มติ พปชร. ขับ “พิเชษฐ” ออกจากกลุ่มไลน์-งดสิทธิพึงได้ 6 เดือน

มติ พปชร. ขับ พิเชษฐ ออกจากกลุ่มไลน์-งดสิทธิพึงได้ 6 เดือน

ไพบูลย์ นั่งหัวโต๊ะ คณะกรรมการกฎหมาย-ข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ฟัน พิเชษฐ สมคบ-ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์พรรค ขับออกจากกลุ่มไลน์-งดใช้โลโก้พรรค ตัดสิทธิที่พึงได้ 6 เดือน

วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานคณะกรรมการ นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ นายประสาน หวังรันตปราณี และ นายทศพล เพ็งส้ม เป็นกรรมการ ได้สรุปความเห็นของคณะกรรมการ กรณีการกระทำของนายพิเชษฐ สถิรชวาล ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตามปรากฏหลักฐานสรุปดังต่อไปนี้

1.นายพิเชษฐ สถิรชวาล ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการกระทำในการจัดตั้งกลุ่มการเมืองใช้ชื่อกลุ่ม 16 เพื่อเคลื่อนไหวการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพรรคพลังประชารัฐ และตามคำสั่งหัวหน้าพรรคไม่ให้สมาชิกพรรคมีการตั้งกลุ่มการเมืองขึ้น เพราะจะเป็นการทำลายเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐ

2.นายพิเชษฐ ได้ใช้สถานะการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ในวันที่ 28 เมษายนและในวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เพื่อเตรียมเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยื่นไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ

“การกระทำของพรรคเพื่อไทยเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อปรากฏว่านายพิเชษฐ ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปร่วมประชุมหารือวางแผนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีกับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยถึง 2 ครั้ง การกระทำของนายพิเชษฐ จึงเป็นการกระทำที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และเป็นการตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุนี้นายพิเชษฐ จึงฝ่าฝืนข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐหลายข้อ”

3.นายพิเชษฐ ได้โทรศัพท์คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และเป็นบุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรคพลังประชารัฐ

“ดังนั้นการกระทำดังกล่าวข้างต้นของนายพิเชษฐ สถิรชวาล ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตาม 1 ถึง 3 จึงเป็นการกระทำตามอำเภอใจ โดยไม่มีสำนึกร่วมรับผิดชอบต่อเสถียรภาพของพรรค ไม่มีจิตสำนึกในอุดมคติของพรรค ในฐานะเป็นเจ้าของพรรค ไม่เป็นไปตามหลักการอยู่ร่วมกันของสมาชิกพรรคภายใต้ระเบียบแบบแผนของพรรคพลังประชารัฐ”

แต่เมื่อปรากฏว่านายพิเชษฐ ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปร่วมประชุมหารือวางแผนให้คำปรึกษาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีกับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยถึง 2 ครั้ง การกระทำของนายพิเชษฐ จึงเป็นการกระทำที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และเป็นการตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรคพลังประชารัฐ

ทำให้สังคมและบุคคลภายนอกเข้าใจผิดและตำหนิติเตียนพรรคพลังประชารัฐ ทำให้พรรคเสียหายต่อชื่อเสียง และนายพิเชษฐได้มีการติดต่อพูดคุยกับบุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และเป็นบุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรคพลังประชารัฐ เป็นการคบหาผู้ประพฤติผิดกฎหมาย

ซึ่งการกระทำดังกล่าวข้างต้น เป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะสมาชิกพรรคต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคตามข้อบังคับ ข้อที่ 56 (1) (3) และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับ ข้อที่ 64 ข้อที่ 69 ข้อที่ 72 ข้อที่ 76 ดังนี้

ข้อที่ 56 สมาชิกพรรคการเมืองมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคการเมือง ดังต่อไปนี้

(1) ร่วมรับผิดชอบต่อเสถียรภาพของพรรคการเมือง และให้ความร่วมมือในกิจกรรมของพรรคการเมืองด้วยจิตสำนึกในอุดมคติของพรรคการเมืองในฐานะเป็นเจ้าของพรรคการเมืองร่วมกัน

(3) ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของพรรคการเมืองอย่างเคร่งครัด ให้การสนับสนุนนโยบายและมติของพรรคการเมืองอย่างจริงจัง

ข้อที่ 64 ไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ข้อที่ 69 ไม่ให้คำปรึกษาแก่บุคคลภายนอก หรือแสดงความคิดเห็น หรือข้อมูลต่อสาธารณะ หรือสาธารณชนในเรื่องที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสียความเป็นธรรมแก่การปฏิบัติหน้าที่เว้นแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายขององค์กร

ข้อที่ 72 ไม่คบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่

ข้อที่ 76 รักษาความลับของพรรคการเมืองและระเบียบแบบแผนของพรรคการเมือง

สำหรับข้อเสนอแนะ ดังนั้นเมื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าการกระทำของนายพิเชษฐ สถิรชวาล ในฐานะสมาชิกพรรคได้กระทำที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะสมาชิกพรรคต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคตามข้อบังคับ ข้อที่ 56 (1) (3) และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับ ข้อที่ 64 ข้อที่ 69 ข้อที่ 72 ข้อที่ 76

“เพื่อเป็นการรักษาหลักการและแนวทางปฏิบัติที่เคยดำเนินการในกรณีก่อนหน้านี้ จึงมีมติเห็นควรให้ดำเนินการงดเว้นสิทธิของนายพิเชษฐ สถิรชวาล ในฐานะสมาชิกพรรคที่พึงได้จากพรรคเป็นการชั่วคราวระยะเวลา 6 เดือน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ถึง 12 พฤศจิกายน 2565 ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ หรือตำแหน่งอื่นในสัดส่วนของพรรค
  2. สิทธิในการร่วมกิจกรรม ร่วมประชุมหรือใช้ห้องประชุมพรรค และสิทธิในการรับข้อมูล ข่าวสารต่าง ๆ เช่น ในระบบแอปพลิเคชั่นไลน์ของพรรค
  3. สิทธิในการใช้ชื่อ ตรา เครื่องหมาย สัญลักษณ์ ของพรรคพลังประชารัฐ ในการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