
เปิดยุทธศาสตร์การเมืองพรรคเพื่อไทย ภายใต้เงาของทักษิณ ชินวัตร ครึ่งหลังปี 2567 หลังรัฐบาลครบ 1 ปี เดินหน้าปิดดีลตระกูลการเมืองใหญ่กลับเพื่อไทย
แม้ว่าผลการเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมา การเมืองระบบบ้านใหญ่หลายพรรคจะพ่ายแพ้ให้กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แต่ผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และการเลือก สว.ล่าสุดพบว่า “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” และเครือข่ายภูมิใจไทย (ภท.) ยังได้ตำแหน่ง สว.เข้าสู่วุฒิสภา (สว.) ในสัดส่วนเกือบ 2 ใน 3
และแม้ว่า “ตระกูลอยู่บำรุง” กำลังเปิดศึกใหญ่กับนายใหญ่พรรคเพื่อไทย แต่การเมืองระบบบ้านใหญ่ยังเป็นกลยุทธ์ใหญ่ปัจจัยชี้ขาดชัยชนะของทุกพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
พรรคเพื่อไทย ในร่างของพรรคไทยรักไทย นับว่าเป็นพรรคที่เคยเป็นแหล่งชุมนุมขุนพลการเมืองบ้านใหญ่ไว้มากที่สุด สามารถเป็นกำลังสำคัญในชัยชนะต่อเนื่อง 22 ปี ผ่านการเลือกตั้ง 5 ครั้ง นับตั้งแต่การเลือกตั้ง 2544, 2548, 2550, 2554 และ 2562
การเลือกตั้ง 2566 นับเป็นครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยอยู่ในฐานะ “แพ้เลือกตั้ง” ครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ พื้นที่เคยชนะ “ยกจังหวัด” เหลือเพียง สส.เสี้ยวเดียวเท่านั้น
แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุว่า หลังจากนี้การเดินสายของแกนนำพรรค และการเคลื่อนขบวนของ “ทักษิณ” จะพุ่งเป้าการดึง “บ้านใหญ่” กลับเพื่อไทย สะสมชัยชนะให้เพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
เช็กจำนวน-รายชื่อ ตระกูล “บ้านใหญ่” ที่ยังปักหลักอยู่กับพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กุมสภาพเครือข่ายเพื่อไทย โฟกัสภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออกบางส่วน
บ้านใหญ่ภาคเหนือ
สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ ที่ยังปักหลักอยู่ในเพื่อไทย ประกอบด้วย
- “บ้านใหญ่เตชะธีราวัฒน์” มีชื่อ วิสาร เตชะธีราวัฒน์ และวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ อดีต สส.เชียงรายหลายสมัย และวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ภรรยา จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง
- ตระกูลใหญ่ “จงสุทธานามณี” ยังอยู่ในเพื่อไทยทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ แม้ว่าธนรัช จงสุทธานามณี จากพรรคเพื่อไทย จะแพ้เลือกตั้งให้กับชิตวัน ชินอนุวัฒน์ จากพรรคก้าวไกล
- “ตระกูลโล่ห์สุนทร” เจ้าของพื้นที่ลำปาง ซึ่งในครั้งนี้ชนะเพียงเขตเดียว ส่วน “ตระกูลจันทรสุรินทร์” ก็แพ้การเลือกตั้งทั้ง 3 เขต
- ตระกูล “ติยะไพรัช” ในนามพรรคเพื่อไทยที่ชนะได้ 1 คน คือ ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช แต่ละออง ติยะไพรัช ไม่ได้เข้าสภา
- ตระกูลบูรณุปกรณ์ และบ้านใหญ่อมรวิวัฒน์ แห่งจังหวัดเชียงใหม่
- ตระกูลศรีแก้ว จ.น่าน
- บ้านใหญ่ไชยณรุณ จ.พะเยา
- บ้านใหญ่จันทรสุรินทร์ จ.ลำพูน
- ตระกูลพงษ์มณี-มณีรัตน์ จ.เลย
ตระกูลการเมือง บ้านใหญ่ภาคอีสาน
- ตระกูลเพชรพนมพร อุดรธานี
- ตระกูลศรีวรขาน และตระกูลเจริญศรี นครพนม
- บ้านใหญ่จันทรรวงทอง บ้านใหญ่หวังศุภกิจโกศล และตระกูลปัทมะ นครราชสีมา
- ตระกูลจรัสเสถียร-คลังแสง มหาสารคาม
- บ้านใหญ่ศิริพานิชย์ และตระกูลติณรัตน์ มุกดาหาร
- บ้านใหญ่ตั้งปณิธานนท์ ร้อยเอ็ด
- ตระกูลสินธุไพร ตระกูลนาเมืองรักษ์ และตระกูลคงเพชร สกลนคร
- ตระกูลเวชกามา หนองคาย
- ตระกูลจันทาทอง บ้านใหญ่อินทร์รอด หนองบัวลำภู
- ตระกูลพรหมา อุบลราชธานี
- บ้านใหญ่กัลป์ตินันท์ ตระกูลพิทักษ์พรพัลลภ ตระกูลเชื้อคง อุดรธานี
- ตระกูลสาราคำ ตระกูลชัยนิคม ตระกูลเมนะสวัสดิ์
- ตระกูลอรรณนพพร ขอนแก่น
- ตระกูลสังพุ่ม สุรินทร์
พื้นที่ปราบเซียน บ้านใหญ่ภาคตะวันออก
- จังหวัดชลบุรี บ้านใหญ่คุณปลื้ม
- ฉะเชิงเทรา บ้านใหญ่ตันเจริญ และตระกูลฉายแสง
เป้าหมายต่อไปดีลบ้านใหญ่รวมเพื่อไทย
แกนนำจากพรรคเพื่อไทยระบุว่า หลังจากวันที่ 22 สิงหาคม 2567 นายทักษิณ ชินวัตร จะมีโปรแกรมเดินสายไปเจาะ-เจรจากับตระกูลบ้านใหญ่อีกหลายจังหวัด รวมทั้งอาจมีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศด้วย
บ้านใหญ่-ตระกูลดังที่อยู่ระหว่างดีล และคาดว่าจะปิดดีลในการเลือกตั้งครั้งหน้า อาทิ จ.นครราชสีมา มีการหมั้นหมาย “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” จากพรรคชาติพัฒนาไว้แล้ว
ที่ดีลจบไปแล้ว อาทิ จ.ปทุมธานี ซึ่งออกดอกออกผลในการชนะเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดย “บ้านใหญ่ปทุม” “ชาญ พวงเพ็ชร์” ชนะ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง”
ส่วนบ้านใหญ่ทั้งหมด ตระกูลหลีนวรัตน์ ตระกูลภิรมย์พร้อม ตระกูลเกียรติพัฒนาชัย ตระกูลนพขำ ตระกูลอึ้งอัมพรวิไล ตระกูลประเสริฐสุข ล้วนกลับมาเป็นเครือข่ายเพื่อไทย
จังหวัดนนทบุรี มีฐานเสียง “แดงเมืองนนท์” อยู่ระหว่างดีลกลับเพื่อไทย เครือข่าย “นายสมนึก ธนเดชากุล” นายกเทศมนตรีนครนนท์
เป้าหมายที่ปักหมุดไว้ล่วงหน้าอีกจังหวัดคือนครปฐม หวังดูดตระกูลสะสมทรัพย์กลับเพื่อไทยยกตระกูล
รวมทั้งสาย “เทียนทอง” ที่กระจายอยู่ทั้งในเพื่อไทยและบางส่วนในพลังประชารัฐ
ส่วนสาย “รัตนากร” แห่งกำแพงเพชร ที่มีนายวราเทพเป็นประมุขบ้านใหญ่ ก็ถือว่ามีใจให้เพื่อไทยมาโดยตลอด ผ่านสายสัมพันธ์ “เจ้แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์