ครม. เคาะ เพิ่มเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ เยียวยาโควิด

เงินอุดหนุนนักเรียน

คณะรัฐมนตรี อนุมัติ เพิ่มเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ ระดับชั้น อนุบาล-ประถม-มัธยม-อาชีวศึกษา เยียวยารับผลกระทบจากโควิด-19

วันที่ 12 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้เห็นชอบให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ส่งผลให้ครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษมีรายได้ลดลงและเกิดการว่างงาน ประกอบกับผลวิเคราะห์จากโครงการวิจัยพัฒนาระบบบัญชีรายจ่ายด้านการศึกษาแห่งชาติ

จากสถานการณ์ข้างต้น กสศ. จึงมีข้อเสนอว่า อัตราเงินทุนเสมอภาคในปัจจุบัน ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษ ดังนั้นจึงเห็นควรให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน และป้องกันความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษาของประชากรกลุ่มนี้ในระยะยาว

อัตราเงินอุดหนุนใหม่

  1. ระดับอนุบาล
  • อัตราเดิม 4,000 บาท
  • อัตราใหม่ (ยังคงจ่ายเท่าเดิม)

2. ระดับประถมศึกษา

  • อัตราเดิม 3,000 บาท
  • อัตราใหม่ 5,100 บาท

3. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

  • อัตราเดิม 3,000 บาท
  • อัตราใหม่ 4,500 บาท

4. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

  • อัตราเดิม 3,000 บาท
  • อัตราใหม่ 9,100 บาท

5. อาชีวศึกษา

  • อัตราเดิม 3,000 บาท
  • อัตราใหม่ 9,100 บาท

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ซึ่งตามนิยามของเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ จะหมายถึง นักเรียนยากจนที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วยวิธีการวัดรายได้ทางอ้อมแบบ PMT หรือ Proxy Means Test จากระบบปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอยู่ในกลุ่มค่าคะแนนความยากจนอยู่ในเกณฑ์ยากจนพิเศษ หรือ ครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย 1,200 บาทต่อคนต่อเดือน