เปิดใจ ส.ส. งูเห่าเพื่อไทย ถูกดอง เตรียมย้ายเข้ารังภูมิใจไทย

นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย
นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย

จักรพรรดิ์ ไม่สนถูกเพื่อไทยดองยาวไม่ให้ร่วมกิจกรรมพรรค ถูกขึ้นแบล็กลิสต์เพราะน้องไปอยู่ไทยสร้างไทย จากนี้ไปอยู่ภูมิใจไทย สบายใจกว่า

วันที่ 12 มิถุนายน 2565 นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย 1 ใน 7 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรค ในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย จะยื้อกระบวนการสอบสวนเพื่อขับออกจากพรรคไปให้นานที่สุดว่า ได้หมด ยอมรับได้หมด ถ้าจะพยายามยื้อออกไปก็รับได้ หรือจะขับออก ก็รับได้ หรือจะให้อยู่กันไปอย่างนี้ก็รับได้

หากได้รับเชิญจะไปชี้แจง ส่วนตัวมองว่า การลงมติ พ.ร.บ.งบประมาณที่โหวตรับหลักการ เพราะมองว่า จะได้มีงบประมาณนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน นำไปพัฒนาประเทศ ตลอดการอภิปรายงบประมาณ 3-4 ครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย อย่างมาก งดออกเสียง แล้วจะได้ไปคุยต่อในวาระ 2 แต่ทำไมครั้งนี้กลายเป็น ไม่รับหลักการ คิดอะไรอยู่ มีแผนอะไร

ตราบใดที่กระบวนการบริหารพรรคยังเป็นอย่างนี้ บริหารแบบ Top Down หรือมองจากบนลงมาล่างเพียงอย่างเดียว ส.ส.ไม่สามารถสะท้อนความเห็นอะไรได้เลย ทำให้ ส.ส.หลายคนเริ่มอึดอัด และไม่ได้มีเฉพาะตนเพียงคนเดียว เรื่องการขับออก ถ้าจะยื้อก็ไม่เป็นอะไร

ส่วนการโหวตครั้งต่อไป ไม่ได้ดูตามมติพรรค แต่จะใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส. นายจักรพรรดิ กล่าวว่า ถูก แม้มติพรรคจะให้ไม่ไว้วางใจ แต่ถ้าตนฟังแล้ว รัฐมนตรีตอบคำถามได้

Advertisment

“เมื่อพรรคไม่เห็นเรา ไม่เอาเราแล้ว วันนี้ผมเป็นอิสระ ยิ่งกว่าอิสระ การลงชื่อญัตติอภิปราย พรรคคงไม่เชิญไปลงชื่อและจะไม่ไปเซ็นชื่อ ในการขอเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะมีการยื่นในวันที่ 15 มิถุนายน”

นายจักรพรรดิกล่าวว่า แม้จะมีจุดยืนทางการเมืองแบบนี้ ความสัมพันธ์ ส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทย ยังเป็นเหมือนเดิม เข้าใจซึ่งกันและกัน ยังมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ไม่มีอะไร เข้าใจกัน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คงจะไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่สมัยนายประจวบ ไชยสาส์น บิดา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดานายอนุทิน นายชัย ชิดชอบ บิดานายเนวิน เป็นนักการเมืองรุ่นใกล้เคียงกัน มีความคุ้นเคยรักใคร่กันดี จนมาถึงรุ่นลูก นายเนวิน นายอนุทิน และตน ต่างคุ้นเคยกันดี การเลือกตั้งครั้งหน้า ขอไปอยู่กับพรรคที่ผมรู้สึกสบายใจดีกว่า

