“ธนาธร” ลงพื้นที่มหาชัย ฝากบอกภท.-ปชป. ยังมีเวลา อย่าเป็นนั่งร้านสืบทอดอำนาจ คสช.

ธนาธร เปิดสนามนอกสภานัดแรกที่มหาชัย ลั่นหากเป็นรัฐบาลจะเอาทหารออกจากประมง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเสวนารับฟังปัญหาจากการประกอบอาชีพประมงจังหวัดสมุทรสาคร ที่ตลาดมหาชัยมั่นคง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีผู้แทนภาคประมงในจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกว่า 200 คน

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า การทำงานในฐานะตัวแทนของประชาชนไม่จำเป็นจะต้องทำในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น พวกเขาไม่ให้ผมเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎรผมก็จะออกมารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนหาทางแก้ไขปัญหาและเอาสิ่งต่างๆ เหล่านี้กลับไปให้เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่ที่อยู่ในสภาได้อภิปราย ได้ตั้งกระทู้ และหากเราเป็นรัฐบาลก็จะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไปแก้ไขด้วย

“สำหรับปัญหาการประมง การรับเงื่อนไข IUU ของรัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้านทำให้ชาวประมงหลายครอบครัวหลายหมื่นครอบครัวในประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้ เสียอาชีพการงาน เราเชื่อว่ามีวิธีมีทางออกที่ดีกว่าที่จะรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชนในภาคแรงงานในอุตสาหกรรมประมง รักษาไว้ซึ่งทรัพยากรทางทะเล ในขณะเดียวกันก็ปกป้องอาชีพ ปกป้องรายได้ของชาวประมง ผมเชื่อว่ามีทางออกที่สามารถประสานวัตถุประสงค์ที่ต่างกันเหล่านี้ได้”

สำหรับประเด็นการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์นั้น นายธนาธรกล่าวว่า มองว่าตึงเครียด คงเป็นการขู่จากผู้นำกองทัพกับนักการเมืองให้ยอมตามเงื่อนไขของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขอเรียนทุกท่านว่า ไม่มีต้นทุนทางสังคมเพียงพอที่จะทำรัฐประหารอีกครั้ง ถ้ามีการทำรัฐประหารอีกครั้ง ธนาธรกับพรรคอนาคตใหม่จะลุกขึ้นต่อต้าน ดังนั้นขอให้ทุกคนอย่ากังวลเรื่องข่าวลือการทำรัฐประหาร ไม่มีทั้งเหตุผลไม่มีทั้งต้นทุนทางสังคมเพียงพอที่จะทำเช่นนั้น ผมอยากจะชวนประชาชน ทุกหมู่เหล่าในประเทศไทยที่รักความถูกต้อง รักประชาธิปไตย หากเกิดรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง มาร่วมต่อสู้มาร่วมต่อต้านการทำรัฐประหารด้วยกัน

“ขอพูดชัดๆว่า ที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.ไม่ได้เอาผลประโยชน์เป็นตัวตั้งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยกันเลยว่า เสรีรวมไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงไหน เศรษฐกิจใหม่กระทรวงไหน เพื่อไทยจะได้กระทรวงไหน พรรคอนาคตใหม่จะได้กระทรวงไหน เราไม่ได้เอาเรื่องพวกนี้เป็นตัวตั้งเลย ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ แต่เป็นเรื่องหลักการโดยรวม ว่าเวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยคือการทำให้ประเทศกลับเป็นประชาธิปไตยเอาทหารกลับเข้ากรมกอง ดังนั้นผมฝากตรงนี้ไปถึงพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีเวลาที่จะตัดสินใจเดินเข้ามาร่วมกัน เรามีเงื่อนไขน้อย พวกเรายืดหยุ่น ขอให้หลักการตรงกันว่าทิศทางที่ประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าคือกลับสู่ฝั่ง อย่าไปเป็นนั่งร้านให้กับการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ มันไม่สง่างาม”

นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพรรคอนาคตใหม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ก็จะหยิบเอา พ.ร.บ.ประมง พ.ศ.2560 และกฎหมายลูกที่เกิดขึ้นจากพ.ร.บ. ฉบับนี้ เอามาแก้ไข แต่การจะแก้ไขได้ก็ต้องถามผู้เชี่ยวชาญและความต้องการของพี่น้องชาวประมง หรือจะล้างใหม่ทั้งหมดเลยก็ต้องมาคุยกัน โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีบางคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วก็ไปโดนข้อหา โดนคดีความ หลายคนเสียหายหลายล้านบาท คดีต่างๆที่เกิดกับชาวประมงต้องได้รับการทบทวน คดีไหนที่ไม่ได้ทำตามตัวบทกฎหมายเพราะไม่รู้จริงๆ ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ต้องยกเลิก ซึ่งจะต้องมีการทบทวนเรื่องที่รัฐทำผิด เช่น กรณีที่ใบอนุญาตถูก เครื่องมือถูก แต่ไม่ยอมให้เขาออกเรือจนเกิดความเสียหายก็จะต้องคืนความชอบธรรมให้กับชาวประมง ส่วนเรื่องที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ต้องเอากองทัพออกจากการประมง เพราะนี่เป็นเรื่องของพลเรือน เรื่องประชาชนไม่ใช่เรื่องของทหาร

พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่รู้เรื่องประมงจึงไม่สามารถลงรายละเอียดต่างๆได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญทางทะเล และชาวประมง มานั่งคุยกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ทรัพยากรทางทะเลเกิดความยั่งยืนที่สุด ทำยังไงที่จะจับปลาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้การทำประมงอยู่ได้อย่างยาวนาน สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการประมงก็คือเรื่องอำนาจ เรื่องภาษีของคนท้องถิ่น พรรคอนาคตใหม่ยืนยันมาตลอดว่าอำนาจในประเทศไทยขึ้นอยู่กับกรุงเทพฯ มากเกินไปแล้วนานเกินไป ทำให้ต่างจังหวัดทุกจังหวัดไม่มีอำนาจ โดยทุกวันนี้การจัดสรรทรัพยากรในท้องถิ่นของตัวเอง อย่างเช่น ภาษีที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จ่ายไปที่กรุงเทพฯ แล้วกรุงเทพฯ ก็ไปโอนไปแบ่งกัน แต่มันจะดีกว่านี้มากขนาดไหนถ้าภาษีที่เกิดขึ้นที่นี่ ถูกจัดสรรให้กับท้องถิ่น ให้กับพื้นที่แบบ 50:50 ซึ่งเงินเหล่านี้จะสามารถใช้เพื่อการพัฒนาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตคนได้เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ใช้เวลาเปิดเวทีรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครประมาณ 2 ชั่วโมง โดยตบท้ายก่อนยกมือไหว้ลาจากไปว่า

“หากพรรคอนาคตใหม่ได้เป็นรัฐบาลก็จะกลับมาหาพี่น้องชาวประมงสมุทรสาครอีกครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชาวประมงทั้งประเทศ แต่หากเป็นฝ่ายค้านก็คงทำได้แค่การตั้งกระทู้ถามเท่านั้น”

 

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์