พลังประชารัฐ ร้าวในร้าว “ธรรมนัส” ระเบิดศึกสารพัดก๊ก-3 ป.

รายงานพิเศษ

การอภิปรายไม่ไว้วางใจจบไม่สวย-ทิ้งร่องรอยความ “แตกร้าว” ภายในพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)-ยุบสภา หลังศึกซักฟอก

พลังประชารัฐที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี “กุมบังเหียน” หัวหน้าพรรค “ส่งสัญญา” ถึง ส.ส.-ลูกพรรค 121 ชีวิต ลงมติ “ไว้วางใจ” นายกรัฐมนตรี-รองนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรี แบบแลนด์สไลด์-ทิศทางเดียวกัน

ผู้กองนัสไฟเขียวฟรีโหวต

“สวนทาง” กับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์-แม่บ้านพลังประชารัฐ “เปิดทาง” ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ “ฟรีโหวต” เนื่องจาก “ติดล็อก” รัฐธรรมนูญมาตรา 114

“สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์”

เมื่อ “หัวหน้าพรรค” กับ “เลขาธิการพรรค” ร้องเพลง “ประยุทธ์อยู่ยาว” กัน “คนละคีย์” เสียงหนุนหลัง “พล.อ.ประยุทธ์” ให้ “ไปต่อ” จึงส่อเค้าไม่เป็นเป็นปึกแผ่น-แตกแถว

ไม่ว่าผลโหวตไว้วางใจจะ “สะดวกโยธิน” หรือ “ทุลักทุเล” ปฏิเสธได้ยาก “พล.อ.ประยุทธ์” กับ “ร.อ.ธรรมนัส” ย่อมมองหน้ากันไม่ติด กลายเป็นทางแยก-จุดแตกหักใน “พรรคแกนนำรัฐบาล”

ชัด ๆ ไม่ยุบสภา-ไม่ลาออก

ท่ามกลางฝุ่นการเมืองที่ตลบอบอวน ไม่บ่อยครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เก็บอารมณ์หวั่นไหวไม่อยู่ ประกาศชัด ๆ ดัง ๆ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ว่า ไม่ยุบสภา ไม่ลาออกเพื่อสยบความเคลื่อนไหวทั้งปวง

“ผมยังไม่มีความคิดตรงนี้ 2 เรื่องนะ ผมยืนยันตรงนี้เลย ใครจะไปพูดอะไรก็แล้วแต่ 1.ผมจะยังไม่มีการปรับ ครม.ตอนนี้ 2.ผมยังไม่มีการยุบสภาในหัวสมอง ใครที่พูดตอนนี้ให้ระวังตัวไว้ด้วยเลย เพื่อสร้างความตื่นตระหนกอะไรก็แล้วแต่ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ”

“ก็มีหลายข่าวอาจจะมาจากข่าวบ้าง ผมติดตามตลอด ถ้ามีใครทำเช่นนั้นจริง ผมคิดว่าเป็นคนใช้ไม่ได้”

“การปล่อยข่าวพวกนี้มาอีก ผมก็ไม่สบายใจ พล.อ.ประวิตรก็ไม่สบายใจนะ”

“ยืนยันเราไม่มีการยุบสภา เรากำลังทำหนักงานสำคัญอยู่จะยุบสภาไปทำไม ยุบได้อย่างไร การแอบอ้างจะมีการเปลี่ยนตัว แอบอ้างเบื้องสูงมีความผิดอย่างร้ายแรง ผมคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสถวายข้อราชการ คนอื่นไม่มี โอเคไหม ชัดเจนไหม”

พปชร.ร้าวในร้าว

เมื่อกระแสข่าว “ล็อบบี้” พรรคฝ่ายค้าน-พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเล็ก “โหวตล้ม” นายกรัฐมนตรี-กดดัน พล.อ.ประยุทธ์ปรับ ครม. แลกกับเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ผสมโรง “เปลี่ยนตัวนายกฯ” ตอกลิ่มความขัดแย้ง

“ร.อ.ธรรมนัส” ออกมาแก้ต่างกระแสข่าวลือตลอด 2-3 วันก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ข่าวถูกปล่อยออกมาจาก 1 ใน 4 ช. ที่มีอุดมการณ์คนละขั้ว-สร้างดาวคนคนละดวง

