อัพเดต ม็อบ14พฤศจิกา ย้ายจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปแยกปทุมวัน

ม็อบแยกปทุมวัน
FILE PHOTO : REUTERS/Soe Zeya Tun

อัพเดตทุกความเคลื่อนไหว การชุมนุม #ม็อบ14พฤศจิกา64 ย้ายจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปแยกปทุมวัน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความนัดหมายชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังสนามหลวง พร้อมระบุว่า “นี่คือการต่อสู้เพื่อยืนยันว่าประเทศนี้ต้องปกครองด้วยระบอบที่คนทุกคนเสมอหน้าเท่าเทียมกัน นี่คือการต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย”

จนท.ขนอุปกรณ์ รับมือม็อบ

มติชนรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์พร้อมติดตั้งลวดหนามหีบเพลง มาวางเรียงปิดกั้นพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินกลาง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. ซึ่งการจัดวางตู้อยู่ในลักษณะขวางเป็นแนวยาว เพื่อเตรียมรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม ในเวลา 15.00 น. ของวันนี้

นอกจากนี้ยังมีการวางคอนเทนเนอร์บริเวณใกล้เคียงท้องสนามหลวง อาทิ ด้านหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซอยราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. , สะพานเจริญศรี เป็นต้น

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เตรียมปิดการจราจร 100 เปอร์เซ็น เส้นทางจากสะพานผ่านพิภพลีลา ไม่ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินใน โดยได้นำตำรวจจราจรมาประจำการบริเวณดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง

ส่วนที่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ก่อนถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เจ้าหน้าที่ได้นำรถยนต์เคลื่อนที่เร็ว รถฉีดน้ำแรงดันสูง (จีโน่) รถควบคุมผู้ต้องหา และตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.) เข้ามาประจำการในพื้นที่เพื่อเตรียมรับมือการชุมนุมในช่วงเย็นวันนี้

ย้ายไปแยกปทุมวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 13.42 น. ที่เฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความย้ายสถานที่การชุมนุมจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเผยถึงเหตุผลครั้งนี้ว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดเส้นทางเข้าออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทุกเส้นทางและมีเจตนาที่จะใช้ความรุนแรง รวมถึงพกอาวุธจริงเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม

 

บรรยากาศการชุมนุม

บรรยากาศ เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ภายหลังเครือข่ายประชาธิปไตย ประกาศย้ายสถานที่ชุมนุมไปยังแยกปทุมวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุมนุมจำนวนหนึ่ง ติดรถกระบะของผู้ชุมนุมรายอื่นไปยังจุดนัดหมาย อีกส่วนรวมตัวเดินเท้าและขี่รถจักรยานยนต์ไปที่แยกปทุมวัน โดยใช้เส้นทางข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ถนนหลานหลวง ผ่านตลาดโบ๊เบ๊ และมหานาค

ระหว่างเดินขบวน มีการตะโกน “I here too” ดังสนั่น และต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่ขบวนเดินเท้า ผ่านย่าน ตลาดมหานาค นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า แหล่งเสื้อผ้าคุณภาพดี ราคาถูก ส่งออกไปต่างประเทศก็มี ผัก ผลไม้สดๆ ก็มี ใครซื้อของเยอะ ไม่รู้จะกลับอย่างไร ใช้บริการ 3 ล้อได้เลย พร้อมเชิญชวนพ่อค้าแม่ขาย 2 ข้างทาง รีบเก็บร้านไปร่วมชุมนุม หรือนำสินค้าไปขาย ที่สี่แยกปทุมวัน

ทั้งนี้ มีชายชรา เปิดเผยว่า ตนมีอายุเกือบ 100 ปี แต่ยืนยันว่าจะร่วมเดินไปกับขบวนม็อบ

มติชนรายงาน เวลา 14.39 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหอศิลป์ฯ แยกปทุมวัน มีสื่อมวลชนและประชาชนจำนวนหนึ่งทยอยเดินทางมารวมตัวกันแล้ว โดยมีการตั้งแผงขายของบริเวณหน้าหอศิลป์ฯ เป็นสินค้าเกี่ยวกับสัญลักษณ์ประชาธิปไตย อาทิ สติ๊กเกอร์ ผ้าคาดศีรษะ รวมไปถึงหน้ากากกันแก๊ส

15.13 น. แนวร่วมนปช.เชียงใหม่เดินทางมาเข้าร่วมการชุมนุมโดยจอดรถกระบะริมถนนแยกปทุมวัน ตัวแทนกลุ่มยืนโบกธงที่มีสัญลักษณ์หมุดคณะราษฎร 2563 บนรถพร้อมชูสามนิ้ว#ม็อบ14พฤศจิกา64

