แอมมี่ นอนคุก ศาลยกคำร้องปล่อยตัว เกรงหลบหนี

ภาพ : มติชนออนไลน์

แอมมี่ นอนคุก ศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวเกรงหลบหนี หลังตร.ประชาชื่น ฝากขัง 4 ข้อหารวมม.112

วันที่ 3 มีนาคม 2564 เวลา 17.00 น. ศาลอาญาได้มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายไชยอมร หรือ แอมมี่ The Bottom blue ผู้ต้องหา ภายหลังจากที่มารดาได้เดินทางมายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 90,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขังนี้

ศาลอาญาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พนักงานสอบสวนยืนยันว่า ผู้ต้องหาหลบหนีจนถูกเจ้าพนักงานติดตามไปจับกุมได้ที่พระนครศรีอยุธยา ดังนั้นหากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีในชั้นนี้จึงให้ยกคำร้อง

ภายหลังจาก มารดาของแอมมี่ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อเตรียมยื่นคำร้องประกันตัวแอมมี่ ซึ่ง พ.ต.ต.หัสนัย เฟื่องสังข์ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ยื่นคำร้องฝากขังนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์อายุ 33 ปี หรือแอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์ แนวร่วมกลุ่มราษฎร พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 55/255 ม. 4 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน ครั้งแรก

โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 เวลาประมาณ 03.20 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถ.งามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยพบ เป็นเหตุเพลิงไหม้ บริเวณพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เมื่อตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบมีแกลลอนโลหะภายในมีของเหลวคล้ายน้ำมันบรรจุอยู่และพบไฟแช็คตกอยู่ในที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังมีกลิ่นน้ำมันอยู่ที่บริเวณที่เกิดเหตุต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าวพบว่าคนร้ายได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีอาร์วีสีขาวหมายเลขทะเบียนฎจ 1852 กรุงเทพมหานคร ขับมาจอดบริเวณริมถนนหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถ.งามวงศ์วาน แขวงลาดยาวเขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร

ต่อมามีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2คนและหญิงจำนวน 1 คนลงมาจากรถยนต์คันดังกล่าวโดยชายทั้งสองคนได้ปีนขึ้นไปหลังพระบรมฉายาลักษณ์และได้ใช้ของเหลวลักษณะคล้ายน้ำมันราดลงไปที่บริเวณดังกล่าวหลังจากนั้นได้จุดไฟที่บริเวณพระบรมฉายาลักษณ์จนเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นหลังจากนั้นชายคนร้ายทั้ง 2 คนได้ลงมายืนทำท่าในลักษณะเหมือนชู 3 นิ้วซึ่งหนึ่งในคนร้ายซึ่งเป็นชายนั้นมีลักษณะการแต่งกายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นแล้วทราบว่า คือ นายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยมีการถ่ายรูปบริเวณหน้าป้ายเรือนจำกลางคลองเปรมที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ถูกเพลิงลุกไหม้อยู่

คนร้ายซึ่งเป็นหญิงได้ยืนถ่ายรูปอยู่ที่บริเวณดังกล่าว จากนั้นคนร้ายทั้ง 3 คนได้กลับมาขึ้นรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่หลบหนีไปด้วยกันต่อมาได้มีการแชร์รูปภาพที่เกิดเพลิงไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าวในเฟซบุ๊กของนายไชยอมร ผู้ต้องหาซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเห็นได้เป็นสาธารณะประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ได้สืบสวนและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวันเกิดเหตุแล้วพบว่ารถที่ใช้ในการก่อเหตุของคนร้ายได้ขับออกมาจากบ้านพักของนายไชยอมร ผู้ต้องหานี้ซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่บ้านเลขที่ 55/255 ม. 4 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรีซึ่งตรงกับที่อยู่ตามภูมิลำเนาที่ปรากฏตามบัตรประชาชนของนายไชยอมร ผู้ต้องหาและจากการตรวจสอบเส้นทางที่รถยนต์คันดังกล่าวใช้เดินทางกลับภายหลังจากที่ก่อเหตุแล้วก็พบว่าได้ขับรถกลับไปที่บ้านพักของผู้ต้องหาเอง

พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนจศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายไชยอมรหรือแอมมี่ ผู้ต้องหานี้ตามหมายจับศาลอาญาที่ 429/2564 ลงวันที่ 2 มี.ค. 2564โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน มาตรา 112 , ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปตามเส้นทางถ.รังสิต-นครนายกจ นกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค.2564 เวลาประมาณ 00.40 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอยู่ที่บริเวณห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ (ห้องเช่า A2) ม.3 ต. คลองสวนพลู อ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบและพบนายไชยอมรหรือแอมมี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาดังกล่าว ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานมาตรา , ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา อยู่ได้ที่บริเวณดังกล่าวจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมโดยแสดงหมายจับและผู้ต้องหารับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน

พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2564 เวลาประมาณ 04.20 น.ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่รพ.ตำรวจเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณหัวไหล่ซ้ายและซี่โครงด้านซ้ายจึงไม่สามารถพาตัวผู้ต้องหามาที่ศาลในวันนี้ได้

พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ในระหว่างการสอบสวนโดยขอรับตัวผู้ต้องหาไว้ในความควบคุมของพนักงานสอบสวนในระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจโดยหากผู้ต้องหามีอาการดีขึ้นแล้วพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหามาส่งคืนต่อศาลโดยทันที

เหตุเกิดที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาวเขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร

ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 112, 217 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3)

พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ ต้องหามาโดยตลอดแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก, รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร, รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางในคดีและรอผลการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าวข้างต้นจึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ระหว่างสอบสวนมีกำหนด 12 วันนับ แต่วันที่ 3 – 14 มี.ค.นี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุด้วยว่า หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงหากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลังประกอบกับผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองซึ่งอาจจะนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง