สุพัฒนพงษ์หวังเปิดประเทศ โกยรายได้ท่องเที่ยว โปะอุดหนุนน้ำมัน

สุพัฒนพงษ์ หวังเปิดประเทศ โกยรายได้ท่องเที่ยว โป๊ะ อุดหนุนน้ำมัน

สุพัฒน์พงษ์ โล่งอก ครม.ไฟเขียว ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร 2 เดือน หวังเปิดประเทศ โกยรายได้ โปะ รายได้ที่เฉือนออกมาอุดหนุนราคาน้ำมัน แย้ม ดูทุกแหล่งพลังงานราคาถูก ลั่น พร้อมงัด คนละครึ่งเฟส 5 กระตุ้นเศรษฐกิจ งบพอ ไม่ต้องกู้เพิ่ม

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในอัตรา 5 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 2 เดือน ว่า จะสามารถลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปได้พอสมควร โดยจะพยายามรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลเอาไว้

ในวันพรุ่งที่ (18 พ.ค.) คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งผลจากการที่ครม.มีมติลดภาษีสรรพสามิตลง 5 บาทต่อลิตรละ จะมีผลต่อการพิจารณาของ กบน. ว่าจะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปอย่างไร

“ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการออกมา ถ้าไม่ได้ช่วย ไม่ลดภาษีสรรพสามิตฯ ไม่มีเงินกู้จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันดีเซลจะเท่ากับต่างประเทศ คือ 40 บาทต่อลิตร เท่ากับต่างประเทศ แต่ถ้าราคาน้ำมันดีเซลต่ำเกินไปอาจจะมีการลักลอบส่งออกไป ทำให้ส่งผลต่อความเสียหายประเทศ”

เมื่อถามว่า จากปัญหาวิกฤตพลังงาน รัฐบาลได้เสาะหาแหล่งพลังงานราคาถูกไว้ที่ไหนบ้างหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า “ผมดูทุกแหล่ง ความจริงแหล่งในประเทศสำคัญ เราพยายามหาแหล่งให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการผลิตไฟฟ้าต่าง ๆ พยายามใช้แหล่งในประเทศให้มากขึ้น และเรื่องของการใช้ชีวมวลให้มีมากขึ้น ส่วนน้ำมัน เราเห็นสัญญาณประชาชนเริ่มประหยัด เริ่มใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลฯ ดังกล่าว เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น เพราะต้องดูในเรื่องการจัดเก็บรายได้ด้วย เรื่องจากเราเปิดประเทศแล้ว เริ่มเห็นแล้วว่า การเดินทางของนักท่องเที่ยวมามากขึ้น ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรก พบว่า อุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวเติบโตมากขึ้น ซึ่งในอดีตคิดเป็น 20 % ต่อสัดส่วนจีดีพี ทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลมากขึ้น

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า รัฐบาลพยายามมีมาตรการที่ออกมาแล้ว หลายเรื่อง เรื่องราคาพลังงานและการควบคุมอัตราเงินเฟ้อกำลังดูแลอยู่ ซึ่งราคาพลังงานของเราไม่ได้สูงกว่าเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามเรายังต้องประคับประคอง ประคบประหงม เพื่อไม่ให้ราคาดีดตัวมากจนเกินไป

“ตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกที่สภาพัฒน์คาดการณ์ว่าจะโต 2.5-3.5 % ถือว่าอยู่ในระดับดีในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีออกมาอีกหรือไม่ ต้องดูเดือนต่อเดือน ซึ่งรมว.คลังกำลังดูอยู่ตลอดเวลา มีอยู่ในแผนอยู่แล้ว รวมถึงโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ก็กำลังพิจารณาอยู่ พร้อมเมื่อไหร่ ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ ถ้าสภาพเศรษฐกิจยังกระตุ้นไม่เพียงพอ การอุปโภคบริโภคยังมีไม่มากพอ หรือ สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อ และเป็นไปในทิศทางที่รุนแรงมากขึ้นก็มีความจำเป็นต้องกระตุ้นการใช้ภายในประเทศมากขึ้น ดูทุกวัน ติดตามสถานการณ์ทุกวัน”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า งบประมาณยังมีเพียงพออยู่ ไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่ม เงินมีอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้เราคิดว่าสถานการณ์การเปิดประเทศตัวเลขน่าจะไปได้

นายสุพัฒนพงษ์ยังตอบคำถามเกี่ยวกับกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะออกมาตรการลดราคาน้ำมันเบนซินด้วย ว่า ไม่จริง เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันเบนซินเราต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว