คณะรัฐมนตรี อนุมัติ เพิ่มเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ ระดับชั้น อนุบาล-ประถม-มัธยม-อาชีวศึกษา เยียวยารับผลกระทบจากโควิด-19
วันที่ 12 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้เห็นชอบให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ส่งผลให้ครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษมีรายได้ลดลงและเกิดการว่างงาน ประกอบกับผลวิเคราะห์จากโครงการวิจัยพัฒนาระบบบัญชีรายจ่ายด้านการศึกษาแห่งชาติ
จากสถานการณ์ข้างต้น กสศ. จึงมีข้อเสนอว่า อัตราเงินทุนเสมอภาคในปัจจุบัน ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษ ดังนั้นจึงเห็นควรให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน และป้องกันความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษาของประชากรกลุ่มนี้ในระยะยาว
อัตราเงินอุดหนุนใหม่
- ระดับอนุบาล
- อัตราเดิม 4,000 บาท
- อัตราใหม่ (ยังคงจ่ายเท่าเดิม)
2. ระดับประถมศึกษา
- อัตราเดิม 3,000 บาท
- อัตราใหม่ 5,100 บาท
3. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
- อัตราเดิม 3,000 บาท
- อัตราใหม่ 4,500 บาท
4. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
- อัตราเดิม 3,000 บาท
- อัตราใหม่ 9,100 บาท
5. อาชีวศึกษา
- อัตราเดิม 3,000 บาท
- อัตราใหม่ 9,100 บาท
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ซึ่งตามนิยามของเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ จะหมายถึง นักเรียนยากจนที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วยวิธีการวัดรายได้ทางอ้อมแบบ PMT หรือ Proxy Means Test จากระบบปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอยู่ในกลุ่มค่าคะแนนความยากจนอยู่ในเกณฑ์ยากจนพิเศษ หรือ ครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย 1,200 บาทต่อคนต่อเดือน