คิกออฟปฏิวัติ เลือกตั้งเพิ่มอำนาจ Voter ปลดแอกเถ้าแก่พรรค

แม้ว่าโรดแมปการเลือกตั้ง ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไว้ว่าจะอยู่ในช่วง ก.พ. 2562 ยังคงเลือนรางไม่แน่นอน

ภายหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 27 คน ลงชื่อยื่นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. …หรือกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตาม “คำบัญชา” พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ส่งกฎหมายที่มีปัญหานำขึ้นทูลเกล้าฯ เพราะยังมีปัญหาอยู่ 2 ประเด็น

หนึ่ง เรื่องการตัดสิทธิคุณสมบัติผู้ไม่ใช้สิทธิเลือกตั้งห้ามเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สอง ให้มีผู้ช่วยเหลือคนพิการตอนกาบัตร ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นความลับ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญอาจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน

แต่สิ่งที่ “คลอด” ก่อนโรดแมปเลือกตั้งคือ “แผน” ปฏิรูปประเทศ 11 ด้านมีผลบังคับใช้นาน 5 ปี อันเป็นภาคบังคับตามหมวด 16 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา

ไฮไลต์ที่สำคัญต่อการเมืองคือ แผนปฏิรูปการเมือง ที่มี “ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ผู้คร่ำหวอดทั้งในด้านวิชาการ-การเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง นั่งหัวโต๊ะ วางแผนปฏิรูปการเมือง 5 ปีตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 จนถึง 30 กันยายน 2565

“ทั้งหมดขอไป 2,000 ล้าน 5 ปี ปีละ 400 ล้าน ถือว่าพยายามใช้งบประมาณที่จำกัด ไม่ใช่การเอางบประมาณมาใช้โดยไม่บันยะบันยัง” เอนกกล่าว

วาระ-พันธกิจพิเศษที่จะถูกนำมาขับเคลื่อนเป็นอันดับแรก ให้เหมาะสมกับสถานการณ์โค้งสุดท้ายอำนาจ คสช.ก่อนการเลือกตั้งคือพันธกิจ “การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อการปฏิรูปประเทศ”

ตั้งงบฯทั้งสิ้น 44.37 ล้านบาท โดย “เอนก” วางคอนเซ็ปต์การปฏิรูป-ปฏิวัติการเลือกตั้งให้สะอาดว่า

“ทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตยุติธรรม ให้เกิดพรรคการเมืองให้กลายเป็นสถาบันหลักของสังคม มีความยั่งยืน เป็นของสมาชิกพรรคและสอดรับกับประชาชนมากที่สุด ไม่ใช่เป็นพรรคของคนไม่กี่คน หรือคนคนเดียว สมัยก่อนเรียกว่าเถ้าแก่พรรค เจ้าของพรรค พรรคจะต้องเป็นสถาบันทางสังคม และนักการเมือง พรรคการเมืองจะต้องมีนโยบาย นอกจากเป็นผลดีของประเทศ และได้ความนิยมแล้ว ยังต้องมีความรอบคอบที่จะไม่ทำให้เกิดความหละหลวมทางการเงินการคลัง เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญขอเอาไว้”

คอนเซ็ปต์ดังกล่าวแบ่งออกเป็นด้านย่อย ๆ หลายด้าน พร้อมกลยุทธ์ในการปฏิบัติภารกิจด้าน “การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในทางการเมืองและการเลือกตั้งระดับชาติ-ท้องถิ่น” ประกอบด้วยกำหนดให้การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อการปฏิรูปประเทศ ให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมรณรงค์ ปลุกเร้าสร้างกระแสความตื่นตัวให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ นายกฯ หรือผู้มีชื่อเสียงดารานักร้องร่วมรณรงค์ให้ประชาชนสำนึกในหน้าที่ไปเลือกคนดีเข้ามาบริหารท้องถิ่นหรือประเทศ ให้เชื่อมั่นในตนเองเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จที่ทำให้เลือกตั้งสุจริต และเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม

ในส่วน “การป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งและการซื้อสิทธิขายเสียง” มีกลยุทธ์ อาทิ -ให้มีมาตรการในการควบคุมผู้ช่วยหาเสียง กำหนดให้ผู้สมัคร 1 คน สามารถมีผู้ช่วยหาเสียงได้ตามจำนวนที่ กกต.กำหนด และต้องประกาศรายชื่อให้แก่ประชาชนรับทราบ ในกรณีที่ผู้ช่วยหาเสียงทำผิดการเลือกตั้งให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องรับผิดชอบด้วย

ให้ประชาชนช่วยสนับสนุน กกต. โดยให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ให้ประชาชนสอดส่อง ป้องกันไม่ให้มีการทุจริตการเลือกตั้ง และในกรณีที่ประชาชนชี้เบาะแสการทุจริตแล้วแจ้งให้ กกต.ทราบ หากนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนและดำเนินการเอาผิดจนคดีถึงที่สุดแล้ว ให้ผู้ที่แจ้งเบาะแสได้รับเงินรางวัลตามที่ กกต.กำหนด

ในช่วงเวลาที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเลือกตั้ง ห้ามแจกสิ่งของทุกชนิด

การที่ผู้สมัครจะใช้จ่ายเงินเพื่อการกุศล ทำบุญ หรือกิจกรรมสาธารณะ ให้ กกต.กำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนและไม่กำกวม

ขณะที่พันธกิจปฏิรูป “พรรคการเมือง” อาทิ พรรคการเมืองต้องมุ่งเน้นการแข่งขันทางการเมืองด้วยนโยบายพรรค และนโยบายจะต้องได้รับมติเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรค พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่า และความเสี่ยง อย่างรอบด้าน ต้องไม่สร้างปัญหาต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ และต้องให้มีเวทีดีเบตนโยบายผ่านเวทีสาธารณะ

ให้พรรคการเมืองปลูกฝังค่านิยมให้แก่สมาชิกพรรคการเมือง และผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งให้เป็นผู้รู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัยและการรู้จักประนีประนอม ไม่สร้างเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดปัญหาหรือนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง และร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของประชาชน

ใช้หลักธรรมาภิบาลและประชาธิปไตยภายในพรรค มีกระบวนการให้สมาชิกพรรคร่วมกำหนดกรรมการบริหารพรรค รับผิดชอบคัดเลือกผู้มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรมจริยธรรม เพื่อไปเป็น

ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแผนปฏิรูปเลือกตั้ง อยู่ในส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปการเมือง 5 ปี ที่เอนกคาดหวังว่าการเมืองไทยจะปฏิวัติตัวเอง

“ประชาธิปไตยไม่ใช่ทำเพื่อประชาชนเท่านั้น แต่ต้องเป็นของประชาชน ต้องมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ และเป็นประชาธิปไตยโดยประชาชน”