ฝ่ายค้าน ข้ามชอตแถลงนโยบาย ซักฟอกบริหารเศรษฐกิจเอื้อ’เจ้าสัว’

แฟ้มภาพ
พายุฝ่ายค้านกระหน่ำรัฐบาลเรือเหล็ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การแถลงนโยบายรัฐบาล กึ่ง ๆ จะเทียบเท่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพียงไม่มีการลงมติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม บวกกับรัฐมนตรีอีก 7 ชีวิต ถูกลากขึ้นเขียงอภิปราย

ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ฝ่ายกฎหมาย อุตตม สาวนายน รมว.คลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตร วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์

ภาพรวมซักฟอกรัฐบาลประยุทธ์ 2/1 เปิดฉากโดย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ชำแหละนโยบายเศรษฐกิจเป็นการเอื้อนายทุน

โดยไม่เชื่อว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนเดิม ครม.หน้าเดิม ๆ จะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ประเทศได้ มีแต่จะนำประเทศไปสู่ความมืดมนและความอันตรายในที่สุด

ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ เกิดความเหลื่อมล้ำรวยกระจุกจนกระจาย เศรษฐกิจของพ่อค้าเศรษฐีทั้งหลายดีวันดีคืน แต่ประชาชนหาเช้ากินค่ำ ลำบากยากเข็ญ ทุ่มเทงบประมาณอย่างไม่เหมาะสม เกิดภาวะงบประมาณขาดดุลเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันมาก หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จนหนังสือพิมพ์ชื่อดังได้ตั้งฉายาประเทศเราว่าเป็น “The Sick Man of Asia” หรือ “ผู้ป่วยแห่งเอเชีย”

เช่นเดียวกับรัฐมนตรีที่ประวัติสีเทา ยังถูกอภิปรายปัญหาความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่ง ว่าการเป็นรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ต้องไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง แต่รัฐมนตรีหลายท่านมีคดีความผิดติดตัว

วันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยกคำพูด “พล.อ.ประยุทธ์” ฉายกลางสภา บอกว่า “เตรียมการปฏิวัติมา 3 ปี” จะให้ผมเชื่อมั่นว่าท่านนายกรัฐมนตรีมีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร หากท่านสามารถเตรียมการเพื่อการปฏิวัติได้อย่างละเอียด เก็บรายละเอียดการสืบทอดอำนาจได้อย่างรัดกุมแบบนี้

ขณะที่ตัวเด่นอย่าง “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชำแหละนโยบายที่เขียนไว้ของรัฐบาล ว่า เลื่อนลอย ใส่ทุกเรื่อง เต็มไปด้วยคำสวยหรู ใหญ่ ๆ โต ๆ แต่ไม่มีรูปธรรม

นโยบายโลเล ไม่รู้ว่าต้องการอะไรกันแน่ หลายอย่างเขียนขัดแย้งกันไปกันมา นโยบายหลอกลวง ก่อนการเลือกตั้ง แต่ละพรรคมีการนำเสนอนโยบายก้าวหน้าอย่างมาก แต่ไม่มีบรรจุไว้ในแถลงนโยบาย

“ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน เพื่อไทย คนที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ทักว่าเป็น “ดาวสภา” ซักฟอกบาดแผล “อุตตม” เรื่องปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยให้กับบริษัทกฤษฎามหานคร ขณะที่ยังเป็นบอร์ดธนาคารกรุงไทย กระทั่ง “อุตตม” ใช้สิทธิพาดพิงตอบโต้ว่า “มีกลุ่มบุคคลที่พยายามบิดเบือน” ทั้งที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้พ้นจากข้อกล่าวหาตั้งแต่ 26 ส.ค. 2558

ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องบริหารเศรษฐกิจเอื้อเจ้าสัว พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงเองว่า “ผมไม่ได้สนิทกับเจ้าสัว ไม่ได้เอาเงินมาให้ผม คนที่เข้าประมูล เป็นไปตามทีโออาร์ ใช้ระบบ international bidding ในโครงการอีอีซี มี 13 ประเทศเข้าร่วมประมูล แต่เมื่อคนไทยประมูลได้ กลายเป็นเอื้อประโยชน์ ผมไปเอื้อเขาตรงไหน”

แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าการอภิปรายคือ ช็อตต่อไปที่พรรคฝ่ายค้านจ่อจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติ รัฐมนตรี เช่น ร.อ.ธรรมนัส-อุตตม โทษฐานขัดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง-ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

อีกทั้ง “สมพงษ์” ประกาศก้องทั้งในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก่อนปิดสมัยประชุม


รายแรกที่ถูกจองกฐินหนีไม่พ้น “อุตตม” ที่ฝ่ายค้านเตรียมขยี้รายละเอียดปล่อยกู้กรุงไทย ในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เช่นเดียวกับปมโรงงานขยะพล.อ.อนุพงษ์ ที่ฝ่ายค้านเก็บข้อมูลอยู่