ขณะที่ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า ตั้งบูธ ‘ทะลุกี’ ขายเสื้อยืดสกรีนลายต้านเผด็จการ พร้อมเปล่งเสียงด่าทอรัฐบาลเป็นระยะ

ด้าน แกนนำ อาทิ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือ ปอ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ยืนเตรียมความพร้อม ใต้สะพานลอยหอศิลป์ ใกล้กับรถซาเล้งกระจายเสียง ระหว่างนี้ มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานผ่านแยกปทุมวัน พร้อมร่วมบีบแตร มีประชาชนร่วมชู 3 นิ้ว บนรถยนต์ โดยผู้ชุมนุมชู 3 นิ้วตอบกลับ

เวลา 15.15 น. นายโชคดี หรือ อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ กลุ่มศิลปินเพื่อราษฎร บรรเลงเพลง “เราคือเพื่อนกัน” ของวงสามัญชน ผู้ชุมนุมร่วมปรบมือ โยกย้าย และทยอยลงถนน กลุ่มทะลุแก๊ซ ขี่รถจักรยานยนต์เข้าร่วมชุมนุม

นอกจากนี้ ยังมีการผูกป้ายผ้าบริเวณสกายวอล์แยกปทุมวัน ข้อความว่า ‘We are the representative of the future, and we’ll never surrender.’

เวลา 15.06 น. กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร นำโดยนายอาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ร้องเพลงและเล่นดนตรีสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชุมนุมบริเวณถนนหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

เวลา 15.20 น. นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ แกนนำราษฎรนนทบุรี เข้าร่วมชุมนุมโดยยืนสนทนากัน ระหว่างนี้ นายรุ่งเรือง ชูเลิศ หรือ จอมพล ปฏิวัติ เข้ามาสวมกอดนายชินวัตร

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เดินเท้าเข้ามาเพื่ออ่านประกาศ โดยผู้ชุมนุมต่างชู 3 นิ้ว เปล่งเสียงพร้อมเพรียงว่า “ออกไป ออกไป ออกไป” พร้อมเดินต้อนเจ้าหน้าที่กลับไปทางหน้าห้างสรรพสินค้า MBK ตัวแทนการ์ดเข้าทำการเจราเพื่อลดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุม

เสียงปัง 4 ครั้ง กลางแยกราชเทวี

เวลา 16.13 น. มีเสียงดังคล้ายประทัดบริเวณแยกราชเทวี 4 ครั้ง ผู้ชุมนุมบริเวณใกล้เคียงวิ่งหนี นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย กล่าวผ่านรถขยายเสียงว่าขอให้พี่น้องประชาชนไปรวมตัวกลางแยกปทุมวัน บริเวณจุดแขวนหุ่นจำลอง จากนั้นกล่าวย้ำผู้ชุมนุมว่า ตอนนี้มีเหตุเกิดขึ้น ไม่ต้องไปตามเกมตำรวจ รายงานข่าวแจ้งว่า มีการจับกุมผู้ชุมนุมไม่ทราบจำนวน

เวลา 16.17 น. มีผู้ชุมนุมบริเวณสะพานหัวช้างตะโกนบอกให้สื่อหยุดไลฟ์ และขอความร่วมมือไม่ถ่ายภาพติดใบหน้าผู้ชุมนุม

เวลา 16.29 น. ที่บริเวณสะพานหัวช้าง ทีมการ์ดทำการเผาชุดและอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ที่จับกุมผู้ชุมนุมไปเมื่อสักครู่

เผาศาลพระภูมิพร้อมหุ่นจำลอง

เวลา 16.16 น. ผู้ชุมนุมนำ ศาลพระภูมิ 2 หลัง มาตั้งกลางม็อบ จากนั้นมีการพ่นสีและทุบทำลาย ก่อนจุดไฟเผา และนำหุ่นฟางมาโยนเข้ากองไฟ

เผาศาลพระภูมิพร้อมหุ่นจำลอง
Jack TAYLOR / AFP

ตั้งขบวน มุ่งหน้าสถานทูตเยอรมัน

เวลา 16.29 น. นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย ประกาศเดินขบวนไปยังสถานทูตเยอรมัน เพื่อยื่นหนังสือโดยใช้เส้นทางเดินผ่านแยกราชประสงค์

เวลา 16.45 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมอาวุธประจำกาย ตั้งแถวปิดถนนแยกเฉลิมเผ่า จากนั้น คฝ. ได้เข้าเคลียร์พื้นที่บนสกายวอล์กข้ามแยกเฉลิมเผ่า ประกาศให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องลงมาด้านล่างทั้งหมด

เวลา 16.53 น. เคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตเยอรมัน โดยระหว่างทางมีรถของประชาชนส่งเสียงบีบแตรให้ตลอดทาง

เวลา 16.56 น. รถฉีดน้ำแรงดันสูง (จีโน่) เข้าเตรียมพร้อมแยกเฉลิมเผ่า ขณะที่การ์ดวีโว่ เดินคล้องแขน ตามด้วยป้ายไวนิลขนาดใหญ่จำลองหนังสือที่จะนำไปยื่นต่อสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย และรถซาเล้งแดง ตามด้วยผู้ชุมนุมเดินเท้า มุ่งหน้าแยกราชประสงค์

ตั้งขบวน มุ่งหน้า สถานทูตเยอรมัน
Jack TAYLOR / AFP

จนท.พร้อมอาวุธ ตั้งแถวขวางแยกเฉลิมเผ่า

เวลา 17.01 น. นายธัชพงศ์กล่าวว่า แม้เราจะผ่านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ก็ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องให้ค่า เราจะเดินทางอย่างสันติไปที่สถานทูตเยอรมัน ตร.และตำรวจไม่ใช่เป้าหมายของเรา

เวลา 17.02 น. ที่แยกเฉลิมเผ่า ผู้ชุมนุมส่งเสียงโห่ใส่รถจีโน่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มีการพกอาวุธยืนประจำการบริเวณแยกเฉลิมเผ่า ด้าน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน อ่านประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติกิจกรรม เนื่องจากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จากนั้น ตำรวจประกาศให้สื่อมวลชนออกด้านข้างซ้าย-ขวา อย่าเข้ามาในพื้นที่ปฏิบัติการ

เวลา 17.03 น. มวลชนเคลื่อนขบวนเข้าใกล้แนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น แล้วพังแนวกั้นเพื่อเดินหน้า

เวลา 17.06 น. แกนนำประกาศยืนยันว่าเราจะเดินไปสถานทูตเยอรมันเท่านั้น โดยตำรวจถอยร่น ด้านผู้ชุมนุมปรบมือให้ตำรวจ ทำมือส่งสัญญาณว่าเลี้ยวขวา

เวลา 17.10 น. เมื่อขบวนเคลื่อนถึงหน้าโรงพยาบาลตำรวจ เกิดเสียงดังปัง 2 ครั้ง ขบวนจึงชะงักลง ผู้ชุมนุมบางส่วนเดินย้อนกลับไปทางแยกเฉลิมเผ่า

เวลา 17.12 น. มีเสียงดังปังขึ้นอีกบริเวณโรงพยาบาลตำรวจ

เวลา 17.13 น. ทีมการ์ดวีโว่ รวมถึงนายพีรพล ระเวกโสม กลุ่มราษฎรเอ้ย เร่งเคลียร์ทางให้รถพยาบาลเคลื่อนผ่านหน้า รพ.ตำรวจ ขณะที่ผู้ชุมนุมปรบมือ

ม็อบถูกยิงเจ็บ 1 ราย

มติชนรายงาน เวลา 17.12 น. มีเสียงดังปังขึ้นอีก บริเวณด้านหน้าสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พบว่ามี 1 ในผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่หน้าอก ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลรีบมารับตัวไป

ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวตะโกนว่า “ตำรวจยิงประชาชน” และเข้าไปด่าทอ คฝ. ซึ่งรักษาการอยู่บริเวณด้านข้างนิติเวช รพ.ตำรวจ จนต้องถอยร่นกลับไปด้านใน

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทีมพยาบาลได้นำตัวไปส่งที่ รพ.จุฬาฯ ทีมการ์ดวีโว่พูดคุยกันว่ามีผู้ถูกยิงบริเวณหน้าอก พบรอยเลือดบริเวณพื้น นอกจากนี้ มีการเผยแพร่คลิปชายรายหนึ่งนอนทรุดลงบนพื้น บุคคลรอบข้างพยายามช่วยกดแผลที่มีเลือดออก

แห่ชื่นชม จนท.สถานทูตเยอรมัน

มติชนรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีให้การต้อนรับ และตระหนักถึงขบวนการการเรียกร้องของผู้ชุมนุม ลงมาพูดคุยเพื่อถามถึงเป้าประสงค์ สิ่งที่ต้องการของกลุ่มผู้ประท้วงและจะดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมผู้นำไทยถึงไม่ลงมาพูดคุย พบปะกับพี่น้องประชาชนเพื่อหาทางออกแบบอารยประเทศที่เขาเจริญแล้ว

เวลา 18.22 น. ที่หน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย กล่าวว่า เรายืนยันว่า นี่ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย แต่คือการพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่เราออกมาบอกว่า ไม่เอาระบอบเก่า จึงไม่มีความผิด ในทางกลับกัน นี่คือการพิทักษ์และปกป้องไว้ซึ่งประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“เราสูญเสียเพื่อนหลายคน หลายคนบาดเจ็บ อยู่ในเรือนจำ เพียงเพราะความเห็นเราแตกต่างจากชนชั้นปกครองไทย ที่๋ผ่านมา ที่เลวร้ายที่สุดนี้ คือจุดตัดสั้นการประนีประนอม เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การปฏิรูป คือการล้มล้างการปกครอง นี่คือฟางเส้นสุดท้ายของประชาชน เราจะไม่ยอมให้ความฝันนี้ของเรา และเพื่อนเราต้องเสียเปล่า เราจะมีตัวแทนสถานทูตเยอรมัน ต้อนรับเราอย่างดี และยินดีให้ส่งตัวแทนเข้าไปพูดคุยถึงเนื้อหาหนังสือ วันนี้ทุกอย่างสมบูรณ์ด้วยดี ถ้าจะมีผลทางกฎหมาย รัฐไทยก็จะถูกตั้งคำถาม จะเป็นประวัติศาสตร์ที่รัฐไทยจะถูกตราหน้าไปทั่วโลก” นายธัชพงศ์กล่าว

เวลา 18.25 น. นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือแอม แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ที่นำเข้าไปยื่นต่อตัวแทนสถานทูตเยอรมนี จากนั้น ผู้ชุมนุมร่วมเปล่งเสียง “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”

จากนั้นเวลา 18.27 น. แนวร่วมประชาธิปไตย ส่งตัวแทน 3 ราย เข้าไปยื่นหนังสือ ทั้งนี้ นายธัชพงศ์ ระบุว่า อีกเรื่องที่จะแจ้งสถานทูต คือระหว่างที่เดินมา เราเลี่ยงการปะทะตลอด แต่ถูกยิงจาก ร.พ.ตำรวจ สันนิษฐานว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และจะรับรู้ไปทั่วโลก และขอให้สื่อเป็นพยานว่า รัฐไทยจะปฏิบัติตามหลักสากลหรือไม่ หรือรัฐไทยจะแหกคอก แล้วให้ทั่วโลกคว่ำบาตร

เวลา 18.33 น. 3 ตัวแทน จากกลุ่มทะลุฟ้า, ศาลาเพื่อประชาธิปไตย และ กลุ่มเหล่าทัพราษฎร เดินเท้าเข้าไปภายในสถาทูตเยอรมนี เพื่อยื่นหนังสือ

เวลา 18.38 น. เกิดเสียงดังคล้ายประทัดดังขึ้น 2 ครั้ง บริเวณสะพานไทย-เบลเยียม แยกวิทยุ มีชายวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

เวลา 18.43 น. ตัวแทนทั้ง 3 ยื่นหนังสือแล้วเสร็จ โดยเดินเท้าออกมาจากสถานทูต ท่ามกลางเสียงปรบมือยื่นหนังสือแล้วเสร็จ โดยเดินเท้าออกมาจนหาสถานทูต ท่ามกลางเสียงปรบมือ

ตัวแทน จากกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงการยื่นหนังสือว่า ทางสถานทูต ได้รับทั้ง 2 เรื่อง และรับปากว่าจะส่งเรื่องต่อไปยังท่านทูตเยอรมนี ขอให้ผู้ชุมนุม เมื่อเสร็จจากการชุมนุมที่ใดก็ตาม ให้ใจเย็น แต่เรายืนยันว่า หลายครั้งความรุนแรงในที่ชุมนุม ไม่ได้เกิดจากเรา

“เราได้แจ้งสถานทูตไปแล้วว่า วันที่มี รายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน หรือ UPR ออกมา ก็มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ส่งเรื่องต่อไป เพราะไม่ใช่เรื่องปกติ สำหรับประเทศที่เรียกว่าเป็นประชาธิปไตย” ตัวแทนกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย กล่าว

เวลา 18.52 น. นายธัชพงศ์ หรือ บอย ประกาศยุติการชุมนุม