คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์
เคยเขียนไป ขอเชียร์ “เมืองรอง” ให้แจ้งเกิดจากท่องเที่ยวรอบนี้ รอบหลังโควิด-19 ที่ถล่มจนเจ๊งมาตลอด 3 ปี
แต่เอาเข้าจริง เมืองรองก็คือเมืองรอง คงสู้ “เมืองหลัก” ไม่ได้และต้องอาศัยใบบุญจากนักท่องเที่ยวคนไทยด้วยกันเอง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ขณะที่ “ภูเก็ต-เชียงใหม่” น้ำขึ้นก็ต้องรีบตัก เมื่อนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลก ยังคงคลั่งไคล้ใหลหลง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงเริ่มตื่นตัว
ในงานสัมมนาประชาชาติธุรกิจ “New Era Economy อนาคตประเทศไทย” ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ
คุณเต-ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม บอสใหญ่ ศุภาลัย ได้กล่าวในหัวข้อ The Next Chapter…เรียลเอสเตตไทย
“ศุภาลัย” ประสบความสำเร็จในการบุกตลาดต่างจังหวัด และทำรายได้ในสัดส่วนที่สูงถึง 40% และพูดถึง “ภูเก็ต” แบบเซอร์ไพรส์ว่า
แล้วตลาดต่างจังหวัดจาก 22 จังหวัดที่ลงทุนไป พบว่า หลังโควิดตลาดเริ่มฟื้นตัวชัดเจน โดยเฉพาะหัวเมืองหลักอย่าง “ภูเก็ต” มีการเติบโตแซงหน้า “ชลบุรี-ระยอง” ไปแล้ว
ทั้ง ๆ ที่ภาคตะวันออกคือทำเลสร้างรายได้ให้ศุภาลัยมาตลอด เรียกว่า พลิกล็อกจนกลายเป็นประเด็น
ล่าสุด “ไนท์แฟรงค์” ออกข่าวว่า นักลงทุนต่างชาติกลับมาแห่ซื้ออสังหาฯภูเก็ตอีกระลอก โดยเฉพาะ “จีน-รัสเซีย”
ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกก่อนหมดไตรมาสแรกของปี 2566 ทำให้ประเทศไทยมีความเชื่อมั่นมากขึ้น จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ดีดตัวกลับจากการเปิดประเทศของไทยและจีน
รวมถึงการเมืองไทยที่กำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่
ต้องยอมรับว่าภูเก็ตยังเป็นตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อพักผ่อน เป็นไข่มุกอันดามันที่นักเดินทางทั่วโลกต้องเช็กลิสต์มาปักหมุดและซื้ออสังหาฯอยู่อาศัย หรือไม่ก็ปล่อยเช่า
ที่น่าแปลกใจจากที่เคยเป็นตลาดของฝรั่งแถบยุโรปและสแกนดิเนเวีย มาวันนี้กลายเป็นฝรั่งรัสเซีย ที่เคยเป็นลูกค้าและทุนใหญ่ครองเมืองพัทยาแนว ๆ มาเฟีย
เมื่อลงรายละเอียดประเภทอสังหาฯ หนีไม่พ้นคอนโดฯที่เปิดขายใหม่ ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณหาดบางเทาร้อยละ 45 รองลงมาคือหาดลายันร้อยละ 31
ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดฯในภูเก็ตเมื่อปลายปี 2565 ขายได้ 18,613 ยูนิต จาก 24,211 ยูนิต ในปี 2564 ปัจจุบันมียูนิตเหลือขายอีก 5,598 ยูนิต ไนท์แฟรงค์คาดว่า ตลาดจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนช่วงโควิดภายใน 1-2 ปี
แน่นอน ดีมานด์พุ่ง ราคาย่อมพุ่ง การตัดสินใจซื้อของต่างชาติจะมองเรื่องของ “ทำเล-ราคาขาย-ชื่อเสียงแบรนด์เจ้าของโครงการ” เป็นหลัก
แต่สิ่งที่กังวลคือ ต้นทุนที่แปรเปลี่ยนเร็ว และแรงงานที่ยังขาดแคลนต่อเนื่อง
นอกจากวิลล่าที่ขายดีจนถูกทุบสถิติไปแล้วในภูเก็ต ลูกค้าชาวจีนยังคงเข้ามาแห่ซื้อบ้าน-คอนโดฯในเชียงใหม่อย่างต่อเนื่องอีกเช่นกัน
เรียกว่า ดีมานด์ไหลทะลักเข้ามาเหมือนฝุ่นพิษ PM 2.5 ในภาคเหนือ
เหตุผลหลายประการที่จีนชอบเชียงใหม่คือ ไม่ไกล อากาศดี ค่าครองชีพถูก
หากลงทุนก็มีกำไร หากอยู่ในวัยเกษียณก็มีความสุข
ทั้งภูเก็ตและเชียงใหม่ จึงเป็นสวรรค์ของชาวต่างชาติ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฟันธงว่า เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีชาวต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมมากที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจากภูเก็ต (อันดับ 3) ชลบุรี (อันดับ 2) และกรุงเทพฯ (อันดับ 1)
โดยมีชาวจีนครองอันดับ 1 สัญชาติที่รับโอนคอนโดฯมากที่สุดตลอด 5 ปีย้อนหลัง (ปี 2561-2565) และเป็นจำนวนที่มากกว่าจำนวนของสัญชาติอันดับ 2-10 รวมกันซะอีก
การเปิดประเทศของจีนเมื่อต้นปี 2566 ส่งผลชัดต่อตลาดนักท่องเที่ยวและกลายเป็นผู้ซื้ออสังหาฯ มากที่สุดหลังรัฐบาลจีนเปิดประเทศเป็นทางการแค่ครึ่งชั่วโมง
ทั้งทำเอายอดจองโรงแรมจากนักท่องเที่ยวจีนวิ่งปรู๊ดขึ้นจนรับจองแทบไม่ทัน ส่งผลให้ยอดเข้าพักเพิ่มพรวด 40% เมื่อปีที่แล้ว และพุ่งถึง 90% ในทันที จีนช่างหวือหวาจริง ๆ
