“ไก่อู” โต้ ปม.สหรัฐแถลง คสช.ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยันปฏิบัติตาม กม.

“ไก่อู” โต้ ปม.สหรัฐแถลง คสช.ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยันปฏิบัติตาม กม. ย้อนปม พ.ร.บ.คอมพ์ สหรัฐก็มี ระบุเรียกประชุมพรรคการเมือง มิ.ย.นี้ ยังไม่กำหนดวัน เหน็บนักการเมืองทำกิจกรรมจะแค่กินข้าว สนุกสนาน ไม่หารือการเมืองกันอย่างนั้นหรือ

เมื่อวันที่ 22 เมษายน พล.ท.สรรเสริญ แแก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา แถลงรายงานการปฏิบัติ ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศต่างๆ 200 ประเทศทั่วโลกประจำปี 2560 โดยรายงานส่วนของประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลปี 2559-2560 พบว่า ยังมีการจำกัดเสรีภาพพลเมืองโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่พบหลายปัญหา เช่น กรณี เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ จับกุมผู้เห็นต่างทางการเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพทางสื่อออนไลน์ ว่า เป็นเรื่องขององค์กรแต่ละประเทศที่จะคิดอย่างไร ซึ่งเราห้ามไม่ได้ แต่รัฐบาลยืนยันว่าสิ่งที่เราทำในปัจจุบันนี้ ทำตามข้อกฎหมาย กรณีที่ระบุว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดสิทธิเสรีภาพ เช่นการเคลื่อนไหวหรืออะไรก็ตามคงต้องไปดูในรายละเอียดว่า บุคคลที่เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตามกฎหมายนั้น เป็นผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมาย ดังนั้นต้องแยกแยะออกจากกันระหว่างสิทธิเสรีภาพกับการทำผิดกฎหมาย ไม่ได้หมายความว่าใครจะทำอะไรก็ได้ ที่เป็นสิทธิและเสรีภาพ แต่ต้องคำนึงด้วยว่า สิ่งที่ทำแล้วบอกว่าเป็นสิทธิเสรีภาพขัดหลักกฎหมายหรือไม่ เพราะถ้าขัดกับหลักกฎหมาย ก็ทำไม่ได้ แล้วไม่ใช่ว่า กฎกติกานี้จะใช้ที่ประเทศไทยประเทศเดียว แต่ใช้ทุกประเทศในโลก รัฐบาลยืนยันว่าสิ่งที่ดำเนินการไป เป็นการดำเนินการตามข้อกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลและ คสช. ไม่เคยใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ในการดำเนินคดีกับใคร ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้วนำเข้าสู่กฎหมายปกติเป็นผู้พิจารณาว่าถูกหรือผิด ถ้าผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่ผิดก็คือไม่ผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลไทยควรทำหนังสือชี้แจงหรือทักท้วงอย่างไรหรือไม่ โฆษกรบ. กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จะดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่โดยปกติ กต. จะมีวิธีการปฏิบัติของ กต. อยู่แล้ว แต่โดยหลักพื้นฐานอย่างที่ตนบอกแล้วว่ารัฐบาลไม่ได้ ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันเราพยายามที่จะปรับปรุงเรื่องราวเหล่านี้ด้วยซ้ำไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ถูกระบุว่ามีการจำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อออนไลน์ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อออนไลน์ตรงไหนหรือ ทั้งหมดเป็นข้อกฎหมายทั้งนั้น คนที่ถูกดำเนินคดีคือคนที่ปล่อยข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าไปในโลกโซเชียล เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นคนนั้นคนนี้ ซึ่งก็อยู่ในหลักการกฎหมายเช่นกัน หากเกิดข้อมูลอันเป็นเท็จแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินคดี ก็จะไม่เกิดความสับสนวุ่นวายในบ้านเมืองอย่างนั้นหรือ อะไรจริงอะไรใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความเท็จกันไปเรื่อย เป็นการปล่อยข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งบ้านเราก็มีการออก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์กันมาแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายควบคุมคอมพิวเตอร์ อเมริกาก็มีไม่ใช่หรือ ทุกประเทศเขาก็มีเหมือนกัน

เมื่อถามถึงกรณี คสช. จับกุม ผู้เห็นต่างทางการเมือง ตามที่ถูกกล่าวอ้างข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ระบุ เดือนสิงหาคม 2560 มีจำนาน 135 ราย พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ในเวลานี้ ประเทศไทยมีข้อกฎหมายอยู่ เพราะประเทศเราได้ผ่านวิกฤตของความขัดแย้งทางการเมืองมาเมื่อปี 57 และขณะนี้อยู่ในโรดแมป สิ่งที่คสช.ออกมาคือกฎหมายและไม่ได้เป็นอย่างนี้ตลอดชาติ แต่มีตารางเวลาของมันอยู่แล้วอย่างชัดเจน ว่าภายในไม่เกิน กุมภาพันธ์ 62 ก็จะมีการเลือกตั้ง และประมาณ มิถุนายน 61 หรืออาจเร็วกว่านั้น ซึ่งถ้าประสานงานกับพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองได้ เพื่อหารือว่าจะกำหนดกรอบการเลือกตั้งอย่างไร หรือมีข้อสังเกต ข้อห่วงใยอะไรบ้างจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล คสช. พรรคการเมือง ที่จะคุยหารือกัน ซึ่งเมื่อกำหนดวันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจะค่อยๆคลาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นหลักเกณฑ์ที่ทุกคนยอมรับได้อยู่แล้ว ส่วนจะกำหนดวันไหนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองลองย้อนกลับไปดูว่าแต่ละคน เป็นคนหน้าเดิมและมีนัยยะอยู่ด้วยทั้งสิ้น เรื่องแบบนี้ไม่ต้องเล่าก็รู้ใช่หรือไม่ เมื่อถามว่า แสดงว่าถึงขณะนี้รัฐบาลและ คสช. ยังต้องจับตาดูกลุ่มเคลื่อนไหวอยู่ใช่หรือไม่ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้นปัจจุบันนี้ ขอให้ย้อนตรวจสอบดูว่า พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองเขาก็ทำกิจกรรมของเขากันอยู่เพียงแต่อย่าให้ประเจิดประเจ้อจนเกินไป มีการไปร่วมกิจกรรมอะไรกันก็สุดจะแล้วแต่ ก็ต้องถามว่าเขาไม่คุยเรื่องการเมืองกันบ้างหรือ คุยกันแต่เรื่องสนุกสนานกินข้าวกันอย่างเดียวอย่างนั้นหรือ ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันอยู่ แต่ คสช. หรือ รัฐบาลไม่ได้ไปกำหนดกฎกติกาที่หยุมหยิมมากเกินไป

 

 

ที่มา  มติชนออนไลน์