ม็อบยุติชุมนุม แนวร่วม มธ. ซัด หมดหวังรัฐสภา ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง ขอประชาชนร่วมเคลื่อนไหว สร้างสังคมประชาธิปไตย
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศนัดหมายชุมนุม ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย ในเวลา 15.00 น.
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ล่าสุด เวลา 20.45 น. มติชนรายงาน ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ น.ส.เบนจา อะปัญ อ่านแถลงการณ์ของ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ความว่า
เรืองหมุดหมายการต่อสู้ครั้งต่อไปของพวกเรา เป็นเวลากว่า 1 ปี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ การต่อสู้ของเราได้เริ่มขึ้น ณ ปีที่แล้ว เราต่างเห็นความไม่ยุติธรรมในระบบการเมือง ที่ไม่เคารพเสียงประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง เราจึงออกมารวมตัวในที่ต่างๆ มากขึ้น ทุกชั่วโมง ทุกนาที และวินาที และขยายตัวไปทั่วทุกหัวระแหง เราได้จุดไฟแห่งความหวังให้กลับมาอีกครั้งในประเทศที่แสนมืดมน แต่ในขณะที่เราต่อสู้เพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงของประชาชน กลับถูกเพิกเฉยโดยรัฐบาล การเสนอร่างรัฐธรรมนูญของประชาชน ด้วยเสียงของเรา ก็ถูกปัดตกโดยสภา ทั้งยังรวมถึงวันนี้ ที่มีการอภิป่ายไม่ไว้วางใจ แม้รู้ว่า ประยุทธ์และองคพยพ ได้กัดกินประเทศเกือบ 7 ปี ไม่ว่าเศรษฐกิจที่พังทลาย สังคมที่ไม่มีความเสมอภาค อีกทั้งการเมืองที่สมประโยชน์กับศักดินา
สภากลับอยู้ข้างเผด็จการและกดขี่ต่อ เรายังถูกผลักไส คุกคาม ปราบปราม จับกุม คุมขัง ด้วยเหตุเพียงว่า เราฝันใฝ่ในสิทธิเสรีภาพ และสังคมในอุดมคติ แต่เป็นที่ประจักษ์แล้ว นับแต่กติกาการเมืองที่ออกแบบมาให้เข้าข้างเผด็จการ รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่แต่งตั้ง ส.ว.เพื่อสืบทอดอำนาจ ซักฟอกรัฐบาลประยุทธ์ แต่เรายังเชื่อด้วยกลไกรัฐสภาว่าจะได้แก้ไขปัญหาประเทศนี้ จนกระทั่งการภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ได้จบลง
เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเราไม่สามารถมีความหวังกับสภาได้อีกต่อไป แม้จะมีการชี้ความเน่าเฟะ ด้วยหลักฐานอันแน่นหนา แต่ไม่วาย เราไม่สามารถเอาเหลือบไรเหล่านี้ออกจากรัฐสภาได้ ด้วยกติกาที่บิดเบี้ยว เราจึงยังยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือ
1.พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพต้องลาออก
2.รัฐสภาต้องเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างฉบับประชน ทันที
3.ปฏิรูปสถาบัน
“ซึ่งต้องกล่าวตามตรงกับประชาชนว่า หนทางข้างหน้าของเราอาจไม่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่เป็นก้อนหิน เศษแก้ว หรือ แม้แต่เลือดของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เราต้องพึ่งมานะ และความอดทนของพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้ทุกคนยึดมั่นใจสันติวิธี ขอให้ยึดมั่นถึงสังคมที่เท่าเทียม และอุดมการณ์ประชาธิปไตย และรัฐสวัสดิการที่ทุกคนพึงได้รับ เราจะยืนเคียงข้างไปด้วยกัน ต่อให้วันใดฟ้ามืดที่สุด เรา ณ ที่แห่งนี้ และที่ใดก็ตาม เราจะเป็นแสงส่องให้ประเทศกลับมาสว่างอีกครั้ง จนกว่าเราจะเดินไปถึงชัยชนะนั้นด้วยกัน” น.ส.เบนจากล่าว
จากนั้น มวลชนชู 3 นิ้ว เปล่งเสียง “ศักดินาจงพินาศ ประชาจงเจริญ”
น.ส.เบนจากล่าวต่อว่า หลังชุมนุมวันนี้ ใช่ว่าการต่อสู้ของเราจะหยุดหย่อน เราขอให้ทุกกลุ่ม ทุกคน ทุกหนแห่ง ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกัน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เราทุกคนคือพลังสำคัญในสายธารแห่งการเปลี่ยนแปลงของเรา เพื่อให้สังคมไทยกลับมาอยู่ในระบอบประชาธิปไตยตามครรลองคลองธรรมได้เสียที
จากนั้น มวลชนร่วมกันท่องกลอนของ วิสา คัญทัพ ก่อนประกาศยุติการชุมนุม ในเวลา 20.53 น.