ประยุทธ์ เคาะเยียวยา “เราชนะ” ขู่ดำเนินคดีทุกรายบิดเบือนวัคซีน

“ประยุทธ์” ชี้ โควิด-19 มีแนวโน้มลดลง มั่นใจเอาอยู่ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง สั่ง ฟันไม่เลี้ยงปมบิดเบือนนำเข้าวัคซีน

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติแผนการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยรัฐบาลจะดูแลคนให้มากที่สุดในส่วนที่มีงบประมาณที่ยังเหลืออยู่ แต่จำเป็นต้องสงวนไว้บางส่วน เพื่อรองรับในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อไป

ทั้งนี้ โครงการเราชนะ รัฐบาลจะดูแลให้มากที่สุด แต่ต้องยอมรับในกติกาบ้าง หลายอย่างเราต้องการให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง เราควบคุมได้แม้ตัวเลขจะสูงขึ้น แต่ถ้าควบคุมได้ก็ไม่มีปัญหา โดยเตรียมความพร้อมด้านมาตรการคัดกรอง จัดพื้นที่ควบคุม วันนี้มี factory quarantine โรงงานอุตสาหกรรมจะเป็นพื้นที่ควบคุมโดยความร่วมมือกับรัฐบาล ขอความร่วมมือกับทุกคน มาตรการต่างๆ ยังคงดำเนินการต่อไป ส่วนจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ต้องรอดูการประเมินผลเป็นวาระไป เบื้องต้นดูผลสิ้นเดือนมกราคมนี้ก่อน

ขู่ฟันไม่เลี้ยง คนบิดเบือนปมวัคซีน

ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า วิจารณ์การนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน ใครได้ – ใครเสีย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการบิดเบือนทุกเรื่อง ทุกอย่างไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขอให้ระมัดระวัง ในการเสนอข่าว หากนำมาแพร่ในสื่อ ในโซเชียลให้มีการดำเนินคดีทุกรายการ ทุกเรื่องขอให้ระมัดระวังด้วยอย่าว่าตนเอากฎหมายมาขู่ เพราะต้องรักษาความเชื่อมั่นของรัฐบาลไปด้วย ไม่เช่นนั้น ต่างคนก็เขียนโดยไม่รับผิดชอบ

ไม่ตอบคำถามชี้นำปมรถไฟฟ้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ออกประกาศเพื่อปรับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายอยู่ที่ 104 บาท ว่า กำลังหารือกับผู้ดำเนินการรับผิดชอบอยู่ ตนคงไม่ตอบ แต่ทราบว่าอาจมีถามชี้นำให้ตนตอบ แต่เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทำงาน มีคนทำงานหลายคณะ มีหลายคนที่เกี่ยวข้อง เดี๋ยวเขาเสนอแนวทางแก้ไขจนได้

นายกฯ ไม่ได้สั่งได้ทุกเรื่อง ต้องดูข้อกฎหมาย ดูความรับผิดชอบ หลายอย่างเกิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้โทษใคร พยายามจะแก้ทุกอย่างอยู่ ขออย่างเดียวขอความร่วมมือ ขอความเข้าใจ ความไว้ใจ อะไรที่ไม่เป็นสาระพยายามไม่พูด หลายเรื่องเป็นเรื่องความขัดแย้ง ประเทศไทยต้องไม่มีความขัดแย้ง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม หารือกันเข้าช่องทางที่ถูกต้องว่าจะคุยกันตรงไหน ตนไม่ได้ขัดข้องสักเรื่อง ขอให้เข้าใจหน้าที่ของรัฐบาลและนายกฯ

“วันนี้ทำในนาม ครม. ในนามนายกฯ อนุมัติแผนงานโครงการต่างๆ เข้ามาพิจารณาร่วมกันทุกกระทรวง รัฐมนตรีอยู่ร่วมกันทั้งหมด รับผิดชอบร่วมกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ปรับปรุงเจรจาทวายโปรเจกต์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องกับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายในประเทศเมียนมานั้น เรากำลังเดินหน้าตรงนี้อยู่ที่ผ่านมาติดปัญหาพอสมควร วันนี้มีการปรับปรุงการเจรจาความร่วมมือดังกล่าวต่อไป

“มอบหมายให้สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษทวาย เพื่อดูกติกา และการคุ้มครองการลงทุนของประเทศต่างๆ ในอาเซียนได้อย่างไร พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา (JCC) โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธาน ซึ่งเป็นผู้เจรจามาก่อนมีข้อมูลอยู่จำนวนมากแล้ว เพื่อหารือกับเมียนมาต่อไป”