พร้อมกับการออกมาปฏิเสธเป็นครั้งแรกว่า “4 ช.ไม่มีจริง” พร้อมทั้งออกมา “หักเหลี่ยมโหด” เปิดเผยในที่แจ้ง-สาธารณะ ว่า 1 ใน 4 ช. คือ “คนที่ปล่อยข่าว”

“วันที่พรรคประชุมกันวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ถามพี่น้องทุกคนเลยว่า ผมพูดอะไรเกี่ยวกับการเลื่อยขา มท.1 ได้ยินจากปากผมเหรอฮะ ผมจับไมค์พูดต่อหน้าคนเป็น 6 7 10 คน ผมบอกว่า ส.ส.ในพรรคอึดอัดหลาย ๆ เรื่อง”

“ผมบอกว่า รัฐมนตรีที่นั่งตรงนี้ มีผลงานให้ ส.ส.ไปบอกชาวบ้านหรือไม่ว่า นี่เป็นผลงานของพรรค เราเป็น ส.ส.มาเกือบ 3 ปี ถามว่าทำอะไรให้กับชาวบ้านบ้าง ส.ส.ตอบได้เลยว่า ไม่มี มีหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว คนเป็นตัวแทนของพี่น้องปวงชนชาวไทย ถ้าไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ ผมว่าอย่าเป็นดีกว่า ส.ส”

ส่วน “ขบวนการเต้าข่าว” ร.อ.ธรรมนัส เปิด “ตัวละคร” สำคัญ “ไอ้ห้อย-ไอ้โหน” ที่ “รับไม้ต่อ” 1 ใน 4 ช. ที่เป็น “ต้นเรื่อง” ปล่อยข่าว

“คนเต้าข่าวไม่ใช่พรรคฝ่ายค้านนะครับ พรรคฝ่ายรัฐบาลเนี่ยแหละ ไอ้ห้อย ไอ้โหนทั้งหลาย ชอบเลียแข้งเลียขา สำเหนียกซะมั่งครับ คุณทำเหมือนผมไหม นำนโยบายของท่านรัฐมนตรี นำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนและชาติบ้านเมือง คุณทำบ้างไหม มัวแต่ห้อย แต่โหน ประเทศชาติจะเจริญได้ยังไงครับ”

เป็นการเปิด “ขบวนการเต้าข่าว” ที่มี 1 ช. กับ “ไอ้ห้อย-ไอ้โหน” เป็นแกนนำอยู่เบื้องหลังฉาก “แปลงสาร” ตลบหลัง “ร.อ.ธรรมนัส” จน “พล.อ.ประยุทธ์” ควันออกหู-สยบข่าวปรับ ครม.-ยุบสภา พร้อมปรามแรง ๆ ว่า “ไม่ใช่สุภาพบุรุษ”

สิ่งที่ออกมาจากปาก “ร.อ.ธรรมนัส” ไม่ว่าจะเป็น “ความจริงทั้งหมด” หรือ “ความจริงครึ่งเดียว” แต่ความเป็นจริง คือ การเปลี่ยนหัวหน้าพรรค 2 คน เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค 3 คน ไม่สามารถทำให้พลังประชารัฐเป็นสถาบันทางการเมือง-เป็นหนึ่งเดียวกันได้

“ผมไม่โกรธใคร ไม่แค้นใคร แต่ผมจำนานและจำดี ผมบอกได้เลย พรรคพลังประชารัฐ ถ้าผมยังเป็นแกนนำนะครับ ส.ส.ไอ้ห้อย ไอ้โหนทั้งหลาย ไม่ได้ลง (เลือกตั้ง) หรอกสมัยหน้า” ไฟแค้น “ร.อ.ธรรมนัส” ลุกโชน

จับตาเขย่าขวดใหม่

หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ-ผลโหวต “ขุมกำลัง” ในพลังประชารัฐ จะถูกเขย่าใหม่ (อีกครั้ง)

กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ประกอบด้วย กลุ่มภาคเหนือ-ภาคใต้ส่วนใหญ่ รวมถึงภาคอีสานบางส่วนของ “เอกราช ช่างเหลา” กลุ่มโคราชของ “วิรัช รัตนเศรษฐ”

