ประยุทธ์ ตรวจโควิด รอบ 3 “เป็นลบ” เลิก WFH เตรียมขนของกลับทำเนียบฯ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
FILE PHOTO : ROYAL THAI GOVERNMENT / AFP

นายกฯ เข้าตรวจโควิดรอบสุดท้าย “ผลเป็นลบ” เตรียมกลับไปไปปฏิบัติภารกิจ ทำเนียบรัฐบาล เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เย็นวันศุกร์นี้ หลังกักตัว Work From Home นาน 14 วัน 

วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 10.30 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนายกรัฐมนตรี เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบที่ 3 ซึ่งมีผลตรวจเป็นลบ ไม่พบเชื้อ

ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) นายกรัฐมนตรีจะเริ่มกลับไปปฏิบัติภารกิจ ภายในทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง หลังจากครบ 14 วัน หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อจากการไปร่วมเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เมื่อวันที่ 1 ก.ค. และผ่านการตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง การตรวจหาเชื้อในวันนี้ของนายก รัฐมนตรีถือเป็นการตรวจครั้งสุดท้าย หลังครบตามระยะเวลาที่กำหนด

สำหรับหมายกำหนดการในวันพรุ่งนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ (APEC Informal Leaders’ Retreat) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ในวันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม 2564 เวลา 18.00 – 20.00 น. (เวลาประเทศไทย) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่การประชุมในวันพรุ่งนี้ ประเทศนิวซีแลนด์ในฐานะเจ้าภาพได้จัดขึ้นเป็นวาระเพิ่มเติม จากวาระปกติที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ในปี 2564 นิวซีแลนด์กำหนดหัวข้อหลักการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ดังนี้

“ร่วมกัน ทำงาน เติบโตไปด้วยกัน” (Join, Work, Grow. Together) จะจัดการประชุมวาระปกติผ่านระบบการประชุมทางไกลในช่วงปลายปี 2564 จึงได้กำหนดจัดการประชุมผู้นำในลักษณะไม่เป็นทางการเป็นการเฉพาะกิจเพิ่มเติมเพื่อเป็นโอกาสให้ผู้นำได้หารือเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวคิด และเพิ่มความร่วมมือเกี่ยวกับการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในภูมิภาค

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้คำถามหลัก “ในบริบทการแพร่ระบาดของโควิด – 19 อะไรคือโอกาสสำหรับภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ในการร่วมมือกันก้าวข้ามวิกฤตทางด้านสาธารณสุขและเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อวางรากฐานสำหรับอนาคตที่ดีกว่า” จะเป็นการประชุมในลักษณะเชิงปฏิสัมพันธ์ และครอบคลุม

นายอนุชาฯ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายของไทยในการเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตลอดจนเป็นโอกาสให้ได้เสนอแนะแนวทางยกระดับพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนให้ภูมิภาคฟื้นตัวอย่างรวดเร็วต่อไป ทั้งนี้คาดว่าจะมีเอกสารผลลัพธ์การประชุม ซึ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ บทบาททางการค้า และนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในการฟื้นฟูกลับมาให้ดีกว่าเดิม (building back better)