เปิดบัญชีทรัพย์สิน “ณัฏฐพล” รวย 2 พันล้าน หลังพ้นรัฐมนตรี จนลง 98 ล้าน

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
FILE PHOTO : REUTERS/Jorge Silva

ป.ป.ช. เปิดรายการบัญชีทรัพย์สิน “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” อดีต ส.ส.- รัฐมนตรีศึกษาฯ รัฐบาลประยุทธ์ 2/2 รวยอู้ฟู่มีทรัพย์สินกว่า 2 พัน หลังพ้นตำแหน่ง จนลง 98.8 ล้านบาท

วันที่ 16 กันยายน 2564 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ กรณีพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 29 พฤษศจิกายน 2564 พร้อม นางทยา ทีปสุวรรณ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

มีทรัพย์สินร่วมทั้งสิน 2,016,755,733 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของ นายณัฏฐพล 360,029,336 บาท เป็นทรัพย์สินของนางทยา 1,447,025,634 บาท เป็นทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 209,700,762 บาท รวมหนี้สินทั้งสิน 122,569,157 บาท โดยเป็นหนี้สินของผู้ยื่น 565,018 บาท ซึ่งเป็น เงินเบิกเกินบัญชี เป็นหนี้สินของคู่สมรส 122,003,076 บาท ซึ่งเป็นหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือและเงินเบิกเกินบัญชี และหนี้สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1,061 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี

สำหรับทรัพย์สินของ นายณัฏฐพล ประกอบด้วยเงินสด 550,000 บาท เงินฝาก 1,070,765 บาท เงินลงทุน 211,466 บาท เงินให้กู้ยืม 252,399,312 บาท ที่ดิน 104,465,767 บาท ยานพาหนะ 50,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 738,024 บาท ทรัพย์สินอื่น 544,000 บาท

ส่วนทรัพย์สินของ นางทยา ประกอบด้วยเงินสด 320,000 บาท เงินฝาก 18,555,046 บาท เงินลงทุน 1,230,321,132 บาท เงินให้กู้ยืม 79,419,524 บาท ที่ดิน 1,992,000 บาท ยานพาหนะ 4,119,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 15,775,930 บาท ทรัพย์สินอื่น 96,523,000 บาท

ทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะประกอบด้วย เงินฝาก 6,181,885 บาท เงินลงทุน 69,438,000 บาท ที่ดิน 98,560,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 33,416,711 บาท ซึ่งเป็นบ้าน2 หลัง ประกอบด้วย บ้าน 2 ชั้น และ 5 ชั้น อยู่แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. โดยมี นายณัฏฐพลและนางทยาเป็นผู้พักอาศัยร่วม

สำหรับยานพาหนะ แจ้งไว้ทั้งหมด 8 รายการ โดยนายณัฏฐพล แจ้งว่าครอบครองจักรยาน 1 คัน ส่วนของนางทยา แจ้งว่าครอบครอง รถจักรยานยนต์ 4 คัน รถยนต์ 2 คัน และจักรยาน 3 คัน

ในส่วนของเงินให้กู้ยืมทั้งของผู้ยื่นและคู่สมรสนั้นแจ้งว่า มีผู้กู้ยืมทั้งหมด 6 รายการ​ ได้แก่ บริษัท วิสดอม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (ในนามเจ้าของโรงเรียนนานาชาติ) ซึ่งเป็นสัญญากู้ฉบับที่​ 1​ นายกมลพัฒน์ ทีปสุวรรณ นางจันทิมา ทีปสุวรรณ บริษัท ศรีวิกรม์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทศรีธารา แลนด์ จำกัด และบริษัท วิสดอม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (ในนามเจ้าของโรงเรียนนานาชาติ) ซึ่งเป็นสัญญากู้ฉบับที่​ 2

สำหรับทรัพย์สินอื่นประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระ 5 องค์ นาฬิกาหรู 24 รายการ กระเป๋าแบรนด์เนม 21 รายการ สร้อยคอและพระ 59 รายการ ต่างหู 20 รายการ แหวน 14 รายการ พระพุทธรูปและวัตถุโบราณ 10 รายการ ของตกแต่งเครื่องใช้และภาพวาด 26 รายการ นอกจากนั้นยังมีเครื่องประดับ อาทิ กำไล สร้อยข้อมือ เข็มขัด เข็มกลัด รวม 26 รายการ

สำหรับรายได้ต่อปีของนายณัฏฐพล 20,530,000 บาท เป็นรายได้จากเงินเดือนและเบี้ยประชุม ค่าเช่าทรัพย์สินเงินรับให้จากบุพการี รายได้ต่อปีของนางทยา หุ้นบจ.เอสวีเค เอสเตท ค่าบริการและดอกเบี้ยเงินฝากเงินลงทุน ส่วนของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะนั้นเป็นรายได้จาก หุ้น บจ.เพรสิเด้นท์โฮเต็ลและทาวเวอร์ หุ้น บจ.เอสวีเค เอสเตท

ส่วนรายจ่ายต่อปีของนายณัฏฐพล 20,343,000 บาท และของนางทยา 25,511,000 บาท ของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1,860,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายทั่วไปที่บ้าน ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว เงินบริจาคช่วยเหลือ และค่าเรียนบุตร ทั้งนี้รอบปีภาษีที่ผ่านมา นายณัฏฐพล 4,472,358 บาท ส่วนนางทยา 31,800 บาท

ทั้งนี้​ เมื่อเทียบกับตอนนายณัฏฐพล แจ้งไว้ตอนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ​ เมื่อวันที่​ 22 ส.ค.2562 ว่า มีทรัพย์สินรวม 2,115,587,449 บาท​ พบว่า​ ทรัพย์สินลดลง​ 98,831,716 บาท