“ประยุทธ์” คลอด สูตรกระจายวัคซีนใหม่ ยัน ไม่ได้รวบอำนาจเพียงผู้เดียว

นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บัญชาสูงสุดในสงครามโควิด ขอโทษประชาชนอีกรอบ รับไม่สบายใจเห็นข่าวเลื่อนคิวฉีดวัคซีน พยายามแก้ปัญหาทุกวัน เพราะวัคซีนทยอยมาเป็นรอบ ทั่วโลกก็เป็นเหมือนกัน ยัน ไม่เคยรวบอำนาจ ศบค.ไว้เพียงผู้เดียว คลอดสูตรกระจายวัคซีน 4 ข้อ หากมีของในมือต้องกระจายสู่จังหวัดทันที ถ้าไม่พอฉีด ให้ยึดคนแก่ – กลุ่มเสี่ยงก่อน ยัน หา 100 ล้านโดสครบแล้ว

วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วาระแห่งชาติการฉีดวัคซีนที่เริ่ม 7 มิถุนายนที่ผ่านมา เรากระจายวัคซีนไปทั่วประเทศมากกว่า 7 ล้านโดส และได้ฉีดวัคซีนมากกว่า 6.5 ล้านโดส

• สถานีกลางบางซื่อ รับฉีดวัคซีนโควิดคนกรุง ที่ถูกเลื่อนจากหมอพร้อม

โดยเฉพาะตั้งแต่ 7 มิถุนายน และเราฉีดวัคซีนไปได้มากกว่า 2 ล้านโดสภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ คือขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนของเรา ดังนั้น ถ้าวัคซีนมามากกว่านี้เราก็น่าจะฉีดได้มากกว่านี้ ตามระยะเวลาที่กำหนด ถือเป็นการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ในทุกจุดบริการ

ไม่สบายใจ เลื่อนคิววัคซีน

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้การระดมฉีดวัคซีนเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง คือ การจัดสรรวัคซีนไปยังจุดบริการทั่วประเทศอย่างทั่วถึงและพอเพียง ประชาชนอาจจะได้รับฟังจากข่าว การประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน จากโรงพยาบาลต่างๆ อาจเกิดความไม่สบายใจ และเข้าใจว่าภาครัฐไม่ได้จัดสรรวัคซีนให้อย่างเพียงพอ หรือ ไม่ได้ประสานงานอย่างดีพอ

ข่าวต่างๆ เหล่านี้ตนรับทราบมาโดยตลอด และพยายามแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ตนเรียนอย่างจริงใจว่าปัญหาเหล่านี้ตนไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน อย่างที่บอกไปแล้วว่าเราพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน มีการสั่งการไปยังผู้รับผิดชอบเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดและสบายใจขึ้น

“ปริมาณสำคัญอยู่ที่วัคซีนที่ทยอยเข้ามา ต้องมีความสมดุลกับความสามารถการฉีดในแต่ละวัน ระยะเวลาที่ให้ไป จะต้องฉีดภายในกี่วัน ถ้าเราฉีดเต็มอำนาจไปเลย วัคซีนหมด เราก็ต้องหยุด นี่คือข้อเท็จจริง แต่ถ้ามีวัคซีนมามากผมก็จัดสรรไปให้ ที่ได้ไปแล้วก็จะจัดสรรตัวใหม่เข้าไปให้ด้วย โดยจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นในระยะต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

แจงหน้าที่ ศบค. ไม่รวบอำนาจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภาพรวมในการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการฉีดวัคซีน ว่าแต่ละหน่วยงานมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไร ไม่ใช่ตนไปยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว เพราะ ศบค.จะต้องเป็นองค์กรสูงสุด และมีหลายหน่วยงานอยู่ใน ศบค.อยู่แล้ว ทั้ง การเมือง ข้าราชการ รัฐมนตรี ในการจัดการโควิด-19 และการฉีดวัคซีน

ศบค.เป็นผู้รับผิดชอบกำหนดนโยบาย กำหนดหลักการในการจัดสรรวัคซีนให้แก่แต่ละจังหวัด โดยหลักการสำคัญคือ ทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนตามสัดส่วนจำนวนประชากร และเพิ่มเติมให้กับจังหวัดที่มีการระบาด รวมทั้งเพิ่มบุคคลที่มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา และอื่นๆ

ลำดับต่อมาหน่วยงานหลักที่รับมอบนโยบายจาก ศบค.คือกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดว่าวัคซีนที่ได้รับในแต่ละรอบ จะจัดส่งให้แต่ละจังหัวดจำนวนเท่าใด ตามหลักการในการจัดสรร โดยกระทรวงสาธารณสุขจะจัดส่งวัคซีนในรอบนั้นกระจายไปถึงทั่วประเทศโดยทันที ไม่รอช้า แต่ใช้เวลาส่วนหนึ่งเพื่อตรวจสอบวัคซีนที่เข้ามาด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

ต่อมาเป็นความรับผิดชอบแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่ที่จะเป็นผู้กำหนดว่า แต่โรงพยาบาลและทุกจุดฉีดในจังหวัดนั้นจะได้รับวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด และจะจัดส่งให้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยพยายามคำนึงถึงระยะเวลาที่มีจนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนในรอบต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องราบรื่นที่สุด เนื่องจากการรับรับวัคซีนทยอยเป็นรอบ ไม่ใช่ทยอยมา 6 ล้านโดน หรือ 10 ล้านโดสตั้งแต่ต้นเดือน และเราจะจัดส่งทันที ไม่รอจนกว่าจะได้ครบแล้วส่งออก

