
ปลัดแรงงานเผยเลื่อนอีกครั้งประชุมขึ้นค่าแรง 400 บาท 24 ก.ย.นี้ คาดประกาศไม่ทัน 1 ต.ค. 67 รอ ครม.ตั้งฝ่ายผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่
วันที่ 23 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ในวันพรุ่งนี้ 24 ก.ย. ไม่สามารถประชุมได้แล้ว เนื่องจากได้รับการแจ้งจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายเมธี สุภาพงษ์ ไม่ได้เป็นตัวแทน ธปท.แล้ว
จึงต้องรอให้ ธปท.ยืนยันกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษร และให้ส่งผู้แทนคนใหม่มา ส่วนนายเมธีต้องลาออก เพราะการแต่งตั้งทำโดยมติ ครม. เป็นการตั้งโดยชื่อ ซึ่งการจะแต่งตั้งคนอื่นได้ต้องลาออกก่อน
เมื่อถามว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องส่งชื่อคนใหม่ที่จะมาแทนนายเมธี และเสนอชื่อ ครม.หรือไม่ นายไพโรจน์ระบุว่าใช่ และประเด็นคือในวันที่ประชุมบอร์ดค่าจ้าง ยังคิดว่านายเมธียังเป็นตัวแทน ธปท.อยู่ เมื่อตรวจสอบส่วนราชการที่ไม่มาประชุมรวมถึง ธปท. ระบุไม่รับผิดชอบการกระทำของนายเมธี ตนเองจึงได้ทำหนังสือไปยัง ธปท.ให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นหลักฐานว่านายเมธีไม่เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนระยะเวลาการทำงานของตนเองที่เหลือเพียง 6 วัน ก่อนเกษียณอายุราชการ ไม่ทันกับการรับผิดชอบในส่วนนี้หรือไม่ นายไพโรจน์ย้ำว่าต้องรอหนังสือจาก ธปท.ตอบกลับมา
เมื่อถามว่าจะไม่ทันประกาศขึ้นค่าแรง 1 ต.ค.นี้ และต้องเลื่อนไปก่อนใช่หรือไม่ นายไพโรจน์ยอมรับว่าน่าจะไม่ทัน 1 ตุลาคมนี้ แต่หากนายเมธีลาออกภายในสัปดาห์นี้ และเราสามารถหาคนแทนนายเมธีได้ และเสนอเข้า ครม.ก็อาจจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ทัน ล่าช้าไป 1-2 สัปดาห์
นายไพโรจน์ยังระบุอีกว่า หลังจากตนเองเกษียณอายุราชการแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของปลัดไตรภาคี นั่นคือปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ ยืนยันว่าตนเองทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและทำเต็มที่
เมื่อถามว่าจะไปรอดหรือไม่ นายไพโรจน์กล่าวว่าเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าไม่อยู่ในห้องประชุมก็ไม่รู้ว่าการพิจารณาแต่ละประเด็น ฝ่ายนายจ้างก็มีมุมมองหนึ่ง นายจ้างทุกคนมีเหตุผล ส่วนลูกจ้างก็มีเหตุผล ภาครัฐก็ต้องเป็นคนประสานเอามิติความคิดทั้งสองฝ่าย รวมถึงฝ่ายราชการมารวมในรูปแบบว่าจะขึ้นเท่าไหร่ ตนเองรู้ว่าสื่อมวลชนก็รอคำตอบอยู่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างถูกเลื่อนมาแล้วสองครั้ง คือเมื่อ 16 ก.ย. เนื่องจากคณะกรรมการฝ่ายนายจ้างไม่ได้เข้าประชุม และ 20 ก.ย. คณะกรรมการฝ่ายข้าราชการเข้าไม่ครบ แม้จะมีการพบเห็นคณะกรรมการบางคนเดินอยู่ภายในกระทรวงแรงงาน ก่อนเริ่มประชุมไม่นาน