FPT โชว์ครึ่งปีแรก รายได้ 6,500 ล้าน ฟรีวีซ่าหนุนท่องเที่ยว โกดัง-ออฟฟิศ-รีเทลผู้เช่าแน่น

FPT-เฟรเซอร์สฯ ไทย เผยครึ่งปีแรก (ต.ค.2566 – มี.ค. 2567) รายได้รวม 6,591 ล้านบาท กำไรสุทธิ 487 ล้านบาท ช่วง ม.ค.-มี.ค. 67 มีรายได้รวม 3,524 ล้านบาท กำไรสุทธิ 165 ล้านบาท เล็งเปิดที่อยู่อาศัย 4 โครงการใหม่ ปรับพอร์ตอุตสาหกรรม-พาณิชยกรรมปั๊มรายได้เติบโตต่อเนื่อง อัตราเช่า 86-92%

วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากจุดแข็งของธุรกิจซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร

ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างมั่นคง มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และจากค่าเช่าที่เติบโตต่อเนื่องผ่านธุรกิจโรงงานและคลังสินค้า รวมถึงอาคารสำนักงานเกรดเอ พื้นที่รีเทล และโรงแรม

โดยผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2567 (ตุลาคม 2566 – มีนาคม 2567) มีรายได้ 6,591 ล้านบาท จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 4,102 ล้านบาท ลดลง 881 ล้านบาท หรือ 17.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

รายได้ค่าเช่าและบริการ 1,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155 ล้านบาท หรือ 11.5% และรายได้อื่น ๆ 983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187 ล้านบาท หรือ 23.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 487 ล้านบาท
ในส่วนของผลประกอบการไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2567 (มกราคม – มีนาคม 2567) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่งผลให้มียอดขายสูงกว่า 6,000 ล้านบาท

Advertisment

อย่างไรก็ตาม ยังเผชิญกับภาวะดอกเบี้ยสูงและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อยอดการปฏิเสธการขอสินเชื่อจากธนาคาร ทำให้สามารถสร้างรายได้ 2,371 ล้านบาท

โดยได้เปิดโครงการใหม่แบรนด์ “เดอะแกรนด์ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง” มูลค่า 2,100 ล้านบาท ภายใต้การปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในการระบาย สต๊อกสินค้าควบคู่กับการจัดแคมเปญทางการตลาด

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดอีก 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,100 ล้านบาท ครอบคลุมสินค้าทั้งบ้านคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์เดอะ แกรนด์, แกรนดิโอ และนีโอโฮมบนทำเลกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พร้อมทั้งคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์แบรนด์โคลส รัชดา 7 (KLOS Ratchada 7)

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม ทำรายได้รวม 772 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าได้รับอานิสงส์ต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติที่ย้ายและขยายฐานการผลิตจากประเทศจีน ส่งผลให้ดีมานด์โรงงานและคลังสินค้าขยายตัว มีอัตราการเช่ารวมสูงถึง 86%

Advertisment

โดยไตรมาสนี้ได้ส่งมอบคลังสินค้าทั้งแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit) และแบบสร้างตามฟังก์ชันพร้อมใช้ (Built-to-Function) รวมพื้นที่ 40,000 ตร.ม.

อีกทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนา 2 โครงการในไทยและเวียดนามด้วยพื้นที่กว่า 86,000 ตร.ม. ซึ่งจะทำการส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลัง

ขณะเดียวกัน เตรียมขยายการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซีย หลังมีผู้เช่าหนาแน่น และมีอัตราการเช่าเกือบ 100%

ด้านอาคารสำนักงานให้เช่าและพื้นที่รีเทล สามารถรักษาอัตราการเช่าของพอร์ตโฟลิโออยู่ที่ 92% มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นของรายได้ตามสัญญา ซึ่งบริษัทมีการยกระดับอาคารอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์และครอบคลุมความต้องการของผู้เช่าได้มากขึ้น

ส่วนธุรกิจโรงแรมมีแรงหนุนจากมาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน และการท่องเที่ยวคึกคักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ FPT ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจากทริสเรทติ้งในระดับ “A” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจและความมั่นคงของเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย