“บิ๊กตู่” ระบุ แนวทางแก้ปัญหาน้ำ ต้องสร้างหลักคิด ใช้ประโยชน์จากแผ่นดิน โอด รัฐพยายามทำ แต่ปชช.ไม่ค่อยยอม เผย หารือ รองปธน.อินโดฯ ประสานแก้หมอกควัน ย้ำ เด็ก-คนชราต้องมีหน้ากากเผื่อไว้
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านรายการ ไทยคู่ฟ้าGovernment Weekly ep.7 ที่เผยแพร่ผ่านเพจไทยคู่ฟ้า จากนครนิวยอร์ค โดยระบุถึงการแก้ปัญหาอุทกภัยในประเทศไทยว่า เรื่องนี้ตนเป็นห่วงมาตลอด เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากอากาศเปลี่ยน ทำให้ฝนตกไม่ตรงฤดูกาล และวันนี้ยังตกใต้เขื่อนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ระบบระบาย ทางน้ำที่เคยไหลรวมกัน วันนี้ไปไม่ได้ เพราะมีการสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำ แต่จะไปโทษผังเมืองก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะประชาชนต้องร่วมมือด้วย รัฐก็พยายามทำ แต่ประชาชนไม่ยอม ก็ทำไม่ได้ เราจึงมีหลักคิดว่า จะใช้ประโยชน์จากแผ่นดินของเราอย่างไร ในการเก็บน้ำ พร่องน้ำ และระบายน้ำ รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมที่ต้องแก้กันต่อไป
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่ดีใจคือ ตนได้รับรายงานมาทุกวันว่า สถานการณ์ดีขึ้น ระดับเริ่มลดลงมา 30-50 เซนติเมตร เมื่อน้ำฝนปริมาณน้อยลง ตลิ่งก็สูงขึ้น สามารถระบายน้ำออกแม่น้ำโขงได้โดยเร็ว เราก็คิดว่าจะเก็บน้ำเหล่านี้ได้อย่างไรในพื้นที่แก้มลิง แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่มีพื้นที่ 5-10 ไร่ หากบอกให้เสียสละมาทำพื้นที่แก้มลิง ก็ไม่ค่อยยอมกัน เพราะเป็นที่ทำกิน ตนถึงบอกให้รวมกันเป็น 100-1,000 ไร่ เพื่อทำทะเลสาบขึ้นมา แล้วหาอาชีพอื่นให้ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไปบังคับให้ประชาชนเลี้ยงปลา มันคนละเรื่อง ซึ่งวันนี้ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ ตามแผนบริหารจัดการน้ำ 20 ปี หลายสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเจอปัญหานี้มาตลอด แต่เราจำเป็นต้องมีแผนคือการร่างไว้ก่อน อะไรที่ทำได้ก็ทำก่อน ตรงไหนทำไม่ได้ก็ค่อยๆสร้างความเข้าใจ
อย่างไรก็ตาม จากนี้จะอยู่ในช่วงการฟื้นฟู ซึ่งมีมาตรการของกระทรวงการคลังอยู่แล้ว ทั้งเยียวยาที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร นี่คือมาตรการหลักพื้นฐานที่ครอบคลุมทุกอย่าง ขณะที่ในสี่เดือนข้างหน้าจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้มีอาชีพ จึงต้องเตรียมเงินไว้ในส่วนนี้ เพื่อหามาตรการต่างๆ เพื่อให้เขาอยู่ได้
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ด้วยว่า ตนมีโอกาสพูดคุยกับรองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โดยเขายืนยันกับตนว่ากำลังพยายามแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี ทั้งพื้นที่ภาคใต้ และประเทศมาเลเซีย ขณะที่อินโดนีเซียค่าฝุ่น PM 2.5 ยังไม่เกินมาตรฐานมากนัก แต่ประเทศไทยก็มีควันเข้ามา ซึ่งตนได้รับรายงานว่าบางพื้นที่ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่อย่าประมาท เพราะจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้ สิ่งสำคัญต้องมีหน้ากากอนามัยเผื่อไว้ โดยเฉพาะ เด็ก คนชรา และคนป่วย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้ง และจะมีการร่วมมือกันแก้ปัญหาหลายประเทศ เหมือนที่เกิดขึ้นกับประเทศบราซิล ถ้าป่าของบราซิลถูกทำลายมากขึ้นจะมีปัญหา เพราะถือเป็นป่าของโลก