กลุ่มสามมิตรของ “ฮ.-แฮงค์” อนุชา นาคาศัย-สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ซุ้มมังกรน้ำเค็ม (ชลบุรีใหม่) ของ “ฮ.เฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ที่มีเสียงในกำมือไม่ต่ำกว่า 20 เสียง รวมถึงกลุ่มเพชรบูรณ์ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” 1 ใน 4 ช. “จับมือกันแน่น” เข้าตำรา “ศัตรูของศัตรู” คือ “มิตร”

กลุ่ม กทม.-อดีต กปปส.ของ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” 6 ส.ส.ดาวฤกษ์ ที่มี “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี เป็นหน้ากลุ่ม กลุ่มชลบุรีของ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” กลุ่มกำแพงเพชรของ “วราเทพ รัตนากร” และ “ไผ่ ลิกค์”

ส่วนเสียง-ส.ส.ที่เหลือ โดยเฉพาะ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” คือ “สาวก 3 ป.” ของ พล.อ.ประวิตร-พล.อ.ประยุทธ์ที่พร้อม “ยกสุดแขน” ยืนตรง-ไม่แตกแถว

อ่านเกมเลื่อยขาเก้าอี้ มท.1

อีกด้านเก้าอี้ มท.1 ที่ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” เจ้าของตำแหน่ง รมว.มหาดไทยอยู่โยงมา 7 ปี ได้ยินเรื่องการเลื่อยขาเก้าอี้ทีไร ควันออกหูทุกครั้ง

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตำแหน่ง มท.1 มีทั้งอำนาจทุน อำนาจการเมือง ผ่านกลไกปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด โยงใยไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบฯมูลค่ากว่าแสนล้าน ผู้ใดก็อยากจะได้ครอบครอง

ยิ่งการเมืองยังไม่รู้เหนือ-รู้ใต้ มีอุบัติเหตุทางการเมืองได้ทุกเมื่อ อีกทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 2 ตำแหน่ง ก็ไม่ได้อยู่ในความครอบครองของพลังประชารัฐ แต่ไปอยู่ในมือของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย

ไม่แปลกที่ ร.อ.ธรรมนัสกลั่นคำพูดออกมาว่า ถามว่าทำอะไรให้กับชาวบ้านบ้าง ส.ส.ตอบได้เลยว่า ไม่มี มีหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว

ในอดีตการโยกย้ายในกระทรวงคลองหลอด มักพูดถึง “ขั้วอำนาจเก่า” สาย “ทักษิณ-ไทยรักไทย” ทว่า กว่า 7 ปี ที่ พล.อ.อนุพงษ์นั่งเก้าอี้ มท.1 โดยไม่มีการเปลี่ยนตัว การแต่งตั้ง-โยกย้าย ล้วนเป็นข้าราชการสาย “บิ๊กป๊อก” ทั้งสิ้น ผ่านการเสนอโดย “บิ๊กฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทยปัจจุบัน

ดังนั้น ชื่อผู้ว่าฯ-พ่อเมืองในจังหวัดใหญ่ ๆ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการเมืองในขณะนี้ เคยทำงานให้กับ พล.อ.อนุพงษ์-ปลัดฉิ่งมาแล้วทั้งสิ้น อาทิ ผู้ว่าฯสมุทรปราการ ผู้ว่าฯอุดรธานี ผู้ว่าฯอุบลราชธานี ขณะเดียวกัน ข้าราชการสายอื่น ที่ไม่เกาะเกี่ยวกับสิงห์ดำของ “ปลัดฉิ่ง”

“บิ๊กป๊อก” หมุนเวียนเก้าอี้ตามสมควร ไม่มีสงครามสิงห์คลองหลอด สีสถาบันการศึกษามาพัวพันมากเหมือนอดีต จึงมีทั้งพระเดช-พระคุณ ในการแต่งตั้งโยกย้าย

ยิ่งมีข่าวว่า 3 ป.อาจคุมนักเลือกตั้งประเภทเขี้ยวลากดินไม่อยู่ ส่ง “ปลัดฉิ่ง” ไปตั้งพรรคการเมืองสำรอง หากต้องจำใจทิ้งพรรคพลังประชารัฐ

ไม่แปลกว่า เกมเลื่อยขา มท.1 จึงปรากฏอยู่ในเกมสมคบคิดนี้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ก็ควันออกหูไม่น้อยกว่า “พล.อ.ประยุทธ์”