งอิ๊งอยากให้คุณพ่อกลับบ้าน เป็นเรื่องของความกตัญญู ส่วนผมพูดในฐานะคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น