ตั้งพรรคใหม่ “ปิติพงศ์” เสรีรวมไทย จับมือ “ภราดร” เพื่อไทย แตกขั้วฝ่ายค้าน

“ปิติพงศ์ เต็มเจริญ” โฆษกพรรคเสรีรวมไทย ประกาศไม่อยู่ใต้ร่ม “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรค อย่างเป็นทางการ

หลังวานนี้ 23 มิถุนายน 2563 ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ลำดับที่ 0007850

เตรียมปฏิบัติการ “เซ้งพรรค” ที่ชื่อว่า “พรรคกลาง” เป็นพรรคที่อยู่ในสารบบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งหัวหน้าพรรคปัจจุบันชื่อ “ดร.ชุมพล ครุฑแก้ว”

โดยกลางเดือนกรกฎาคม 2563 พรรคกลางจะมีการประชุมสามัญใหญ่ประจำปี เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค – ชื่อพรรคใหม่ เตรียมวาง position เป็นพรรคทางเลือกในฝ่ายประชาธิปไตย

“ภราดร พัฒนถาบุตร” เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเมืองส่วนตัวของ “ปิติพงศ์” แย้มว่า “พรรคกลางโฉมใหม่จะเปิดเวทีสาธารณะระดมความเห็นจากภาคสังคมเหมือนกลุ่มแคร์ หรือ สมาชิกจากกลุ่มแคร์ที่พอคุยกันแล้วอยากจะเข้าร่วมพรรคการเมือง ก็สามารถมาร่วมกับพรรคใหม่นี้ได้”

“ปิติพงศ์” เป็น อดีต ส.ส.กทม. 3 สมัย เป็น ส.ส.สมัยแรกตั้งแต่อายุ 26 ปี ในนามพรรคประชากรไทย ของสมัคร สุนทรเวช ก่อนจะกระโจนเข้าสู่พรรคไทยรักไทย ยุคเริ่มแรก ได้เป็น ส.ส.กทม.เขต 30 อีก 2 สมัย

แต่หลังจากเลือกตั้งปี 2551 ในนามพรรคพลังประชาชน และเลือกตั้งปี 2554 ในนามเพื่อไทย ไม่ประสบความสำเร็จ แพ้คู่แข่งจากพรรคประชาธิปัตย์

อย่างไรก็ตาม “ปิติพงศ์” ยังอยู่ในวงโคจรการเมือง เป็นข้าราชการการเมืองในรัฐบาลพลังประชาชน และเพื่อไทย อาทิ ผู้ช่วยรัฐมนตรีหลายกระทรวง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ สมัย “นพดล ปัทมะ” เป็นรัฐมนตรี ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกฯ ของ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” เป็นเลขานุการ รมว.ยุติธรรม ยุค ชัยเกษม นิติศิริ เป็นรัฐมนตรี

ความสัมพันธ์ระหว่าง “ปิติพงศ์” กับ “พล.ท.ภราดร” ที่ปรึกษาการเมือง ไม่ธรรมดา เพราะ “ปิติพงศ์” เป็น “ลูกศิษย์” ของ “ปรีดา พัฒนถาบุตร” ผู้มีศักดิ์เป็นอาของ “พล.ท.ภราดร” ที่ได้ประกาศเป็น “ครูการเมือง” ของทักษิณ

ก่อนที่ “ปิติพงศ์” จะแยกจากเสรีรวมไทย จึงขอคำปรึกษา “พล.ท.ภราดร” เรื่องการ setup พรรคใหม่ ส่วนเรื่องทุนสนับสนุนไร้ปัญหา “พล.ท.ภราดร” การันตีว่า “ปิติพงศ์เขาเป็นคนมีฐานะ”

ทุกสเต็ปการก้าวของ “ปิติพงศ์” กับการเซ้งพรรคกลาง “พล.ท.ภราดร” จึงมีเอี่ยวทุกความเคลื่อนไหว ส่วนอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงฯ จะถอยจากเพื่อไทยไปอยู่ชายคาพรรคใหม่หรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับ “สถานการณ์”

ขณะเดียวกัน “ปิติพงศ์” เปิดเกมรุกทางการเมือง ก่อนนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2563 ด้วยการยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้วินิจฉัยเกี่ยวกับสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 90 คน ซึ่งเคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่ามีลักษณะต้องห้ามเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 108 ข. (1) (3) และ (9) อันมีผลทำให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา 111 (4) หรือไม่

แม้ว่าที่สุดแล้วผู้ตรวจการแผ่นดินอาจจะ “ตีตก” เพราะไม่อยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเป็นอำนาจของประธานวุฒิสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้งในการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ “ปิติพงศ์” ข้ามฟากไปยื่นเรื่องต่อ กกต.ให้เช็กสถานะ 90 ส.ว.เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญแทน


เตรียมเปิดตัวในตำแหน่งหัวหน้าพรรคใหม่กลางกรกฏาคมนี้