เปิดประวัติ 6 รัฐมนตรีใหม่ เศรษฐา 1/1 พิชัย-พิชิต-เผ่าภูมิ-จิราพร-อรรถกร-สุชาติ

คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1/1 ได้รับการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการ มีคนที่ถูกปรับออก 4 คน แต่มีรัฐมนตรีใหม่ที่เข้ามาถึง 6 คน

ต่อไปนี้คือโปรไฟล์ 6 รัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาล แต่มีบางคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะห่างเก้าอี้รัฐมนตรีไม่ถึงปี ก็คัมแบ็กกลับมาอยู่ใน ครม. เพียงแต่เปลี่ยนรัฐบาล

พิชัย สายตรงจันทร์ส่องหล้า

“พิชัย ชุณหวิชร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปรากฏในสายตาคนการเมืองในพรรคเพื่อไทยครั้งแรก เมื่อเขาถูก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ระบุไว้ในเอกสารของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าเป็น 1 ในจำนวนพยานปากสำคัญ ในคดีจำนำข้าว ในช่วงกลางปี 2557

“พยานผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านบัญชีและเป็นพยานบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า แต่ได้เสียสละยอมมาให้ปากคำ เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมในการวินิจฉัยของ คณะกรรมการป.ป.ช.” นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุในเอกสารที่นำเสนอ ป.ป.ช.

นายพิชัย ชุณหวชิร

Advertisment

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติพิเศษ “เป็นสายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า” และเป็นบุคคลที่อดีตนายกรัฐมนตรีถึง 2 คน ในบ้านชินวัตร ให้ความไว้วางใจมานานแล้ว

ตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มีดังนี้ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

พิชัย ชุณหวชิร นอกจากมีความรู้ความสามารถด้านการบริหาร การบัญชีแล้ว เขายังมีเครือข่ายที่แนบแน่นกับวงการธุรกิจชั้นแนวหน้า จึงปรากฏว่าเขาเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสำคัญในบริษัทยักษ์ใหญ่ มาแล้วนับสิบแห่งฃ

เผ่าภูมิ ลูกหม้อ “ภูมิธรรม”

“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  นั่งเก้าอี้รองเลขาธิการพรรค 3 สมัย ก่อนตำแหน่งในพรรคเพื่อไทยล่าสุดนั่งตำแหน่ง “รองหัวหน้าพรรค” งานแรกที่เข้ามาทำในพรรคเพื่อไทย คือช่วยงาน “ภูมิธรรม เวชยชัย”

Advertisment

แต่ก่อนหน้านี้  หลังเรียนจากเรียนจบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัย Illinois เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ก็กลับมารับราชการที่สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ได้ 1 ปีเศษ

แต่กลับพบว่านโยบายการคลัง ที่เขาใฝ่ฝันกว่าจะนำมาปฏิบัติได้จริง คงใช้เวลา 20 ปี จึงคิดว่าเส้นทางในพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่า

เผ่าภูมิ โรจนสกุล

จุดเปลี่ยนสำคัญของเขา เกิดขึ้นเมื่อผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยท่านหนึ่ง ซึ่ง​ “เผ่าภูมิ” ไม่ประสงค์บอกนาม ได้ชวนมาทำงานที่พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาจึงตอบตกลง

“เพื่อไทยมีอัตลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างความคิดเชิงเศรษฐศาสตร์ในเชิงซับซ้อน สร้างการผลิตใหม่ ๆ โครงสร้างใหม่ ๆ ให้กับสังคม เป็นพรรคที่พยายามสร้างนวัตกรรมเชิงนโยบายให้เกิดขึ้นเป็นมุมมองสอดคล้องกับสิ่งที่เราคิด”

หลังเลือกตั้ง 2566 เขาเรียนรู้งานกระทรวงการคลัง ในตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยู่ 7 เดือน ถึงเวลาที่เขาขยับขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี

มือกฎหมายตระกูลชินวัตร

“พิชิต ชื่นบาน” จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สาขากฎหมายมหาชน เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 34 สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา

ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ทั้งนี้ นายพิชิตเป็นหัวหน้าทีมทนายความต่อสู้คดีต่าง ๆ ให้แก่ครอบครัวชินวัตร ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549 โดยรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมทนายความของนายทักษิณต่อสู้คดีที่ดินรัชดาฯ กระทั่งกลายเป็นข่าวว่าหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาทไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯของศาลฎีกาคดีแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นายพิชิต ชื่นบาน

ต่อมาศาลมีคำสั่งจำคุกนายพิชิต ชื่นบาน 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล อย่างไรก็ตาม ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายพิชิตมีบทบาทในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย และอยู่เบื้องหลังในกลั่นกรองระเบียบกฎหมายให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งในทำเนียบรัฐบาล และในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม หลังจากรัฐประหาร 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อสู้คดีจำนำข้าว นายพิชิตก็ยังทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความสู้คดีให้โดยตลอด

ภายหลังมีการเลือกตั้ง 2562 พรรคเพื่อไทยได้แตกพรรคมาสู้กติกาเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม โดยตั้งพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ขึ้นมา ซึ่งนายพิชิตได้เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษากฎหมาย พรรคไทยรักษาชาติ แต่ไม่ได้นั่งอยู่ในกรรมการบริหารพรรค กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคในเวลาต่อมา

แต่เขาก็ยังทำงานอยู่เบื้องหลัง เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมข้อมูลเบื้องหลัง ในอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน

กระทั่ง ถึงจังหวะที่พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เขามีชื่อเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แต่สุดท้ายหลุดโผ เพราะมีกระแสกังขาเรื่องคุณสมบัติ และความเหมาะสมกรณีที่ถูกศาลฎีกาสั่งจำคุกไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล แต่เมื่อเคลียร์คุณสมบัติได้ กระแสต้านเบาลง เขาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กลั่นกรองข้อกฎหมายสำคัญให้กับ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน คราวนี้เขาจึงไม่พลาดได้เป็นรัฐมนตรี

จิราพร สินธุไพร

จากติ่งเกาหลี สู่รัฐมนตรี

“จิราพร สินธุไพร” สส.ร้อยเอ็ด 2 สมัย เกิดในตระกูลการเมือง เป็นลูกของ “นิสิต สินธุไพร” อดีต สส.ร้อยเอ็ด แกนนำคนเสื้อแดง จบปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทใบที่สอง Master of Science (International Business) University of Reading ประเทศอังกฤษ

เธอเคยเล่าว่า มีพ่อเป็นผู้จุดประกายให้ลงเล่นการเมือง “ตอนที่เราเป็นเด็ก เรามองว่าการเมืองห่างไกลตัว เรามองนักการเมืองเป็นแง่ลบ แต่พอคุณพ่อตัดสินใจเข้าสู่การเมือง ทำให้เราเห็นเป็นตัวอย่างว่า จริง ๆ แล้วนักการเมืองก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นคนทั่วไปถ้าตั้งใจทำดีต่อประเทศชาติได้เราก็เลยเริ่มรู้สึกว่าอยากเป็นนักการเมืองเจริญรอยตามคุณพ่อ”

ส่วนเป้าหมายทางการเมือง คือ อยากเห็นประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งเข้าใจว่ามันต้องใช้เวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก แต่ขอเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ตัวหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายนั้น แต่ตอนนี้ เธอเป็นรัฐมนตรี

แต่อีกหมวกหนึ่งเธอก็เป็น “ติ่งเกาหลีตัวแม่ของ TVXQ ตอนเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ เธอทำทีซิสเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีมาแล้ว

อรรถกร อดีตเลขาวิปรัฐบาลลุงตู่

“อรรถกร ศิริลัทธยากร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ โควตาพรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นมือ-ไม้ สำคัญของวิปรัฐบาลในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงที่มี “นิโรธ สุนทรเลขา” เป็นประธานวิป เขาเป็นคนอยู่หน้าฉาก พูดแทน “นิโรธ” ในสภาในฐานะ เลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)