นายจักรพรรดิกล่าวอีกว่า เมื่อสุดท้ายแล้ว เขาไม่ให้ผมร่วมกิจกรรมกับทางพรรค ตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นมา และมีลักษณะที่ปักใจเชื่อว่า จะย้ายไปร่วมงานทางการเมืองพรรคเดียวกับน้องชาย นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น แกนนำพรรคไทยสร้างไทย นำมาเป็นเหตุผล โดยที่ไม่ได้มาสอบถามอะไรก่อนเลย ผมกับต่อพงษ์ คนละคนกัน เราคิดต่างกันได้ ทางการเมือง ทำไมจะต้องให้คิดเหมือนกัน เราเป็นคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ แฝดบางคู่ ยังคิดเห็นไม่เหมือนกัน เพราะไม่ใช่คน ๆ เดียวกัน

เมื่อเขามองเป็นงูเห่า หรืออะไรก็แล้วแต่ ถูกบางคนปักธงไว้ว่า เดี๋ยวก็คงจะย้ายพรรคไปร่วมงานกับน้องชาย จากนั้นก็มีความพยายาม ไม่ให้ร่วมกิจกรรมพรรค และได้ฝากคนมาบอก จะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง เลยเป็นเหตุให้ตัดสินใจ จะไม่ร่วมงานกับทางพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป

Advertisment

ขอยกอีกตัวอย่าง ตอนอภิปรายร่างพรบ.งบประมาณ พ.ศ.2566 พรรคได้ตัดคลิป และโพสต์คลิปส.ส.คนหนึ่งที่อภิปรายลงในโลกโซเชียลพรรคไปแล้ว ต่อมาได้ลบออก เพียงเพราะบางคนมองว่า รอบหน้าคงจะย้ายพรรค ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ที่มีคนนามสกุลเดียวกันไปร่วมงานก่อนอยู่แล้ว จึงขึ้นบัญชีดำเอาไว้ ไม่ให้ความเป็นธรรม ทั้งที่คนๆนั้น

ยืนยันตลอดจะขอร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ไม่ไปไหน ถึงแม้เขาจะมีความเกี่ยวพันกันแต่ไม่ได้หมายความว่าในทางการเมืองจะต้องคิดเหมือนกัน ทำอย่างนี้เหมือนจะเป็นการบอกว่า ถ้าจะไปก็ไปให้หมด หรือถ้าจะกลับมาก็กลับมาให้หมดอย่างนั้นใช่หรือไม่ โดยไม่ได้ดูว่า เขายังมีจุดยืน และยืนยันจะร่วมงานกับพรรคไปต่อ แล้วกับบางกรณี อีกนามสกุล มีพี่ชายหรือญาติที่มีจุดยืนทางการเมืองอีกแบบ

แต่คน ๆ นั้นมีความใกล้ชิด สนิทสนมบางคน ยังร่วมงานกับเพื่อไทยได้ ซึ่งสะท้อนได้ถึงหลายแง่มุมทางความคิด นอกจากนี้ ความไม่ชัดเจนในการเตรียมผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ในเขตๆเดียวกันบางพื้นที่ ปล่อยให้ผู้สมัครขึ้นป้ายพร้อมกันหลายคน ถ้าผู้ใหญ่ไม่ให้ความชัดเจน จะส่งใครลงสมัคร จะสร้างความสับสน ถ้าคนนั้น ๆ ไม่ได้ลง คงจะมีปัญหาตามมาอีก

ในอุดรธานี กระแสพรรคเพื่อไทยยังดีอยู่ หากย้ายออกไป กังวลว่า ชาวบ้านในพื้นที่จะไม่เข้าใจ ไม่เลือกกลับมาเป็นส.ส. นายจักรพรรดิกล่าวว่า ยอมรับว่า กระแสเพื่อไทยยังดีอยู่ คงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพัก ในการไปอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจ เชื่อว่า ชาวบ้านจะมองที่ผลงานของตน รวมถึงผลงานของคุณพ่อ ที่เคยทำมาในอดีต อยากให้มองเรื่องตัวบุคคลมากกว่า แม้การไม่ร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ก็คงมีคนทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย