ทำความรู้จัก “มูลนิธิคณะก้าวหน้า” องค์กรสานต่อความฝัน-อุดมการณ์ จากสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นหัวเรือใหญ่เช่นเคย
วันที่ 17 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 1 เดือนหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี (เมื่อ 21 ก.พ. 63) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ได้เปิดตัว “คณะก้าวหน้า” เพื่อสานต่ออุดมการณ์ทางการเมืองจากพรรคอนาคตใหม่
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
นอกจากนี้ นายธนาธร ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ ยังยื่นคำขอจดทะเบียน “มูลนิธิคณะก้าวหน้า (Progressive Movement Foundation)” ซึ่งนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศรับจดทะเบียนจัดตั้ง เลขทะเบียน ลําดับที่ กท 3181 มีผลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ “มูลนิธิคณะก้าวหน้า” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง 8 ข้อ รวมถึงรายชื่อบอร์ดบริหาร จำนวน 13 คน
รู้จัก มูลนิธิคณะก้าวหน้า
มูลนิธิคณะก้าวหน้า (คกน.) หรือชื่อภาษาอังกฤษ Progressive Movement Foundation ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่เลขที่ 1768 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ชั้น 5 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
มีทรัพย์สินเป็นทุนแรกเริ่มในการจัดตั้ง คือ เงินสด จำนวน 500,000 บาท โดยมูลนิธิมีช่องทางอื่นที่อาจได้ทรัพย์สินเพิ่มเติม ได้แก่
- เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้ยกให้โดยพินัยกรรม หรือนิติกรรมอื่น ๆ โดยมิได้มีเงื่อนไขผูกพันให้มูลนิธิต้องรับผิดชอบในหนี้สินหรือภาระติดพันอื่นใด
- เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้
- ดอกผลซึ่งเกิดจากทรัพย์สินของมูลนิธิ
- รายได้อันเกิดจากการจัดกิจกรรมซึ่งอยู่ในภายในขอบวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
- รายได้อื่นจากการดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
มูลนิธิคณะก้าวหน้า จัดตั้งขึ้นเพื่ออะไร
นายธนาธรได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมูลนิธิคณะก้าวหน้าไว้ 8 ข้อ โดยข้อแรกมุ่งเน้นเพื่อส่งเสริมการศึกษา วิจัย ด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่น ๆ ส่งเสริมการแปลหนังสือภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย เผยแพร่ความรู้หรือผลงานการศึกษาวิจัยด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่น ๆ ให้แพร่หลายแก่ประชาชน
รวมทั้งยังส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ดำเนินกิจกรรมค่ายศึกษาอบรมเกี่ยวกับการเสริมสร้างค่านิยมประชาธิปไตย พร้อมให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่ยากไร้
อีกทั้งยังส่งเสริมและสนับสนุนการสังคมสงเคราะห์ที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้สูงอายุคนพิการ และผู้ด้อยโอกาส รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการกีฬาทุกประเภท และเพื่อเป็นการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความเป็นกลาง และไม่ให้การสนับสนุนด้านการเงินหรือทรัพย์สินแก่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใด
บอร์ดบริหาร มูลนิธิคณะก้าวหน้า
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการดำเนินงานมูลนิธิคณะก้าวหน้า มีดังนี้
- นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ
- นายชํานาญ จันทร์เรือง รองประธานกรรมการ
- นายพงศกร รอดชมภู รองประธานกรรมการ
- นายสุรชัย ศรีสารคาม รองประธานกรรมการ
- นายปิยบุตร แสงกนกกุล กรรมการ
- นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการ
- นายเดชรัต สุขกําเนิด กรรมการ
- นายสุนทร บุญยอด กรรมการ
- นายชัน ภักดีศรี กรรมการ
- นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ กรรมการ
- นายไกลก้อง ไวทยการ กรรมการ
- นางสาวเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการและเหรัญญิก
- นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ กรรมการและเลขานุการ
จาก “อนาคตใหม่” สู่ “คณะก้าวหน้า”
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 นายธนาธร และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ได้ประกาศจัดตั้ง “คณะก้าวหน้า” เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 ซึ่งถูกเปลี่ยนมาจาก “คณะอนาคตใหม่”
นายปิยบุตรกล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวคณะก้าวหน้าถึงเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนชื่อจากคณะอนาคตใหม่ เป็นคณะก้าวหน้า และให้ชื่อในภาษาอังกฤษว่า Progressive Movement ว่า
“เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงมิให้พวกเราต้องมาเผชิญกลเกมทางกฎหมาย จะต้องมาเผชิญกับคดีความจนทำให้พวกเราเสียสมาธิ และเป็นอุปสรรคในการเดินหน้าต่อสู้ในทางการเมืองต่อไป…”
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตราที่ 94 ระบุว่า “ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองซ้ำ หรือพ้องกับพรรคการเมืองที่ถูกยุบ ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ด้านนายธนาธร กล่าวปิดทิ้งท้ายในการแถลงข่าวเปิดตัวคณะก้าวหน้า ว่า
“นี่คือจุดเริ่มต้นของบทที่สองของการเดินทางทางการเมืองของพวกเรา พวกเราขอใช้ความสามารถ ขอใช้ความรู้ ขอใช้เครือข่าย ขอใช้พลัง ขอใช้ทรัพยากรที่พวกเรามีอยู่ทำงานเพื่อประชาชนในนามของคณะก้าวหน้า สานต่อความฝันและอุดมการณ์ของอดีตพรรคอนาคตใหม่”