ม็อบ 7 สิงหา : ฝ่ายความมั่นคง ค้นรัง-ล็อก “ฮาร์ดคอร์”

ชุมนุม
FILE PHOTO : Jack TAYLOR / AFP

ฝ่ายความมั่นคง ประเมินม็อบ 7 สิงหาฯ ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง สร้างภาพรัฐบาลทหาร-เผด็จการ หวังสะสมความชอบธรรม ล้มรัฐบาล-รบกวนสมาธิแก้ปัญหาโควิด-เศรษฐกิจ สั่งหน่วยข่าวสืบเสาะแหล่งจัดหา-ประกอบระเบิดปิงปอง-ประทัด ตัดไฟแต่ต้นลม จนท.กระชับพื้นที่-อารักขาสถานที่สำคัญ พระบรมมหาราชวัง-ทำเนียบ

วันที่ 6 สิงหาคม 2564 แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงประเมินการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “เยาวชนปลดแอก” และ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ว่า คาดว่าจำนวนผู้ชุมนุมมีไม่มากไปกว่าการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม

ขณะที่ในต่างจังหวัดจะเป็นคาร์ม็อบ จุดละ 30 คัน 30 จังหวัด ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้เกิดภาพการปะทะให้หนักกว่าการชุมนุมที่ดินแดง (1 ส.ค.) และทำอย่างไรให้ฝ่ายมั่นคงและรัฐบาลมีปฏิกิริยามากกว่าเดิม เพื่อรักษาความรุนแรงไปเรื่อย ๆ ยิ่งเกิดความรุนแรงต่อประชาชน แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมยิ่งจะนำมาขยายความว่า เป็นรัฐบาลทหาร เป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำร้ายประชาชน

“แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้ช่วงจังหวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 อยู่ในช่วงพีกที่สุด คือ ช่วงกลางเดือนสิงหาคม เพราะหลังจากนั้นสถานการณ์จะดีขึ้น ถ้าไม่ชุมนุมตอนนี้จะเสียโอกาส และเพื่อรบกวนสมาธิของรัฐบาล ทำให้รัฐบาลแก้ปัญหาต่าง ๆ ขณะนี้ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาโควิด และปัญหาเศรษฐกิจได้ยากขึ้น แต่รัฐบาลยืนยันว่าไม่ท้อ”

แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ตามกลุ่มของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไม่เอาด้วย ภาพความรุนแรงจะไม่เหมือนการชุมนุมเมื่อปี 53 ที่มีทั้งกองกำลัง มีแนวร่วม มีพรรคการเมือง เป็นแก้ว 3 ประการ

“กลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 7 สิงหาคม ต้องการสะสมความเสียหายของรัฐบาลไปเรื่อย ๆ เพื่อล้มรัฐบาล แต่ตราบใดที่คนกลาง ๆ ไม่เอาด้วยก็เปลี่ยนประเทศไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ฝ่ายความมั่นคงได้วางกำลังเพื่ออารักขาสถานที่สำคัญและกระชับพื้นที่ให้ห่างจากจุดสำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง ทำเนียบรัฐบาล

นอกจากนี้ยังให้หน่วยข่าวของฝ่ายความมั่นคงเข้าไปหาข่าวว่า แหล่งที่มาของการประกอบระเบิดปิงปอง การจัดหาประทัด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายและประกอบขึ้นมาเองได้ และควบคุมตัวผู้กระทำผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างสถานการณ์ให้เกิดภาพความรุนแรง