ไปรษณีย์ไทย ระดมจนท. 3,000 นาย พร้อมคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า-จัดส่ง 350 เขตปลายทาง

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 17 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ไปรษณีย์หลักสี่ ซึ่งเปิดเป็นศูนย์ปฏิบัติการการคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส. 2562 ที่ลงคะแนนแล้ว นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมนายมานพ ศรวิบูลย์ศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการนครหลวง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) นำสื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ศูนย์ปฏิบัติการการคัดแยกบัตรและเยี่ยมชมการคัดการแยกบัตร โดยบัตรเลือกตั้งชุดแรกที่นำส่งถึงศูนย์คัดแยกฯ เข้ามาถึงในเวลา 17.30 น.เป็นรถจากหน่วยเลือกตั้งเขตสามเสนใน ณ หน่วยลงคะแนนโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งมีผู้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าเพียงแค่ 34 คนเท่านั้น ทั้งนี้การคัดแยกบัตรจะดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง แบ่งเจ้าหน้าที่ทำงานออกเป็น 3 เวรต่อวัน

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทยจำกัด (ปณท) กล่าวว่า บ.ไปรษณีย์ไทยได้รับมอบภารกิจจาก กกต. ให้เป็นผู้คัดแยกบัตรเลือกตั้งและขนส่งถุงบรรจุบัตรเลือกตั้งไปยัง 350 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วทั้งหมด จะถูกส่งมาทำการคัดแยก ณ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ซึ่งมีขั้นตอนในการปฏิบัติงานด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนการรับมอบถุงบรรจุซองบัตรเลือกตั้งที่ต้องตรวจนับจำนวนให้ถูกต้อง ก่อนจะส่งต่อไปยังคณะกรรมการเปิดถุงบรรจุซองบัตรเลือกตั้งเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของถุง และตรวจนับจำนวนซองบัตรเลือกตั้งพร้อมบันทึกรายงานการตรวจนับ จากนั้นจะทำการคัดแยกไปตามเขตเลือกตั้งด้วยเครื่องคัดแยกอัตโนมัติ (OCR) โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของการคัดแยกอีกครั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ก่อนจะปิดถุงแล้วขนส่งด้วยรถขนส่งไปรษณีย์ไปยัง 350 เขตเลือกตั้งปลายทาง เพื่อนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปนับคะแนนพร้อมกัน ทั่วประเทศ ในการนี้ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมเจ้าหน้าที่กว่า 3,000 คน เพื่อรองรับการปฏิบัติภารกิจการคัดแยกและขนส่งบัตรเลือกตั้งในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีตัวแทนของพรรคเพื่อไทยสี่คน โดยระบุว่าเป็นทีมปราบโกงเลือกตั้งของพรรค มาเฝ้าสังเกตการณ์การคัดแยกบัตรเลือกตั้งที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ผ่านกล้องวงจรปิด โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ระบุว่าจะเปิดให้ผู้ที่สนใจสังเกตการณ์มาเฝ้าดูผ่านโทรทัศน์วงจรปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อความโปร่งใส

 

 

 


ที่มา มติชนออนไลน์