
บนการเปลี่ยนแปลงของทำเลโซนบางนา-ตราด หนึ่งในทำเลฮอตฮิตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมแห่งปี 2568
ล่าสุด กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช เพิ่งจะเติมการลงทุนรอบใหม่ ด้วยการทุ่มทุนสร้าง 2,000 ล้านบาท เปิดบริการโรงพยาบาลเด็ก ในบริเวณโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ นำเสนอผ่านแนวคิดผสมผสาน Smart Healthcare Ecosystem ยกระดับ Smart Hospital สู่สากล มุ่งสร้างสังคมแข็งแรง เริ่มต้นจากเด็กไทยแข็งแรง
แต่ทว่า การเติมจิ๊กซอว์โรงพยาบาลเด็กได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ จากการที่วันตัดริบบิ้นเปิดใช้อาคารใหม่โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล มีคณะสื่อมวลชนชาวจีนให้ความสนใจตอบรับเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดย “นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช ระบุว่า ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งอยู่ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ซึ่งเชื่อมแบบไร้รอยต่อกับพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของไทย คือ โซน EEC (ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก 3 จังหวัด ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา)

ทำให้มองเห็นโอกาสส่วนหนึ่งมาจากปัจจุบันมีนักลงทุนชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย หรือที่เรียกว่ากลุ่ม Expat โดยมีจำนวนมากที่เป็นชาวจีน โดยเฉพาะในเขต EEC ซึ่งมีนักลงทุนชาวจีนมากที่สุด และมีการพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ขณะที่หลายรายไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่พาครอบครัวมาอยู่ด้วย เพราะไทยมีพร้อมทั้งโรงเรียนนานาชาติ มีโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำที่เป็นแหล่งใช้ชีวิตสำคัญ ซึ่งต้องอย่าลืมว่าการข้ามประเทศมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทำอย่างไรจะให้นักลงทุนต่างชาติที่มีกำลังซื้อศักยภาพสูงเหล่านี้ เข้ามาแล้วรู้สึกปลอดภัย
“หนึ่งในแม็กเนตที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ คือ ธุรกิจด้านเฮลท์แคร์ เขาต้องมีความมั่นใจเมื่อเวลาเกิดเจ็บป่วย สมิติเวชคือคำตอบ เพราะที่นี่คือศูนย์กลางของการรักษาโรคยาก โรคพิเศษทั้งหลายในภาคเอกชน ใครทำไม่ได้ ที่นี่ทำได้”
นำมาสู่การวางแผนกลุ่มเป้าหมายของโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช สัดส่วนหลักเป็นคนไทย 65% ชาวต่างประเทศ 35% จุดโฟกัสอยู่ที่สัดส่วน 35% ของผู้ใช้บริการชาวต่างประเทศนั้น มีการเดินทางเข้ามาเพื่อใช้บริการมากถึง 68% ในแง่สัญชาตินอกจากจีนแล้ว ยังมี “ญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการเริ่มแรก รองลงมาก็เป็นกลุ่มตะวันออกกลาง และประเทศตะวันตก
จากมุมมองที่ว่าโรงพยาบาลต้องดูแลด้านบริการ นอกจากต้องมี Hi-Tech เพื่อให้บริการดีขึ้น สร้างคุณภาพการรักษาแล้ว ยังมี Hi-Touch เพื่อสร้างคุณภาพของผู้ใช้บริการ แต่ที่สุดต้องมี Hi-Trust ต้องเท่าทันกับผู้ใช้บริการทั้งปัจจุบันและอนาคตให้ผู้ป่วยพึงพอใจและต้องการมาใช้บริการในอนาคต โดยโรงพยาบาลสมิติเวชได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคสูงถึง 98% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และโรงพยาบาลอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดอาคารเด็กโดยเฉพาะ ขนาด 8 ชั้น 111 เตียง ภายในบริเวณโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ยกระดับการดูแลสุขภาพเด็กสู่ระดับนานาชาติ ชูจุดแข็งการเป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศ ด้วยศักยภาพของกุมารแพทย์เฉพาะทางรักษาโรคยาก โรคซับซ้อนในเด็ก ผสานความเป็น Smart Hospital ด้วย Smart Healthcare Ecosystem ไร้รอยต่อด้วยระบบดิจิทัลตั้งแต่ก่อนมาโรงพยาบาลถึงการดูแลต่อเนื่องหลังกลับบ้าน ที่ยังคงเน้นการป้องกันรักษาทุกมิติสุขภาพ Self-care, Early Care, Risk Care, Sick Care
มากกว่านั้นคือการทำให้เด็กโตไปไม่ป่วย ด้วยโมเดล Smart Care ดูแลตัวเองตั้งแต่ต้นน้ำ ผ่านทางแอป Well Kidz บริหารจัดการก่อนจะเกิดโรค ซึ่งในแอปมีทั้งความรู้ในการดูแลตัวเอง ประเมินสุขภาพเบื้องต้น ตลอดจนปรึกษาแพทย์ผ่านทางเทเลเมดิซิน การนัดหมายแพทย์ เป็นต้น
ด้วยความตั้งใจจะสร้างโรงพยาบาลที่ตอบสนองกับทุกคน โดยเริ่มจากจุดแข็งของการเป็นโรงพยาบาลเด็กที่มีแพทย์เฉพาะทางมากที่สุดกว่า 100 ราย โดยเฉพาะเรื่องของโรคหายาก โรคซับซ้อน ตอกย้ำจุดแข็ง ใครรักษาไม่ได้ จะมาที่นี่ มีบทพิสูจน์จาก “COE-Center of Excellence” หรือศูนย์แห่งความเป็นเลิศ ซึ่งทำเพิ่มในเรื่องการปลูกถ่ายไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดใหม่ รักษาโรคธาลัสซีเมียด้วยวิธีใหม่ที่ถือว่าก้าวหน้าที่สุดของเอเชีย โอกาสรอดหลังการรักษา 1 ปีสูงถึง 91% และอะไรที่เกี่ยวกับการทำสายสวนที่นี่เก่งที่สุด
“สิ่งที่อยากเห็นคือ การสร้างโรงพยาบาลที่ไม่ใช่แค่โรงพยาบาล แต่ต้องการให้เยาวชนไทยแข็งแรง ประเทศชาติจะแข็งแรง สิ่งที่สร้างขึ้นมาเป็นเรื่องของคุณค่าที่มากกว่ามูลค่า”