ผุดสูตร 4 ข้อ บริหารจัดการวัควีน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลักการที่เรียกว่าสูตรในการจัดสรรวัคซีน ที่ตนได้สั่งการในวันนี้ 1.เมื่อวัคซีนมา และกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบแล้วจะต้องส่งไปยังทุกจังหวัดทันที จะไม่มีจังหวัดใดที่ได้เพิ่มเติมในแต่ละรอบ ซึ่งในอนาคตอาจให้ครบตามเป้าหมายแล้ว หรือบางจังหวัดที่ ศบค.พิจารณาว่ายังไม่เป็นมีความจำเป็นเร่งด่วน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ด้วย

2.จำนวนวัคซีนที่จัดส่งให้จังหวัด ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ที่จะต้องมาคำนวณด้วย ได้แก่ จำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้รับจองผ่านระบบหมอพร้อม และระบบของจังหวัด กลุ่มเฉพาะ อาชีพเสี่ยง หรือพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นต้นทุนของเราในเรื่องการส่งออก

3.หากวัคซีนที่ได้คำนวณแล้วไม่พอต่อการฉีดในรอบนั้น ให้จังหวัดและจุดฉีดพิจารณาจัดสรรให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มโรคเสี่ยงที่ลงทะเบียนไว้ก่อนแล้ว 4. หากมีความจำเป็นต้องชะลอการฉีดวัคซีนตามกำหนดเดิม ระหว่างการรอนำส่งวัคซีนต้องยึดลำดับเดิมไว้ก่อนโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และจัดการฉีดวัคซีนตามลำดับเดิมทันที

เพราะเป็นมติของที่ประชุมร่วมกันในการบริหารจัดการวัคซีน ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกฝ่ายมีความตั้งใจ ดำเนินการอย่างทุ่มเท เพื่อให้บริการกับประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก ทั้งการนำส่งวัคซีนที่ต้องใช้เวลา ทั้งการตรวจสอบ คุณภาพ เราไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนทุกครั้งว่าจะได้รับวัคซีนวันใด เวลาใด เพราะเราได้รับเป็นรอบ

หลายประเทศทั่วโลกเจอปัญหานี้ทั้งสิ้น แต่ประเทศเรายังได้เปรียบมีบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ ซึ่งผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า ตั้งอยู่ในประเทศไทยของเราเอง ทำให้ขนส่งทำได้รวดเร็ว เป็นเรื่องบริษัทใหญ่ต้องพิจารณาในการจัดส่ง ส่วนประเทศไทยเป้นฐานการผลิตสำคัญของอาเซียน ส่วนใหญ่ใช้ยอดตรงนี้จัดสรรให้อาเซียนด้วย

แม่ทัพตู่ ขอโทษทุกปัญหา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องมีการปรับแผนการฉีดวัคซีนตามสถานการณ์ระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้มีการเปิดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ประชาชนทั่วไปใน กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และมีเหตุผลด้านเศรษฐกิจที่จะต้องลดการปิดโรงงาน เพื่อจำเป็นต้องให้ภาคการผลิตดำเนินการต่อ อาจไปกระทบกับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนบางส่วน

นอกจากนั้น ในภารกิจครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก จึงเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในการประสานงานกันระหว่างหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ทุก พยามแก้ไขปรับปรุงตามสถานการณ์ทีเกิดขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชน

“ในฐานะนายกฯ ผอ.ศบค. ถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในสงครามโควิด-19 ในครั้งนี้ ต้องขออภัยด้วย ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ขอรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งผมได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทุกเวลา เพราะนี่คือเป็นวาระแห่งชาติที่ประกาศออกไป เราต้องร่วมใจกันทุกฝ่าย ในการดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ เพื่ออนาคตของประเทศชาติ ปัญหาอุปสรรคอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ยันมีวัคซีนครบ 100 ล้านโดสแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั่วโลกยังมีวัคซีนที่จำกัดทำให้กระทบต่อการจัดการ แต่จากการวางแผนของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่องในการจัดหาวัคซีนล่วงหน้า ทำให้เรามั่นใจว่าจะได้รับวัคซีนมาอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากหลายแหล่งด้วยกัน

ย้ำว่ารัฐบาลได้จัดหาวัคซีนอย่างเพียงพอต่อคนในประเทศไทยทุกคน เราสามารถจัดหาวัคซีนได้เป็นไปตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส สำหรับประชาชน 50 ล้านคน หรือ 70% ของคนทั้งประเทศภายในสิ้นปีนี้ และเตรียมการสำหรับปีหน้าด้วย

ถ้าปีนี้ได้เพิ่มจาก 100 ล้านโดส เราก็จะฉีดเพิ่มเติมให้ 80-90% เพราะเรามีขีดความสามารถในการฉีดอยู่แล้ว ขอให้ติดตามว่าจะช่วยกันอย่างไร ถ้าพูดจากันไม่ดี เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล คนจำนวนหลายหมื่นคนที่ทำงานอยู่หน้างานก็ท้องแท้ หมดกำลังใจ ต้องประสานงานกันให้ได้ ทั้งระดับบน ระดับกลาง ระดับล่าง ขอร้องสื่อทุกประเภทด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องวัคซีนในฐานะ ผอ.ศบค.ตนติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองตลอดมา ย้ำการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่มีการทุจริตเป็นโดยเด็ดขาด และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าด้วยศักยภาพและความทุ่มเทของบุคลากรทุกประเภทในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด การระดมฉีดวัคซีนเราจะต้องเอาชนะโควิด ไปด้วยกันอย่างแน่นอน