สุพัฒนพงษ์ รับลูก ประยุทธ์ อุ้มเบนซิน เผยพรุ่งนี้ ดีเซลลดลิตรละ 2 บาท 

สุพัฒนพงษ์ รับลูก ประยุทธ์ ออกมาตรการอุ้มราคาน้ำมันเบนซินเร็ว ๆ นี้ แจงเหตุผลใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง-ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 3 บาทต่อลิตร เผยพรุ่งนี้ ดีเซลลดลง 2 บาทต่อลิตร อีก 1 บาทหักเข้ากองทุนต่ออายุ ตรึง 30 บาทต่อลิตร ถึง 31 พ.ค. รวบยอด ปี’63-65 ช่วยเหลือราคาพลังงานแล้วกว่า 1.61 แสนล้านบาท 

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่รัฐสภา มีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ลุกขึ้นอภิปรายว่า วันนี้ทิศทางดัชนีเชื่อมั่นเป็นบวก โดยเฉพาะการขอรับการลงทุนจากต่างประเทศ คำว่าแพงทั้งแผ่นดิน แพงที่สุด ตัวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและอาหารย้อนกลับไปในอดีตราคาสูงขึ้นจริงจากการบริโภคที่มีมากขึ้น

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกและอัตราการผลิตไม่ทันต่อการบริโภค เป็นปัจจัยภายนอก ไม่เกี่ยวกับปัจจัยภายในประเทศ แต่ต้องรับมือ เผชิญหน้า ดูย้อนกลับไปราคาพลังงานวันนี้ทุกตัวไม่สูงกว่าราคาก่อนหน้าเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เทียบกับราคาพลังงานในต่างประเทศที่สูงเช่นนี้ ราคาอาหารก็เช่นเดียวกัน

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า หลายท่านสงสัยทำไมไม่ลดภาษีสรรพสามิตเลย เลือกใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงควบคู่กันไป เราเริ่มเข้าไปใช้เงินกองทุนตรึงน้ำมันดีเซลเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 สาเหตุเพราะอากาศหนาวผิดปกติทำให้ความต้องการพลังงานสูงขึ้น ซึ่งเรามองว่าเดือนมีนาคม 2565 จะเริ่มผ่อนคลายลงมา

โดยพยากรณ์ว่า หากต้องใช้เงินถึงเดือนมีนาคมจะต้องกู้ 30,000 ล้านบาท สุดท้ายราคาลงในเดือนธันวาคม 2564 แต่ไม่ได้ลดการช่วยเหลือ กติกาการตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรยังคงเหมือนเดิม ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 65 ราคาขึ้นมามากจากปัจจัยความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนทำให้ ครม. ยืดระยะเวลาการตรึงราคาดีเซลถึงเดือนพฤษภาคม จึงมีการลดภาษีสรรพสามิต 3 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 3 เดือน

“หลายคนสงสัยว่า 3 บาทจะลดราคาขายน้ำมันดีเซลเท่าไหร่ วันนี้เราจะกันเงินประมาณ 1 บาท ไว้สำหรับต่ออายุกองทุนซึ่งวางแผนไว้จะอุดหนุนถึง 31 มีนาคม จำเป็นต้องมีเงินใช้ได้มากขึ้น ทำให้กองทุนช่วยตรึงราคาส่วนหนึ่งได้ถึง 31 พฤษภาคม จากเดิม 31 มีนาคม คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะลดลง 2 บาทต่อลิตร เพื่อลดราคา ลดภาระประชาชนในช่วงนี้

ขณะเดียวกันเรายังตรึงราคาไว้ที่ 30 บาทอยู่เหมือนเดิม ในกรณีน้ำมันดีเซลปรับขึ้นอีกไปแตะเพดาน เราก็จะหาวิธีตรึงไว้ไม่ให้ราคาขึ้นมาที่ 30 บาท ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกจะลดลง 2 บาท เป็นจุดตั้งต้น และไปตั้งรับกันอีกทีที่ 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเมื่อถึงวันที่ 31 พฤษภาคมก็จะดูต่อไปว่าจะใช้วิธีการใด”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ทั้งหมดทั้งปวงราคาพลังงานดีเซลและเบนซินถึงวันนี้ เวลานี้และเชื่อว่าในระยะเวลาถัดไปจะประคับประคอง ถ้าจะแพงก็ไม่น่าจะเกินไปกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ณ เวลาที่มีราคาน้ำมันดิบแพงแบบนี้ ไม่ก่อให้เกิดเป็นภาระประชาชนมากเกินไป 

“ในส่วนที่มีสมาชิกผู้ทรงเกียรติบอกว่า ทำไมตอนราคาดีเซลต่ำ ๆ 14 บาทต่อลิตร ไม่เพิ่มเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ให้ราคาขายปลีกเป็น 25 บาทต่อลิตร จะได้มีเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ 11 บาทต่อลิตร ทำให้ไม่เป็นปัญหาถึงทุกวันนี้ ประการที่ 1 ณ เวลา 14 บาทต่อลิตร หรือ ราคาต่ำ นั่นคือ ปี’63 ไม่มีใครคาดคิดหรอกครับว่า ปี’64 – 65 ราคาน้ำมันจะแพง ประการที่ 2 ผมไปดูข้อมูลแล้ว ยังไม่เห็นราคาขายปลีก 14 บาทต่อลิตร เห็นแต่ 18 บาทต่อลิตร มีอยู่ช่วงหนึ่ง 1 เดือน และขึ้นไป”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า การที่จะขึ้นราคาขายปลีก 11 บาท โดยผ่านกองทุนน้ำมันฯ จะเป็นภาระของประชาชน ภาระการขนส่ง ภาระค่าครองชีพเวลานั้น และเป็นอุปสรรคความสามารถการแข่งขันในเวลานั้นอยู่ดี จึงปฏิบัติได้ยาก ทำไม่ได้ 

“รัฐบาลตั้งแต่ปี’63-65 ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เราเข้าใจในสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นวิกฤตของโลก เฉพาะช่วยเหลือเรื่องพลังงาน 161,866 ล้านบาท ในส่วนของมาตรการบรรเทาน้ำมันเบนซินกำลังดำเนินการศึกษาอยู่ คาดว่าจะมีมาตรการออกมาเร็ว ๆ นี้”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า นอกจากการตรึงราคาน้ำมัน ควบคู่กันไปจะมีโครงการคนละครึ่ง 25 ล้านคน และเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปด้วยเดือนละ 200 บาท ครอบคลุม 13.5 ล้านคน รวมเกือบ 40 ล้านคน ในการลดและบรรเทาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย