“อนาคตใหม่” จัดงาน “Future Fest” หวังปลุกคนรุ่นใหม่สร้างสรรค์ อย่าสิ้นหวังกับอดีต

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่JAM Factory คลองสาน พรรคอนาคตใหม่ได้จัดงาน “Future Fest เทศกาลศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี ของเหล่าผู้ไม่ยอมทน ศิลปินและคนหัวคิดก้าวหน้า ที่ฝันถึงการเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่อนาคตที่ดีกว่า” โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการ Futurist ผู้มาก่อนกาลรวบรวมบุคคลผู้มีสิสัยทัศน์ ที่ก้าวไปไกลกว่าคนรุ่นเดียวกัน และได้ทิ้งมรดกไว้ เพื่อให้โลกนี้ ได้ก้าวไปข้างหน้า No Man’s Land งานศิลปะที่ไม่สามารถจัดแสดงได้ เพื่อสะท้อนความคับข้องใจของศิลปินในวงการศิลปะที่ถูกรัฐเซ็นเซอร์ รวมทั้งบูธจัดแสดงของกลุ่ม NGN กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ฝันถึงสังคมและอนาคตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และงานออกร้านของร้านค้าต่างๆ จากเจ้าของร้านผู้ไม่ยอมจำนนต่อการผูกขาด ทิ้งความสิ้นหวัง ก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน Out Of The Dark Side, Join The Future นอกจากนี้ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินและวงดนตรี อาทิ POLYCAT จินตะ จระเข้บัว KQ RAP EAK BOMB ATTRACK SOLITUDE IS BLISS ด้วย

ทั้งนี้เวลา 18.30 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงานในวันนี้ว่า กลุ่มเป้าหมายของพรรคคือคนรุ่นใหม่ โดยการจัดงานจะเน้นความหลากหลายในการแสดงดนตรี การขายสินค้า และการรณรงค์ในเรื่องประเด็นต่างๆที่คิดว่านี่คือสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถ้าบ้านเมืองอยู่ในระบอบประชาธิปไตย สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ควรจะเกิดขึ้นได้เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ขณะที่อนาคตใหม่ของเราไม่อยากเห็นการเมืองเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจเพียงอย่างเดียว เราอยากเห็นการเมืองเป็นเรื่องของคนธรรมดาทุกคน ไม่อยากเห็นการเมืองเป็นเรื่องของการเสียดสี การกระแหนะกระแหน การสาดโคลน หรือแม้กระทั่งการดิสเครดิตกัน แต่เราอยากเห็นการเมืองเป็นเรื่องของการพูดที่สร้างสรรค์ เป็นการประชันกันในเรื่องของนโยบาย เราอยากเห็นการเมืองที่สนุกสนาน ซึ่งคิดว่าเป็นไปได้และงานวันนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นไปได้ การเมืองไม่ต้องเป็นเรื่องที่ทำลายกันอย่างเดียว แล้วใช้การเมืองเป็นเครื่องมือในการสร้างสังคมที่ดีกว่านี้ผ่านทางการนำ พลังสร้างสรรค์ของทุกคนมาใช้ ซึ่งนั่นคือการเมืองในแบบของเรา

