ปฐมบท “นิพิฏฐ์” แค้นฝังหุ่น ยื่นยุบภูมิใจไทยทุจริต-เสียบบัตรแทนกัน

ปมเสียบบัตรแทนกันลุกลามบานปลาย อาจทำให้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ถูกคว่ำ หลังจาก “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรับผิดชอบการเลือกตั้งภาคใต้ ออกโรงแฉว่าในการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าว มีการเสียบบัตรแทนกัน โดยกล่าวหา “ฉลอง เทอดวีระพงศ์” ส.ส.พัทลุง จากพรรคภูมิใจไทย ลงคะแนนโหวตงบฯ ทั้งที่ไม่อยู่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

แฉซ้ำอีกว่า “นาที รัชกิจประการ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ แม่ทัพ-นายทุนใหญ่ เลือกตั้งภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย ออกทริปท่องเมืองจีน แต่มีชื่อลงคะแนนตอนโหวตกฎหมายงบประมาณ !

ภายหลังถูก “นิพิฏฐ์” ขึ้นโพเดียม แฉ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กระแทกกลับไปตรง ๆ

“ทุกคนควรมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย การแข่งขันเป็นเรื่องปกติ ถ้าชนะก็ต้องไม่ประมาท ถ้าแพ้ก็ต้องปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น”

ปฐมบทของเรื่อง ที่มาจากปมแค้นฝังหุ่น “นิพิฏฐ์” ออกมาแฉ “ฉลอง-นาที” คนใน “ประชาธิปัตย์” รู้ดีว่า เคสนี้เป็นการจ้องจับผิดกัน “ห้ามเผลอ”

ย้อนไปในช่วงเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 “นิพิฏฐ์” ร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พัทลุงว่า มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ส่งหลักฐานทั้งคลิปเสียง-ภาพถ่าย “นิพิฏฐ์” บอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน เข้ามาปั่นป่วน มีการซื้อบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นการเลือกตั้งสกปรกที่สุด

หลังเลือกตั้ง “นิพิฏฐ์” พ่ายเลือกตั้งให้กับคู่แข่ง อย่าง “ฉลอง” ทั้งที่เป็นแม่ทัพเลือกตั้งภาคใต้ เขายื่นคำร้อง กกต.พัทลุง ให้ตรวจสอบทุจริต กระทั่งส่งเรื่องมายัง กกต.กลาง เขามั่นใจว่าจะทำให้พรรคภูมิใจไทยถูกยุบได้ เพราะพบหลักฐานเป็น “ข้อความ” ในกลุ่มไลน์ของพรรคภูมิใจไทยว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยบอกว่า
หากถูกตรวจสอบว่าเป็นเงินซื้อเสียงให้บอกว่าเป็นของพรรคประชาธิปัตย์

แต่ผ่านมา 7 เดือน ในช่วง พ.ย. 2562 กลับยังไม่มีความคืบหน้า “นิพิฏฐ์” ต้องทวงถามต่อ “พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา” เลขาธิการ กกต. ซึ่งทำหนังสือตอบกลับว่า “อยู่ระหว่างการสอบสวน”

จนถึงบัดนี้ กกต.ยังไม่สรุปสำนวนเป็นเหตุให้ “นิพิฏฐ์” ปฏิบัติการ ตั้งป้อมสอย “ฉลอง” ทะลุถึง “นาที” กระเป๋าเงินภูมิใจไทย ในภาคใต้

หนำซ้ำยังมีคลิปวิดีโอแฉอีกว่า น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย มีการวางบัตรลงคะแนนบนโต๊ะ 2 ใบ ก่อนจะหยิบทั้ง 2 ใบ เสียบเข้าไปในเครื่อง ลงคะแนนมากกว่า 1 ครั้ง ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเสียบบัตรแทนกันอีกหรือไม่

จากกรณีดังกล่าวเป็นผลให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระดมชื่อ ส.ส. 90 คน เข้าชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความปัญหาร่างกฎหมายงบประมาณ 2563 ว่า หากการเสียบบัตรแทนกัน มีปัญหาจะมีปัญหาทั้งฉบับหรือเฉพาะมาตราที่มีปัญหา จะเป็นผลให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณต้องตกไปทั้งฉบับ หรือเฉพาะมาตราที่พบว่ามีการออกเสียงแทนกัน และหากร่างกฎหมายตกทั้งฉบับหรือบางมาตราที่มีปัญหาจะดำเนินการอย่างไร

ขณะที่ 7 พรรคฝ่ายค้าน ระดม 84 ส.ส. ผสมโรงยื่น ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อตรวจสอบการตรากฎหมายชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ส.ส.กทม.ยกตัวอย่าง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 12 มี.ค. 2557 กรณีที่ นายนริศร ทองธิราช ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ได้เสียบบัตรแทนกัน เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ย. 2556 พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ… (พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน)

โดยศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า การลงคะแนนเสียงแทนกันในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 2 เสียง เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จากแค้นฝังหุ่น กลายเป็นการเขย่ารัฐบาลไปเสียแล้ว