เขาเป็นคนพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จบปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จากนั้นศึกษาต่อปริญญาโทด้านการบริหารการตลาดที่มหาวิทยาลัยมิดเดิลเซ็กซ์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เป็นบุตรของ “อิทธิ ศิริลัทธยากร” อดีต รมช.คมนาคม อดีตนักการเมือง “กลุ่ม 16”  ที่มี “สุชาติ ตันเจริญ” เป็นแกนนำ

เสี่ยเฮ้ง คัมแบ็ค

“สุชาติ ชมกลิ่น” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ อายุ 50 ปี ปีนี้ เขาบอกว่า ในชีวิตเขามีคนที่ให้โอกาส 2 คน

คนแรก “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม ผู้ที่มอบโอกาสทางการเมือง เพราะเขาเข้าไปเป็นลูกน้องกำนันเป๊าะตั้งแต่อายุ 25 ปี คนที่ 2 “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยเขาเปิดใจว่า “ที่ใครบอกว่า โอ้ย อยู่กับท่านประวิตร เดี๋ยวก็ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่ นายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประยุทธ์ คือคนพิจารณา”

สุชาติ ชมกลิ่น

สุชาติเล่าถึงอดีตของเขาว่า เคยเป็นคนจน แบกน้ำตาล-ข้าวสารอยู่ท่าเรืออ่าวไทย 7 ปี ชีวิตลำบาก รับเหมาเป็นกุลี ทำเรือสินค้าส่งออกข้าว น้ำตาล อยู่เกาะสีชัง

“ก่อนหน้านี้สมัยเรียนจบบัญชีใหม่ ๆ เป็นเซลส์ขายบ้าน เงินเดือน 5,500 บาท ทำอยู่ 1 ปี ทำงานธนาคาร 1 ปี ออกมารับเหมา 7 ปี หลังจากนั้นมาทำหมู่บ้านจัดสรรเอง จาก 2 ห้อง เป็น 4 ห้อง เป็น 8 ห้อง”

“เสี่ยเฮ้ง” ยังเผยอีกว่า เป็น “เซลส์ขายบ้าน” หมู่บ้านแคลิฟอร์เนีย เจ้าของหมู่บ้านคือ “สนธยา คุณปลื้ม” เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนจะไปเป็น “นายแบงก์” ใช้วิชาบัญชี-เรียนรู้วิธีการสินเชื่อ

วันที่ “สนธยา คุณปลื้ม” ลูกชายกำนันเป๊าะได้เป็น รมช.อุตสาหกรรม ครั้งแรก ฉลองกันที่หมู่บ้านแคลิฟอร์เนีย เขาเป็นแค่เซลส์ขายบ้านในหมู่บ้านนั้น ภาพยังติดตา

เรียนจบจาก “โรงเรียนวัด” เป็น “นักกีฬาฟุตบอล” สโมสรโอสถสภา ได้เบี้ยเลี้ยงซ้อมวันละ 120 บาท เบี้ยเลี้ยงแข่งวันละ 240 บาท มีเงินเดือนหลักพันบาท

“คุณพ่อ” มีอาชีพรับจ้าง-จับกัง “คุณแม่” มีอาชีพเป็น “แม่ค้าขายขนมครก” อยู่หน้าตลาดหนองมน กระทั่งมีจุดเปลี่ยนที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในสังกัดบ้านใหญ่ “คุณปลื้ม” เริ่มต้นเป็น สส.พรรคพลังชล พร้อมๆ กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

“ชีวิตก็เหมือนละคร เหมือนนิยาย พ่อเป็นยาม แม่ขายขนมครก ใครจะคิดว่าจะมาเป็น สส. มาถึงวันนี้ไม่คิดอะไร กำไรเท่าไหร่แล้ว ให้ชีวิตมีความสุขเข้าไว้ ทุกวันนี้แม่ผมเดินไปตลาด มีแต่คนยกมือไหว้หมด เพราะไม่เคยคดโกงใคร เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ถึงจะจน แต่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ” เขาเคยเล่า

ก่อนประสบความสำเร็จบนเส้นทางการเมือง ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ

วันนี้เขากลับเข้าสู่ห้องประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

นี่คือโปรไฟล์ 6 นักการเมือง ชุดใหม่ใน ครม.เศรษฐา 1/1