เมื่อวันที่ 7มกราคม นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1 มีหนังสือเเจ้ง13 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จำเลยคดีแพ่ง ที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการชุมนุมปิดสนามบินปี 2551 กว่า 522 ล้านบาท ให้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา ว่าอัยการสำนักงานบังคับคดีจะมีอำนาจในการบังคับคดีในส่วนที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องหรือคดีในส่วนอาญาที่ศาลมีคำพิพากษาให้ปรับหรือชำระค่าเสียหาย ซึ่งคดีนี้อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง13 โดยมี ทอท.เป็นเจ้าของเรื่อง ดังนั้น ในกระบวนการสืบทรัพย์ทางอัยการจะช่วยดำเนินการสืบทรัพย์โดยการออกหนังสือสอบถาม เรื่องทรัพย์ไปในหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องหุ้น บัญชีเงินฝาก หรือที่ดิน ตามกรมที่ดิน เเละเมื่อสืบทรัพย์เเละได้ความว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ใดก็จะเเจ้งให้ ทอท.เจ้าของเรื่องนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของศาลที่ได้ออกคำบังคับไว้ ซึ่งทรัพย์ที่ยึดได้จะต้องนำมาขายทอดตลาด ส่วนหากชำระเเล้วยังไม่พออัยการก็จะดำเนินการตามหน้าที่คือเเจ้งตัวความ ถ้า ทอท.มีหนังสือมาขอให้ฟ้องคดีล้มละลายต่อ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็มีกองคดีล้มละลายสำหรับฟ้องคดีล้มละลายต่อ
เมื่อถามเรื่องขั้นตอนการสืบทรัพย์กรณีที่มีการยักย้ายถ่ายเท นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า หากเกิดกรณีเช่นนี้สำนักงานอัยการฝ่ายการบังคับคดีก็คงจะต้องนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป