รถไฟฟ้า BTS ใหม่ขบวนแรกเดินทางถึงไทยจุคนได้เพิ่ม10% เปิดวิ่ง”แบริ่ง-สมุทรปราการ” 5 ธ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2561 รถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนแรก จากกรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ได้เดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งในวันที่ 6 สิงหาคม 2561 นายกิติศักดิ์ อร่ามเรือง ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ได้เข้าตรวจรับขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสใหม่ ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง ซี 0 จ.ชลบุรี

นายกิติศักดิ์กล่าวว่า รถไฟฟ้าขบวนแรกนี้เป็นขบวนรถไฟในจำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ที่ BTSC ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจาก บริษัทซีเมนส์ จำกัด เพื่อนำมารองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสในปัจจุบันและส่วนต่อขยาย สายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในเดือนธันวาคม 2561

มีจำนวน 9 สถานี ซึ่งเมื่อปี 2560 ได้เปิดให้บริการ จำนวน 1 สถานี คือ สถานีสำโรง และอีก 8 สถานี ที่จะเปิดให้บริการปลายปีนี้ ประกอบด้วย สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีสุดท้าย คือ สถานีเคหะฯ

และเมื่อส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต เสร็จเรียบร้อย รวมทั้งเส้นทางของรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยและประหยัดเวลา

นายสุรพงษ์กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุน 11,000 ล้านบาท ซื้อขบวนรถไฟฟ้าใหม่ จำนวน 46 ขบวน โดยเป็นรถจากบริษัทซีเมนส์ จำนวน 22 ขบวน และของ CRC อีก 24 ขบวน ซึ่งรถขบวนแรกของซีเมนส์จะมาถึงก่อน จะครบในเดือน เม.ย.2562 ส่วนรถของ CRC จะมาถึงปลายปีนี้และครบทั้งหมดปลายปี 2562

สำหรับรถขบวนแรก ทำการออกแบบโดยผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ในเยอรมนีและออสเตรียเป็นส่วนใหญ่ และนำมาประกอบที่โรงงานของบริษัท Bozankaya ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทซีเมนส์ และเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยรถไฟฟ้าขบวนใหม่นี้ จะมีการปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน และมีพื้นที่จุคนได้มากขึ้นตู้ละประมาณ 10%จากเดิมอยู่ที่ 200 คน พร้อมเพิ่มราวจับ ปรับดีไซน์เก้าอี้นั่งใหม่

อีกทั้งในขบวนรถเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของบริษัทซีเมนส์ทุกประการและจะใช้สเป็กเดียวกันหรือดีกว่าขบวนรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เข้ากันได้กับระบบต่างๆ ที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ แต่จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดจากผู้ผลิตชั้นนำของโลก เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน และลดความหนาแน่นของผู้โดยสารที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน