หอการค้า ถอย ประยุทธ์ ขอรับผิดชอบวัคซีนแต่เพียงผู้เดียว

หอการค้าไทยม้วนเสื่อ รัฐบาลยืนยันหาวัคซีนได้เพียงพอ 100 ล้านโดส ภายในปีนี้ ยันเอกชนไม่ต้องหามาเพิ่ม จะได้ไม่เป็นภาระเรื่องค่าใช้จ่าย หลังเจ็บจากโควิดมากพอแล้ว

วันที่ 28 เมษายน 2564 ภายหลังการประชุมร่วมกับรัฐบาลโดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยเรื่องการจัดหาวัคซีนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้ตั้งทีมงาน 4 ทีม ร่วมมือกับสภาหอการค้าไทยซึ่งได้จัดทีมงาน 4 คณะไว้แล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ 1.ทีมสนับสนุนเรื่องสถานที่ในการฉีดวัคซีน 2.ทีมสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว 3.ทีมสื่อสาร และ 4 ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม

นายสนั่นกล่าวว่า สำหรับทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม นายกฯ และรองนายกฯ อนุทิน แจ้งว่ารัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบเต็มที่อยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ ยืนยันว่าภายในปีนี้จะจัดหาวัคซีนได้จำนวนเพียงพอที่จะฉีดให้ประชาชน 70% หรือ 100 ล้านโดส อย่างแน่นอน โดยรายละเอียดจะประกาศให้ประชาชนได้ทราบเป็นระยะ

ต่อมา หอการค้าไทย สภาหอการค้าไทย ได้เผยแพร่ประกาศการดำเนินงานด้านการจัดหาวัคซีนทางเลือกผ่านทางเว็บไซต์ สาระสำคัญระบุว่า รัฐบาลได้แสดงความขอบคุณที่หอการค้าไทยและภาคเอกชน พยายามจัดหาวัคซีนทางเลือกเพื่อฉีดให้กับพนักงานของตนเอง ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแจ้งว่าปริมาณวัคซีนที่ภาครัฐจัดหามานั้น มีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนทุกคน พร้อมเร่งดำเนินการในการนำเข้าวัคซีน ซึ่งกำลังทยอยมาเป็นลำดับ ดังนั้น ภาคเอกชนจึงไม่จำเป็นต้องมีการจัดหามาเพิ่มเติม และจะได้ไม่เป็นภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งภาคเอกชนต่างก็ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของหอการค้าไทย ซึ่งเปิดรับแจ้งความประสงค์ของบริษัทเอกชน ที่ต้องการฉีดวัคซีนทางเลือก เพื่อฉีดให้กับพนักงานของตนเองนั้น หอการค้าไทยจะรวบรวมข้อมูลส่งต่อให้กับภาครัฐ เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดลำดับการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม สำหรับในแต่ละพื้นที่ หรือประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หอการค้าไทยได้เผยแพร่ประกาศฉบับนี้ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ThaiChamber ด้วย แต่หลังมีการแชร์อย่างแพร่หลาย ประกาศฉบับนี้ได้ถูกลบออกจากเพจฯ ในเวลาต่อมา และขณะนี้ทางหอการค้าไทยยังไม่ออกมาตอบคำถาม เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาถามว่าประกาศฉบับนี้เป็นของจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังมีการเผยแพร่ประกาศฉบับเดียวกันนี้ทางเว็บไซต์ของหอการค้าไทย

 

 

ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้รายงานความคืบหน้าการสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน การจัดหาวัคซีน และการวางระบบการกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะใช้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่นำร่อง รวมทั้งความร่วมมือต่าง ๆ กับภาคธุรกิจเอกชน ที่มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร ให้ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะฯ ได้รับทราบ

สำหรับทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ได้สำรวจความต้องการภาคเอกชน โดยทำแบบสอบถามให้บริษัทเอกชนแสดงความประสงค์ในการได้วัคซีน ซึ่งนายจ้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ปัจจุบันมีผู้แจ้งความต้องการ 2,629 บริษัท จำนวนพนักงาน 921,817 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 28/4/2564)

เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เรียกคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจร่วมหารือถึงสถานการณ์การบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนร่วมกับภาคเอกชน เช่น การจัดสถานที่ หรือ รับวัคซีนบางส่วนไปเพื่อฉีดให้กับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการวัคซีนแบบเบ็ดเสร็จ (single command) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เนื่องจาก Line of command ยังไม่เป็น single command มากนัก ดังนั้น เพื่อให้เกิดการสั่งการที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Prayut Chan-o-cha โดยกล่าวถึงการยกระดับการกระจายวัคซีนเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนสูงสุด เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ระบุว่ามี 4 เป้าหมาย หนึ่งในนั้นคือการผลักดันให้มีการจัดหาวัคซีนให้ได้เพิ่มมากขึ้นในทุกวิถีทาง โดยมีเป้าหมาย 10-15 ล้านโดสต่อเดือน จากวัคซีนที่มีความหลากหลายในปัจจุบัน โดยรัฐและเอกชนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด