ชาติไทยพัฒนา 10 เสียงไม่แตกแถว โหวต “แพทองธาร” นั่งนายกฯ มั่นใจทำงานตำแหน่งผู้นำประเทศได้ เชื่อมีประสบการณ์ทำงาน-เป็นลูกสาวอดีตนายกฯ ส่วนปรับเปลี่ยนกระทรวงค่อยคุยภายหลัง
วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีว่า สส.ของพรรคทั้ง 10 คนมีทิศทางการลงคะแนนในทางเดียวกัน
หลังจากวานนี้ (15 ส.ค.) พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้แสดงเจตจำนงในการเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันแนวทางดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อถามถึงความเหมาะสมของ น.ส.แพทองธารต่อตำแหน่งนายกฯ นายวราวุธกล่าวว่า ตนคิดว่าขออย่าดูที่วัยวุฒิ วันนี้เราเห็นแล้วว่าคนรุ่นใหม่ล้วนมีศักยภาพ มีความสามารถ อีกทั้งนายกฯ ไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทีมที่ปรึกษา และมีคุณพ่อเป็นอดีตนายกฯ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาอย่างดีในทุกเรื่อง
เมื่อถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของกระทรวงที่จะดูแลหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่าคงมีการพูดคุยกันภายหลัง ขณะนี้ขอให้ได้นายกฯ ก่อน แต่พรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ตรงไหนก็ทำงานเต็มที่มาตลอด ตั้งแต่นายกฯเศรษฐาก็ทำงานกันมาด้วยดี อย่างไรก็ดี หากเปลี่ยนกระทรวงคงต้องพูดคุยกันถึงความเหมาะสม เพราะนายกฯ แต่ละคนก็มีแนวทางทำงานแตกต่างกันไป
เมื่อถามว่า ส่วนตัวพอใจกระทรวง พม.หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่าวันนี้ตนรักษาการ รมว.พม. ก็คงทำงานเต็มที่ ตนทำงานได้ทุกที่ขอให้มีงานเข้ามา เพียงแต่วันนี้สวมหมวก รมว.พม. วันหน้าในอนาคตค่อยว่ากันไป
เมื่อถามถึงปัจจัยเสี่ยงของรัฐบาลใหม่ นายวราวุธกล่าวว่ามีทั้งปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาระดับนานาชาติ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯเศรษฐาทำงานในทุกมิติ ก็เชื่อว่ารัฐนาวาลำต่อไปจะประสานงานต่อ ตนคงไม่มีอะไรแนะนำ เพราะเชื่อว่ามีคนแนะนำเยอะแล้ว เพียงแต่ได้ทำงานร่วมกันก็ดีใจ
เมื่อถามถึงจุดเด่นของ น.ส.แพทองธาร นายวราวุธกล่าวว่าวันนี้อย่ามองแบบคนรุ่นใหม่ หรือคนรุ่นใหญ่ แต่ให้มองเรื่องประสบการณ์ทำงาน และหางเสือที่ชัดเจน ประเทศมีขึ้นมีลงบ้าง การทำงานจึงจำเป็นต้องฟังเสียงทุกฝ่าย และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เมื่อถามถึงนโยบายดิจิทัลวอลเลตจะต้องเดินหน้าหรือยกเลิกหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า รอให้มีนายกฯ และร่างนโยบายรัฐบาลชุดต่อไปก่อน และคงต้องให้เกียรติพรรคใหญ่ด้วย ส่วนความเห็นของกฤษฎีกาก็ถือเป็นความเห็นของท่าน แต่ต้องดูนายกฯ และ ครม.ว่ามีแนวทางอย่างไร