เมื่อถามถึงกรณีศิลปินแร็พ Liberate P และRAD ที่ถูกจับตามอง นายธนาธร กล่าวว่า มันคือความพูดความจริงในช่วง4-5ปีที่ผ่านมามีคนมากมายในสังคมที่ถูกเซ็นเซอร์ ถูกคุกคามทางอาจารย์มหาวิทยาลัยและนักศึกษาระดับปริญญาตรีก็พยายามจัดกิจกรรมวิชาการแต่กลับถูกห้ามจัดงาน ประชาชนหลายกลุ่ม รวมทั้งภาคประชาสังคมที่อยากจัดการรวมตัวกันเพื่อพูดคุยในหลายประเด็นก็ถูกสั่งห้าม ประชาชนหลายกลุ่มจึงลุกขึ้นมาพูดปัญหาให้รัฐบาลฟัง เพื่อสะท้อนปัญหาแต่ก็ถูกสั่งห้าม ประชาชนหลายส่วนถูกคุกคาม รวมทั้งสิทธิเสรีภาพของสื่อหลายสำนักย่ำยี สิ่งที่เราพูดวันนี้คือการสะท้อนภาพความเป็นจริงของสังคมไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตามก็ต่างปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือความจริงของการปกครองภายใต้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในรอบ4-5ปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการใช้ศิลปะและวัฒนธรรมมาสื่อสารในประเด็นต่างๆของสังคม โดยมีการพูดถึงเรื่องอิสรภาพและเสรีภาพ แต่ก็ระยะหลังมีการนำกฎหมาย นายธนาธร กล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายว่าเราใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมไม่เหยียบย่ำเสรีภาพของประชาชน กฎหมายพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ที่นำมาใช้กับตนนั้นตนก็ไม่ใช่คนแรกในสังคมเพราะก่อนหน้านั้นมีคนอีกหลายคนนี้ที่ถูกกฎหมายนี้มาใช้เพื่อปิดปากและปิดช่องทางในการแสดงความคิดเห็น นี่คือเครื่องมือของรัฐบาลที่มาจากเผด็จการ เพราะว่าเขาเหล่านี้ไม่มีความชอบธรรมในการยึดถืออำนาจ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ป้องกันไม่ให้เกิดการลุกฮือของประชาชนลุกขึ้นมาที่จะลุกขึ้นมาโค่นอำนาจเขาเหล่านั้นจึงต้องใช้อำนาจบิดๆแบบนี้ กฎหมายคุกตะรางปืนข่มขู่ด้วยอำนาจประชาชนเราประชาชนไม่ว่าจะเคยใส่เสื้อสีอะไร ตนขอชักชวนทุกคนวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนทุกกลุ่มจะต้องกลับมารวมตัวกันและบอกให้ชัดว่าศัตรูของประชาชนคือกลุ่มทหารที่ทำรัฐประหารทำให้หยุดยั้งการพัฒนาของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานหลายครั้งวันนี้คือเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนยุคสมัยมาร่วมกันทำให้รัฐประหารครั้งที่ผ่านมาเป็นครั้งสุดท้าย เราต้องช่วยกันสร้างสรรค์สังคมที่ไม่มีรัฐประหาร ช่วยกันสร้างประชาธิปไตยให้ยั่งยืนเพื่อส่งต่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลาน

เมื่อถามว่า กลุ่มคนที่มาร่วมกิจกรรมกับภาคส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ในเมืองสะท้อนให้เห็นโอกาสของพรรคที่จะได้เข้ามาทำงานการเมืองหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนเพราะเป็นความตั้งใจของเรา ของเรามีกลุ่มเยาวชนที่ชัดเจน ซึ่งเราต้องการทำงานกับคนรุ่นใหม่เพื่อปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งประชาธิปไตยที่มีความคิดก้าวหน้าไว้ในกลุ่มคนเหล่านี้เพราะคนเรานี้คิดเองเป็นและเมื่อเราให้ความคิดที่ถูกต้องเขาก็สามารถไปต่อยอดได้เองกลุ่มคนเหล่านี้ถือว่ามีศักยภาพและมีความคิดที่สร้างสรรค์รวมทั้งมีพลังอย่างมโหฬาร เราอยากให้คนเหล่านี้นำความคิดและความเชื่อเรื่องประชาธิปไตยสิทธิมนุษยชนไปขยายผลต่อในแวดวงของพวกเขา อย่างไรก็ตามในวันที่ 5 พฤศจิกายน ตนพร้อมด้วยทีมงานพรรคอนาคตใหม่จะลงพื้นที่เยาวราชรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่บรรพบุรุษของตนและนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่

Advertisment